+ ตอบกลับกระทู้
สรุปผลการค้นหา 1 ถึง 3 จากทั้งหมด 3
  1. #1
    Administrators รูปส่วนตัว Duckload.us
    สมัครเมื่อ
    Dec 2010
    โพสต์
    151,053
    Thanks
    7
    Thanked 158,201 Times in 69,087 Posts

    Exclamation [จีน]-เสี้ยวลิ้มยี่ ภาค 1-3 The Shaolin Temple 1982-1986 พันธมิตร By O Sarakham-Remux.Other.720p. [Modified]-[พากย์ไทย]



    ก่อนที่จะมีชื่อรองว่า “หวงเฟยหง” ดารานักบู๊ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ “หลี่เหลียนเจี๋ย” เคยมีเครื่องหมายการค้าเป็นหนังไตรภาคชุด “เสี่ยวลิ้มยี่” ผลงานที่เรียกได้ว่าสร้างชื่อให้เขาอย่างแท้จริง เป็นหนังกังฟูยุค 80s ที่น่าสนใจทั้งตัวงาน และเรื่องราวหลังฉากงานสร้าง ที่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของจีนแผ่นดินใหญ่ได้เป็ นอย่างดี

    Shaolin Temple หรือ “เสี่ยวลิ้มยี่” หนังปี 1982 ผลงานของผู้สร้างจากทางฮ่องกงที่ชื่อว่า บริษัท จงหยวน เป็นฝีมือของนักทำหนังรุ่นลายคาม อย่างผู้อำนวยการสร้าง “ฟุฉี” และผู้กำกับ “จางซิ่งเหยิน” ที่ยกกองถ่ายเข้าไปทำงานร่วมกับทีมงาน และนักแสดง ที่แทบจะเป็นชาวแผ่นดินใหญ่ทั้งหมด โดยเฉพาะนักแสดงนำ นักกีฬาวูซูระดับแชมป์ที่ชื่อว่า “หลีเหลียนเจี๋ย” ที่ต่อมากลายเป็นนักแสดงกังฟูที่ดังที่สุดอีกคนในประ วัติศาสตร์ของงานสายนี้ จนกลายเป็นหนังดังแห่งยุค ปลุกให้หนังกังฟูที่เรียกว่าแทบจะหมดลมหายใจไปแล้ว ให้ได้รับความสนใจขึ้นมาอีกครั้ง


    เปิดตำนาน เสี่ยวลิ้มยี่ ....

    เรื่องราวของ Shaolin Temple เริ่มต้นด้วยการบวชเข้าเป็นพระวัดเส้าหลินของหนุ่มน้ อยคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนเขาจะมีปัญหาในการรับศีลข้อที่ว่า "ห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต" ...

    หลังจากนั้นหนังจึงเล่าเรื่องย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต ้น ในยุคที่สภาพบ้านเมืองจีน กำลังอยู่ในช่วงระส่ำระสายหลัก ชาวบ้านถูกเกณฑ์ไปสร้างเมืองหลวงใหม่ให้กับขุนศึกผู้ มักใหญ่ใฝ่สูง ชาวบ้านที่ถูกบีบบังคับใช้แรงงานคนหนึ่งพยายามแข็งข้ อ แม้จะมีฝีไม้ลายมืออยู่บ้าง แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับเหล่ากองทัพ ที่มีทั้งจำนวน, อาวุธ และความชำนาญในการต่อสู้ที่มากกว่า สุดท้ายชาวบ้านผู้กล้าหาญก็ถูกฆ่า แต่อย่างน้อยเขาก็ยังช่วยให้ลูกชายคนเดียวของตัวเองห นีรอดไปได้

    กับเรื่องราวพื้น ๆ มีตัวเอกเด็กหนุ่มชาวบ้าน ผู้ตกเป็นเหยื่อของภัยสงครามการแย่งชิงอำนาจ เสี่ยวลิ้มยี่ ก็เหมือนหนังกังฟูในยุค 70s - 80s ทั่วๆ ไป ที่มีเนื้อเรื่องเรียบง่าย พอจะเปิดพื้นที่สำหรับการระดมฉากต่อสู้ และคิวบู๊ให้ดำเนินต่อเนื่องไปตลอดทั้งเรื่อง

    หนังใช้เวลาไม่นานก็พาตัวเองเข้าสู่วัดเส้าหลิน ที่นั้นเด็กหนุ่มได้รับการถ่ายทอดวิชามวย และเพลงอาวุธต่าง ๆ ซึ่งสำหรับเขานี่คือโอกาสชั้นที่จะได้นำไปสู่การล้าง แค้น แต่สุดท้ายนอกจากหนี้ชีวิตของบิดาแล้ว เขากลับมีโอกาสช่วยเหลือ “หลี่ซื่อหมิน ” ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ถัง ให้รอดพ้นจากภัยอันตรายด้วย

    การอนุญาตให้ เสี้ยวลิ้มยี่ ได้เข้าไปถ่ายทำในจีน พร้อมนำแสดงโดยยอดนักกีฬาระดับสมบัติของชาติ คือส่วนสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้พิเศษจากงานเรื่อง อื่น ๆ ในยุคเดียวกันทั้งหมด ในทางตรงกันข้ามนี่ยังแสดงออกถึงเจตนารมเปิดประเทศใน ยุค 80s ของพญามังกร ที่ตอนนั้นดูจะแสดงออกถึงความต้องการทำความรู้จักกับ โลกภายนอกให้มากขึ้น

    เรื่องราวของวัดเส้าหลินในหนังเรื่องนี้ ก็ดูจะมีความแตกต่างจากหนังเส้าหลินมากมายหลายร้อยเร ื่อง ที่เคยถูกสร้างมาในฮ่องกง หรือไต้หวัน หนังไม่ใช้ฉากหลังเป็นยุคราชวงศ์ชิง ที่ว่าด้วยต่อสู้เชิงต่อต้านของ กบฏชาวฮั่น กับรัฐบาลแมนจู แต่เป็นเรื่องราวที่ย้อนอดีตไปไกลกว่านั้น ในสมัยต้นราชวงศ์ถัง กับเนื้อหาที่ว่ากันด้วย การสร้างชาติของชาวฮั่น ซึ่งก็ดูจะไปกันได้ดี กับการเป็นหนังที่สนับสนุนโดยรัฐบาล



    รสชาติที่แตกต่าง ....

    ตามปกติแล้วหนังกังฟูในช่วงปลายยุค 70 จนถึงต้นยุค 80 นั้นมักจะมาคู่กับคำว่า "ทุนต่ำ" แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ Shaolin Temple ที่ดูมีการลงทุน สร้างออกมาอย่างประณีต แม้ เสี่ยวลิ้มยี่ จะไม่ได้เป็นหนังกำลังภายในสุดโปรดเรื่องหนึ่งของผู้ เขียน แต่ก็ยอมรับว่าหนังชุดนี้มีดีอยู่ไม่น้อย

    จุดเด่นที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ การเล่าเรื่องอย่างไม่รีบร้อน มีความกลมกล่อมอย่างหนังกำลังภายในยุคเก่าตามความถนั ดของผู้กำกับ หนังยังใช้ประโยชน์จากการถ่ายทำในจีนแผ่นดินใหญ่ได้อ ย่างคุ้มค่า ฉายภาพทัศนียภาพอันสวยงามของประเทศจีน ทั้งน้ำตก, แม่น้ำ รวมถึงสิ่งปลูกสร้างสำคัญอย่าง กำแพงเมืองจีน สร้างความแตกต่างให้กับหนังอย่างเห็นได้ชัด ภาพที่ออกมาดูยิ่งใหญ่อลังการ บนฉากหลังแปลกตา แตกต่างจากฉากซ้ำซากในหนังกังฟูฮ่องกงยุคนั้นโดยสิ้น เชิง

    ว่ากันที่คิวบู๊ Shaolin Temple มีมวยกังฟูที่สวยงามให้ชม เป็นการแสดงหมัดมวยในแบบเดียวกับกีฬาวูซู ที่เน้นความต่อเนื่องของท่าทาง, มีฉากรำมวย โชว์เพลงอาวุธให้ดูกันอย่างยาวเหยียด ... ต้องยอมรับว่านักแสดงมีทักษะความสามารถกันทุกคน แต่เมื่อถึงฉากพะบู๊ต่อสู้เอาชีพก็ทำได้ถึงพริกถึงขิ งดี

    แม้หนังจะไม่ได้นำเสนอธรรมะอันลุ่มลึกน่าขบคิดอะไร แต่ก็มีหลายฉากหลายตอนที่พอจะแสดงให้เห็นการตีความหล ักคำสอนอยู่บ้าง โดยเฉพาะการแสดงให้เห็นถึงความยากลำบาก ในการรักษาคำสอน และเดินตามทางพุทธศาสนา ในสถานการณ์อันยากลำบาก

    ทั้งในฉากตลกโป๊กฮาที่พยายามหาเหตุผลให้กับการบริโภค เนื้อสัตว์และสุราของ เหล่าพระสงฆ์ จนไปถึงฉากตึงเครียดที่พูดถึงคำถามที่ว่า พระสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการฆ่าฟัน ในสถานการณ์ที่จำเป็นที่สุดได้หรือไม่ ... และแบบใดจึงจะเรียกว่า "ความจำเป็น" ... หนังมีคำตอบที่ชัดเจนเป็นเหตุเป็นผลดี อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ทุกคนเห็นด้วย แต่ก็เป็นเหตุผลที่น่ารับฟัง





    Format : Matroska
    Format version : Version 2
    File size : 2.39 GiB
    Duration : 1h 39mn
    Overall bit rate : 3 419 Kbps
    Encoded date : UTC 2014-03-06 04:59:18
    Writing application : mkvmerge v4.8.0 ( I Got The... ) built on May 24 2011 03:12:58
    Writing library : libebml v1.2.0 + libmatroska v1.1.0

    Video
    ID : 1
    Format : AVC
    Format/Info : Advanced Video Codec
    Format profile : [email protected]
    Format settings, CABAC : Yes
    Format settings, ReFrames : 9 frames
    Muxing mode : Header stripping
    Codec ID : V_MPEG4/ISO/AVC
    Duration : 1h 39mn
    Bit rate : 2 778 Kbps
    Width : 1 280 pixels
    Height : 536 pixels
    Display aspect ratio : 2.40:1
    Frame rate mode : Constant
    Frame rate : 23.976 fps
    Color space : YUV
    Chroma subsampling : 4:2:0
    Bit depth : 8 bits
    Scan type : Progressive
    Bits/(Pixel*Frame) : 0.169
    Stream size : 1.89 GiB (79%)
    Title : The.Shaolin.Temple.1982 1280x536p
    Writing library : x264 core 135 r2345 f0c1c53
    Encoding settings : cabac=1 / ref=9 / deblock=1:-3:-3 / analyse=0x3:0x113 / me=umh / subme=10 / psy=1 / psy_rd=1.00:0.00 / mixed_ref=1 / me_range=16 / chroma_me=1 / trellis=2 / 8x8dct=1 / cqm=0 / deadzone=21,11 / fast_pskip=1 / chroma_qp_offset=-2 / threads=12 / lookahead_threads=1 / sliced_threads=0 / nr=0 / decimate=1 / interlaced=0 / bluray_compat=0 / constrained_intra=0 / bframes=3 / b_pyramid=2 / b_adapt=1 / b_bias=0 / direct=1 / weightb=1 / open_gop=0 / weightp=2 / keyint=250 / keyint_min=23 / scenecut=40 / intra_refresh=0 / rc=2pass / mbtree=0 / bitrate=2778 / ratetol=1.0 / qcomp=0.60 / qpmin=0 / qpmax=69 / qpstep=4 / cplxblur=20.0 / qblur=0.5 / ip_ratio=1.40 / pb_ratio=1.30 / aq=1:0.80
    Language : Chinese
    Default : Yes
    Forced : No

    Audio #1
    ID : 2
    Format : AC-3
    Format/Info : Audio Coding 3
    Mode extension : CM (complete main)
    Format settings, Endianness : Big
    Muxing mode : Header stripping
    Codec ID : A_AC3
    Duration : 1h 39mn
    Bit rate mode : Constant
    Bit rate : 448 Kbps
    Channel(s) : 6 channels
    Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
    Sampling rate : 48.0 KHz
    Bit depth : 16 bits
    Compression mode : Lossy
    Stream size : 320 MiB (13%)
    Language : Chinese
    Default : No
    Forced : No

    Audio #2
    ID : 3
    Format : AC-3
    Format/Info : Audio Coding 3
    Mode extension : CM (complete main)
    Format settings, Endianness : Big
    Muxing mode : Header stripping
    Codec ID : A_AC3
    Duration : 1h 39mn
    Bit rate mode : Constant
    Bit rate : 192 Kbps
    Channel(s) : 2 channels
    Channel positions : Front: L R
    Sampling rate : 48.0 KHz
    Bit depth : 16 bits
    Compression mode : Lossy
    Stream size : 137 MiB (6%)
    Title : Thai 2.0 By O Sarakham
    Language : Thai
    Default : Yes
    Forced : Yes





    ครอบครัว 2 ตระกูลที่อาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน มีเพียงแม่น้ำสายใหญ่กั้นกลาง หนึ่งคือบ้านของเศรษฐี เปา เซิ่งฟง
    ผู้เยี่ยมยุทธในทางกระบี่บู๊ตึ้ง มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย และบ้านหลังใหญ่
    แต่กลับอาภัพบุตรผู้สืบสกุล มีทายาทถึง 7 คนแต่ก็เป็นลูกสาวเสียหมด
    ส่วนอีกบ้านเป็นของ เทียนฟง และน้องชายที่ชื่อว่า หยีหลง สองพี่น้องซึ่งอดีตเคยเป็นจอมยุทธศิษย์ของวัดเส้าหลิ น ที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้า 7 คน
    เป็นบุตรบุญธรรม ทั้งสองพยายามช่วยกันทำงานเก็บเงินเพื่อขอลูกสาวอีกบ ้านมาแต่งงานเป็นภรรยา แต่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นได้ยากเต็มทน
    เพราะสองบ้านเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน แถมยังมีคำขาดจากอีกฝ่ายว่า ต้องหาเงินมาซื้อวัว 10 ตัวเป็นค่าสินสอด แต่กว่าจะได้วัวซักตัวก็เลือดตาแทบกระเด็นแล้ว

    Format : Matroska
    Format version : Version 2
    File size : 2.58 GiB
    Duration : 1h 43mn
    Overall bit rate : 3 573 Kbps
    Encoded date : UTC 2014-03-06 05:05:24
    Writing application : mkvmerge v4.8.0 ( I Got The... ) built on May 24 2011 03:12:58
    Writing library : libebml v1.2.0 + libmatroska v1.1.0

    Video
    ID : 1
    Format : AVC
    Format/Info : Advanced Video Codec
    Format profile : [email protected]
    Format settings, CABAC : Yes
    Format settings, ReFrames : 16 frames
    Muxing mode : Header stripping
    Codec ID : V_MPEG4/ISO/AVC
    Duration : 1h 43mn
    Bit rate : 2 293 Kbps
    Width : 1 096 pixels
    Height : 456 pixels
    Display aspect ratio : 2.40:1
    Frame rate mode : Constant
    Frame rate : 23.976 fps
    Color space : YUV
    Chroma subsampling : 4:2:0
    Bit depth : 8 bits
    Scan type : Progressive
    Bits/(Pixel*Frame) : 0.191
    Stream size : 1.60 GiB (62%)
    Title : Shaolin.Temple.2.Kids.of.Shaolin.1984 1096x456p
    Writing library : x264 core 133 r2334 a3ac64b
    Encoding settings : cabac=1 / ref=16 / deblock=1:-2:-1 / analyse=0x3:0x113 / me=umh / subme=11 / psy=1 / psy_rd=1.00:0.00 / mixed_ref=1 / me_range=32 / chroma_me=1 / trellis=2 / 8x8dct=1 / cqm=0 / deadzone=21,11 / fast_pskip=1 / chroma_qp_offset=-2 / threads=12 / lookahead_threads=1 / sliced_threads=0 / nr=0 / decimate=0 / interlaced=0 / bluray_compat=0 / constrained_intra=0 / bframes=16 / b_pyramid=2 / b_adapt=1 / b_bias=16 / direct=3 / weightb=1 / open_gop=0 / weightp=2 / keyint=240 / keyint_min=23 / scenecut=40 / intra_refresh=0 / rc_lookahead=40 / rc=2pass / mbtree=1 / bitrate=2293 / ratetol=1.0 / qcomp=0.60 / qpmin=10 / qpmax=51 / qpstep=4 / cplxblur=20.0 / qblur=0.5 / ip_ratio=1.40 / aq=1:1.00
    Language : Chinese
    Default : Yes
    Forced : No

    Audio #1
    ID : 2
    Format : AC-3
    Format/Info : Audio Coding 3
    Mode extension : CM (complete main)
    Format settings, Endianness : Big
    Muxing mode : Header stripping
    Codec ID : A_AC3
    Duration : 1h 43mn
    Bit rate mode : Constant
    Bit rate : 640 Kbps
    Channel(s) : 6 channels
    Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
    Sampling rate : 48.0 KHz
    Bit depth : 16 bits
    Compression mode : Lossy
    Stream size : 473 MiB (18%)
    Title : Mandarin
    Language : Chinese
    Default : No
    Forced : No

    Audio #2
    ID : 3
    Format : AC-3
    Format/Info : Audio Coding 3
    Mode extension : CM (complete main)
    Format settings, Endianness : Big
    Muxing mode : Header stripping
    Codec ID : A_AC3
    Duration : 1h 43mn
    Bit rate mode : Constant
    Bit rate : 448 Kbps
    Channel(s) : 2 channels
    Channel positions : Front: L R
    Sampling rate : 48.0 KHz
    Bit depth : 16 bits
    Compression mode : Lossy
    Stream size : 331 MiB (13%)
    Title : Cantonese
    Language : Chinese
    Default : No
    Forced : No

    Audio #3
    ID : 4
    Format : AC-3
    Format/Info : Audio Coding 3
    Mode extension : CM (complete main)
    Format settings, Endianness : Big
    Muxing mode : Header stripping
    Codec ID : A_AC3
    Duration : 1h 43mn
    Bit rate mode : Constant
    Bit rate : 192 Kbps
    Channel(s) : 2 channels
    Channel positions : Front: L R
    Sampling rate : 48.0 KHz
    Bit depth : 16 bits
    Compression mode : Lossy
    Stream size : 142 MiB (5%)
    Title : Thai 2.0 By O Sarakham
    Language : Thai
    Default : Yes
    Forced : Yes





    หนังเรื่องสุดท้ายในชุด Shaolin Temple เป็นตอนที่ตัวของ “หลี่เหลียนเจี๋ย” บอกตรง ๆ ว่า เขาไม่ได้รู้สึกอยากทำหนังชุดนี้ต่อไปอีกแล้ว แต่ด้วยโอกาสทางธุรกิจกิจหนังภาคที่ 3 ก็เกิดขึ้นจนได้ คราวนี้หนังได้ผู้กำกับดัง“หลิวเจียเหลียง” มาดูแลการถ่ายทำ พร้อมทีมงานจากฮ่องกงส่วนหนึ่ง ที่ต้องทำงานร่วมกับทีมงานท้องถิ่นของแผ่นดินใหญ่ ที่ได้ช่วยกันสร้างภาคที่ “ดีที่สุด” ในหนังชุด “เสี้ยวลิ้มยี่” ออกมา ภายใต้บรรยากาศการทำงาน ที่พระเอกของเรื่องบอกเองว่า "แย่มาก ๆ"

    เรื่องราวของ Shaolin Temple: Martial Art of Shaolin หรือ “มังกรน่ำปั๊ก” ที่เข้าฉายในปี 1984 กลับมาใช้โครงของภาคแรก ที่ว่าด้วยหนุ่มน้อยชาวฮั่น ที่เข้าสู่เส้าหลิน หวังฝึกวิชาเพื่อกลับไปแก้แค้น เป็นเนื้อเรื่องง่าย ๆ ว่าด้วยการล้างแค้นอย่างที่หลาย ๆ คนมักจะดูถูกดูแคลน ว่าหนังจีนก็วนเวียนอยู่กับเรื่องประเภทนี้ แต่อย่างน้อยหนังก็เล่าเรื่องได้ลื่นไหลลงตัวดี สมกับเป็นผลงานของ “หลิวเจียเหลียง” ผู้กำกับหนังกังฟูที่ว่ากันว่า “ยิ่งใหญ่ที่สุด” ในประวัติศาสตร์ของงานสายนี้

    หลีเหลียนเจี๋ย สวมบทบาทเป็น "ซีหมิง" เด็กหนุ่มกำพร้าหลวงจีนวัดเส้าหลินเหนือ ที่ออกจากวัดมาเพื่อชำระแค้นที่พ่อและแม่ของเขาถูกฆ่ า หลังเฝ้าฝึกวิชาในวัดมาแรมปีจังหวะเวลาที่เหมาะสมก็ม าถึงเมื่อถึงงานวันเกิด ของ "ไต้เท้าเหอซัว" ขุนนางผู้ทรงอำนาจและโฉดชั่ว ที่อยู่เบื้องหลังการตายของพ่อแม่ ซีหมิง อย่างไรก็ตามเมื่อถึงวันหลงมือ เขากลับพบคนอีกกลุ่มหนึ่งที่จ้องสังหาร เหอซัว อยู่ด้วยเช่นเดียวกัน แต่สุดท้ายการลอบสังหารกลับล้มเหลว ซีหมิง กับจอมยุทธ์หญิง "ซือหม่าเหยียน" ผู้นำกลุ่มลอบสังหารอีกกลุ่ม ได้หลบหนีไปด้วยกัน โดยมี "เฉาเหว่ย" ศิษย์ฆารวาสแห่งวัดเส้าหลินใต้ ตามมาคุ้มครอง ซือหม่าเหยียน ด้วย

    ยอดเยี่ยมที่สุดใน "ไตรภาค"

    Martial Art of Shaolin เปลี่ยนแปลงฉากหลังของเรื่องราวมาเป็นยุคสมัยราชวงศ์ ชิง ที่ถือว่าเป็นพิมพ์นิยมสำหรับหนังว่าด้วยวัดเส้าหลิน กับการวางให้เหล่าหลวงจีนเป็นตัวแทนของการต่อสู้กับก ารใช้อำนาจกดขี่ของผู้ ปกครอง รวมถึงชาวต่างชาติด้วย

    การได้ทีมงานจากฮ่องกงมาช่วย ถือว่าเปลี่ยนหนังไปในทางที่ดีอย่างเห็นได้ชัด คิวบู๊แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ ดุเดือดเผ็ดมันยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับในเรื่องความสมจริงสมจัง เรียกว่ากำจัดบรรยากาศของ หนังโชว์วูซู บวกกายกรรม อย่างที่เคยเป็นมาในหนังภาคก่อนหน้าไปได้เยอะ เนื้อหาก็ดูหนักแน่น เป็นเนื้อเป็นหนังยิ่งขึ้น ภาษาหนังดูร่วมสมัย ตัวละครมีชีวิตจิตใจมากกว่าที่ผ่าน ๆ มา เรื่องรักสามเส้าที่ใส่เข้ามากก็ไม่เลอะเทอะ และช่วยสร้างสีสันได้

    หลิวเจียเหลียง เริ่มต้นหนังด้วยอารมณ์สนุกสนาน กับฉากฝึกฝนหมัดมวยในเส้าหลิน ที่ทำให้บรรยากาศกลับไปคล้ายกับหนังภาคแรก ก่อนจะพาหนังไปสู่ความตึงเครียดมากขึ้น ฉากลอบสังหาร ฉากหนีเอาชีวิต ทำได้อย่างสนุกตื่นเต้น ฉากต่อสู้ท้ายเรื่องนั้น ผู้กำกับยกตัวละครให้ไปบู๊กันกลางน้ำได้อย่างมันสะเด ็ด เมื่อหลวงจีนเส้าหลินเพียงสองรูปใช้ไม้พลอง ต่อสู้กับทหารแมนจู ที่อาวุธครบมือกับบนเรือสำราญกลางแม่น้ำ เป็นฉากคิวบู๊หนังกังฟูดั้งเดิม ที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกฉากในยุค 80 เลยทีเดียว

    หนังลดทอนตัวละครตัวรุ่นใหญ่ไม่ว่าจะในฝั่งตัวร้าย หรือฝั่งวัดเส้าหลินลง ขับเน้นบทบาทของสามตัวเอกให้เด่นชัดมากขึ้น หลีเหลียนเจี๋ย ดูเป็นคนหนุ่มเลือดร้อนดุเดือดมากกว่าที่แล้วมา น่าจะพูดได้ว่าในวัย 23 ปี ระหว่างถ่ายทำหนังเรื่องนี้ คือช่วงที่ศักยภาพร่างกายของพระเอกนักบู๊อันดับ 1 แห่งจีนแผ่นดินใหญ่สมบูรณ์มากที่สุด คิวบู๊จึงออกมาหนักหน่วงรุนแรงกว่างานหลังจากนี้ของเ ขาอย่างเห็นได้ชัด

    หนังยังมีดารากังฟู หูเจี่ยนเฉียง มารับบทเป็นพระรองของเรื่อง ที่เขาสวมบทบาทเป็นจอมยุทธ์หนุ่มแห่งเส้าหลินใต้ ชื่อสัตย์เถรตรง และเยี่ยมยุทธ์ได้อย่างลงตัว ถือเป็นบทเด่นของนักกีฬาวูซูคนนี้ ที่มีผลงานหนังเพียง 4 เรื่องจึงหันหลังกลับสู่แวดวงศิลปะป้องกันตัวของตนเอ ง

    นางเอกในจอ-นอกจอ

    สำหรับบทนางเอกของเรื่อง เป็นของดาราสาวที่มีพื้นฐานมาจากกังฟูเช่นเดียวกัน หวงชิวเหยียน เป็นถึงดาวเด่นของทีมชาติวูซูของจีน จนมีโอกาสได้รับงานภาพยนตร์ในหนังหลายเรื่อง แต่สุดท้ายชีวิตในวงการบันเทิงของเธอก็สิ้นสุดลงในเว ลาอันสั้น หลังดาราสาวนักบู๊ตัดสินใจเข้าประตูวิวาห์กับ หลีเหลียนเจี๋ย นั่นเอง

    ที่น่าเสียดายยิ่งไปกว่านั้นก็คือ สุดท้ายชีวิตคู่ครั้งนั้นกลับจบลงภายในเวลาเพียงแค่ 2 ปีเศษเท่านั้น ซึ่งต่อมา หลี่เหลียนเจี๋ย ยอมรับว่าเขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนี้อย่างจริงใจ และอธิบายว่าเธอมีความรักให้เขาอย่างเต็มร้อย ตรงกันข้ามตนเองกลับสามารถรักเธอตอบได้แค่ 20% เท่านั้น พระเอกคนดังยังอธิบายว่าเหตุผลที่เขาตัดสินใจจูงมือเ ธอคนนี้เข้าประตูวิวาห์ ก็เพราะตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในช่วงอับโชค มีปัญหาทางสุขภาพ ส่วนชื่อเสียงก็เริ่มถดถอยลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งคุณยายของตนเองเป็นผู้ให้แนะนำว่า การแต่งงานกับ หวงชิวเหยียน นักแสดงสาววัย 22 ปี ที่เขาสนิทสนมด้วย จากการร่วมงานกันในหนัง 2 เรื่อง จะสามารถเปลี่ยนแปลงโชควาสนาต่าง ๆ ในชีวิต รวมถึงทำให้กลับมาโด่งดังอีกครั้งได้

    แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น ชีวิตคู่ครั้งนี้จบลงในเวลาอันสั้น กว่า หลีเหลี่ยนเจี๋ย จะโด่งดังก็เมื่อเขาจึงพบรักกับดาราสาว นีน่า ลี อดีตมิสเอเชียในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องหนึ่งนั่นเอง เป็นชีวิตคู่ที่เขาบอกว่าถือว่าเป็น "รักแท้" ของตนเอง

    คำพูดถึงอดีตภรรยาทั้งเรื่องการแต่งงานเพื่อโชคลาง และการมอบความรักให้กับเธอได้อย่างไม่เต็มเม็ดเต็มหน ่วย อาจทำให้ หลี่เหลียนเจี๋ย ดูเป็นคนใจร้ายไปบ้าง แต่เขาก็ยืนยันว่าที่ผ่านมาตัวเองได้พยายามทำทุกอย่า งให้ดีที่สุดแล้ว ทั้งช่วยเหลือหางานในวงการภาพยนตร์ให้อดีตภรรยา และยังส่งเสียดูแลเธอกับลูกทั้งสองคนอย่างเต็มที่ ไม่ให้มีอะไรบกพร่อง ซึ่งเขาเองก็เสียใจที่ในฐานะพ่อเขาไม่มีโอกาสได้ดูแล และเฝ้ามองการเติบโตของลูกสาวที่เกิดกับเธออย่างที่ค วรจะเป็น

    ความอัดอั้นตันใจของ "หลีเหลี่ยนเจี๋ย"

    ยังมีเรื่องน่าสนใจอีกอย่างเกี่ยวกับหนังภาค 3 เรื่องนี้ ที่นอกเหนือจากความยอดเยี่ยมของตัวหนังเองแล้ว ก็เห็นจะเป็นเรื่องราวหลังฉาก ที่ไม่ได้ออกมาราบรื่นอย่างที่คาดหวังกันเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาในการทำงานระหว่างทีมงานของจี นแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกง

    เป็น หลี่เหลียนเจี๋ย เองที่พูดถึงเรื่องนี้แบบตรง ๆ ในหลายปีหลังจากนั้น เขายอมรับว่าไม่ได้อย่างมีส่วนร่วมอะไรกับไอเดียต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้นัก เพราะรู้สึกว่าเต็มที่กับหนังทั้งสองภาคแล้ว ที่สำคัญหนังแทบจะไม่ได้ยกทีมงานจากสองภาคแรกที่ทำงา นด้วยกันมาตลอดมาด้วย แต่กลับเลือกใช้คนทำงานเบื้องหลังจากฮ่องกง ร่วมถึงผู้กำกับหนังกังฟูชื่อดัง "หลิวเจียเหลียง" แตกต่างจากหนังสองภาคแรกที่ทีมงานและนักแสดงส่วนใหญ่ เป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาหลาย ๆ อย่างขึ้น

    ประการแรกหนังจ่ายค่าแรงให้ทีมงานและนักแสดงทางฝั่งจ ีนแผ่นดินใหญ่น้อยมาก เพียงคนละ 1 หยวนต่อวัน ขนาดหนังภาคก่อนอย่าง Kids From Shaolin ก็ยังให้ค่าแรงถึง 2 หยวนต่อวันเลย ขณะที่ทีมงานจากฮ่องกงกลับได้ค่าตัวอีกละระดับหนึ่ง บางคนมีเงินเดือนกันเป็นแสนเหรียญฮ่องกง เป็นเหตุการณ์ที่ หลี่เหลียนเจี๋ย เองกล่าวว่าวันนั้นคือวินาทีที่เขาเพิ่งเข้าใจว่า "ความไม่เป็นธรรม" มันคืออะไรกันแน่

    ยังมีปัญหาการแบ่งชนชั้นวรรณะ และความไม่เท่าเทียมกัน ระหว่างทีมงานชาวจีนแผ่นดินใหญ่ และฮ่องกง ที่เกิดขึ้นอีกมากมาย ตั้งแต่เรื่องยิบย่อยอย่างอาหารกล่องที่ทีมงานทั้งสอ งทีมได้รับแจกอาหารที่ ไม่เหมือนกัน ชาวฮ่องกงทานอาหารแบบกวางตุ้งที่หามาให้พิเศษ ส่วนพวกเขาชาวจีนแผ่นดินใหญ่ก็กินอาหารท้องถิ่นกัน แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็คือส่วนหนึ่งของความแตกต่างในการทำงานร่วมกัน ที่ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกร่วมแรงร่วมใจในการทำงา นเลย

    หลี่เหลียนเจี๋ย ยอมรับว่าการมีกลุ่มคนจากสองสังคมที่มีค่าครองชีพต่า งกันมาก ทั้งพี่น้องชาวจีนแผ่นดินใหญ่ของเขา กับผู้มาเยือนจากฮ่องกง ได้สร้างบรรยากาศที่แตกแยก แบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่ลงรอยกันให้เกิดขึ้นตลอดการทำงาน เขาที่เป็นนักแสดงนำก็ยังได้เงินค่าจ้างน้อยกว่าทีมง านชาวฮ่องกงบางคนเสีย อีก

    ที่มากไปกว่านั้น ก็คือการไม่ให้เกียรติคนจีน จากทีมงานฮ่องกง อย่างที่ หลี่เหลียนเจี๋ย เล่าว่าวันหนึ่งเขา และเพื่อนตื่นกันตั้งแต่เช้ามืด เพื่อมารอถ่ายทำ แต่ทีมงานฮ่องกง มากันสายมาก ที่แย่ไปกว่านั้นเมื่อผู้กำกับมาถึงกอง กลับบ่นว่าแสงน้อยเกินไป และยกเลิกการถ่ายทำไปแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่มีคำอธิบายใด ๆ ที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจ

    น่าเสียดายที่การรวมงานกันครั้งแรก (และครั้งเดียว) ของนักบู๊ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการภาพยนตร์จีน และปรมาจารย์แห่งหนังกังฟู ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยสวยงามซักเท่าไหร่ แม้ผลงานจะออกมาอย่างไม่มีที่ติ แต่ประสบการณ์การทำงานที่เกิดขึ้น กลับเป็นตรงกันข้าม ทำให้หลังจากนั้น คนทั้งสองก็ไม่ได้ร่วมงานกันอีกเลย

    Format : Matroska
    Format version : Version 2
    File size : 2.10 GiB
    Duration : 1h 33mn
    Overall bit rate : 3 210 Kbps
    Encoded date : UTC 2013-08-30 09:50:44
    Writing application : mkvmerge v4.0.0 ( The Stars were mine ) built on Jun 6 2010 16:18:42
    Writing library : libebml v1.0.0 + libmatroska v1.0.0

    Video
    ID : 1
    Format : AVC
    Format/Info : Advanced Video Codec
    Format profile : [email protected]
    Format settings, CABAC : Yes
    Format settings, ReFrames : 9 frames
    Codec ID : V_MPEG4/ISO/AVC
    Duration : 1h 33mn
    Bit rate : 2 760 Kbps
    Width : 1 280 pixels
    Height : 544 pixels
    Display aspect ratio : 2.35:1
    Frame rate mode : Constant
    Frame rate : 23.976 fps
    Color space : YUV
    Chroma subsampling : 4:2:0
    Bit depth : 8 bits
    Scan type : Progressive
    Bits/(Pixel*Frame) : 0.165
    Stream size : 1.77 GiB (84%)
    Writing library : x264 core 135 r2345 f0c1c53
    Encoding settings : cabac=1 / ref=9 / deblock=1:-3:-3 / analyse=0x3:0x113 / me=umh / subme=10 / psy=1 / psy_rd=1.00:0.00 / mixed_ref=1 / me_range=16 / chroma_me=1 / trellis=2 / 8x8dct=1 / cqm=0 / deadzone=21,11 / fast_pskip=1 / chroma_qp_offset=-2 / threads=12 / lookahead_threads=1 / sliced_threads=0 / nr=0 / decimate=1 / interlaced=0 / bluray_compat=0 / constrained_intra=0 / bframes=3 / b_pyramid=2 / b_adapt=1 / b_bias=0 / direct=1 / weightb=1 / open_gop=0 / weightp=2 / keyint=250 / keyint_min=23 / scenecut=40 / intra_refresh=0 / rc=2pass / mbtree=0 / bitrate=2760 / ratetol=1.0 / qcomp=0.60 / qpmin=0 / qpmax=69 / qpstep=4 / cplxblur=20.0 / qblur=0.5 / ip_ratio=1.40 / pb_ratio=1.30 / aq=1:0.80
    Language : Chinese
    Default : Yes
    Forced : No

    Audio
    ID : 2
    Format : AC-3
    Format/Info : Audio Coding 3
    Mode extension : CM (complete main)
    Format settings, Endianness : Big
    Codec ID : A_AC3
    Duration : 1h 33mn
    Bit rate mode : Constant
    Bit rate : 448 Kbps
    Channel(s) : 6 channels
    Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
    Sampling rate : 48.0 KHz
    Bit depth : 16 bits
    Compression mode : Lossy
    Stream size : 301 MiB (14%)
    Language : Chinese
    Default : Yes
    Forced : No

    1
    http://www.filecondo.com/dl.php?f=JOa61cb4ksZb
    2
    http://www.filecondo.com/dl.php?f=Q18d81b4kt5C
    3
    http://www.filecondo.com/dl.php?f=mJef58b4ku52

  2. The Following 3 Users Say Thank You to Duckload.us For This Useful Post:

    noi54 (03-28-2016), pumnarin (03-28-2016), xchamp (02-09-2016)

  3. #2
    Senior Member รูปส่วนตัว teezasr400
    สมัครเมื่อ
    Apr 2013
    โพสต์
    153
    Thanks
    0
    Thanked 1 Time in 1 Post
    ขอบคุณครับ

  4. #3
    Member
    สมัครเมื่อ
    Aug 2012
    โพสต์
    43
    Thanks
    0
    Thanked 0 Times in 0 Posts
    ขอบคุณครับ

+ ตอบกลับกระทู้

ข้อมูลกระทู้

Users Browsing this Thread

ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)

     

กฎการโพสต์ข้อความ

  • ท่าน ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขข้อความโพสต์ได้
  • BB code สถานะ เปิด
  • Smilies สถานะ เปิด
  • [IMG] สถานะ เปิด
  • HTML สถานะ ปิด