[จีน]-(The.Qin.Empire)-(จิ๋นซีฮ่องเต้ องค์จักรพรรดิผู้พิชิต)-(-(E01-E51.END)-HDTV.H.264.720p. [From TV]-[พากย์ไทย]
http://showss.net/images/2015/07/23/001.jpg
http://www.mx7.com/i/963/9KzrSw.jpg
ชื่ออังกฤษ The Qin Empire
ชื่อไทย จิ๋นซีฮ่องเต้ องค์จักรพรรดิผู้พิชิต 2008
จำนวน 51 ตอน
แนว อิงประวัติศาสตร์ , ดราม่า
นำแสดงโดย
หงหย่ง
หวังจื้อเฟย
เกาหยวนหยวน
ติดตาม หนังจีนชุด จิ๋นซีฮ่องเต้ องค์จักรพรรดิผู้พิชิต ได้ทุกวันพฤหัสบดี ถึง ศุกร์ เวลา 14.55 -15.55 น. เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม 2558 ทาง PPTV HD ทีวีดิจิตอลช่อง 36 และ ดาวเทียมช่อง 46
The Qin Empire จิ๋นซีฮ่องเต้ องค์จักรพรรดิผู้พิชิต (ก่อนสมัย จิ๋นซีฮ่องเต้ อยู่ในสมัย โจวตะวันออก )
เนื้อเรื่อง
ในยุคที่แผ่นดินจีนยังคงแบ่งการปกครองออกเป็นแคว้นให ญ่ 7 แคว้น ฉินและเว่ยถือเป็นสองแคว้นมหาอำนาจที่กรำศึกแย่งชิงค วามเป็นใหญ่กันมาอย่าง ยาวนานหลายชั่วอายุคน ทว่าบัดนี้แคว้นฉินกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรองอย่ างมากทำให้ตกเป็นฝ่าย ถูกไล่ต้อนอย่างหนักจนต้องล่าถอยออกไป
อ๋องเฒ่าแคว้นฉินผู้นำทัพออกศึกมาอย่างโชกโชน เขาพลาดท่าเสียถูกธนูอาบยาพิษของแคว้นเว่ยจนอาการบาด เจ็บสาหัสไร้ทางเยียวยา อ๋องเฒ่าที่เข้าใกล้วาระสุดท้ายของชีวิตตัดสินใจเลือ กบุตรชายคนรองขึ้นเป็น อ๋องต่อจากตนพร้อมด้วยภาระยิ่งใหญ่ในการนำแคว้นฉินผ่ านพ้นสถานการณ์เลวร้าย ไปให้ได้
โจวตะวันออก (ชุนชิว=ยุคผลัดกันเป็นใหญ่,จั้นกว๋อ=ยุครัฐสงคราม)
ในสมัยราชวงศ์โจวตะวันตก ผู้นำจะรักษาฐานอำนาจการปกครองของตนโดยมีตำแหน่ง เจ้าแห่งฟ้า ซึ่งมีศักดินาสูงสุด อีกทั้งสามารถห้ามไม่ให้บรรดาเจ้าแคว้นร่วมมือหรือรบ พุ่งซึ่งกันและกัน
เมื่อ โจวผิงหวัง ย้ายเมืองหลวงไปตะวันออก ราชสำนักโจวก็อ่อนแอลง จึงไม่มีอำนาจปกครองเหนือเหล่าแว่นแคว้นต่าง ๆอีก ทำให้เกิดเป็นสภาวะสุญญากาศทางการเมืองขึ้นในภูมิภาค นี้
ขณะเดียวกัน ชนเผ่า หมาน อี๋ และหรงตี๋ ที่อยู่รอบนอกตามตะเข็บชายแดน ซึ่งได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากแผ่นดินจงหยวน อีกทั้งมีการผสมผสานระหว่างชนเผ่า ทำให้ชุมชนเหล่านี้เจริญก้าวหน้าตามติดมาอย่างกระชั้ นชิด
ในขณะที่แว่นแคว้นต่าง ๆในแถบจงหยวนมีเงื่อนไขของความเจริญรุดหน้าที่ไม่ทัด เทียมกัน มีบ้างเข้มแข็ง บ้างอ่อนแอ ดังนั้น ทั่วทั้งภูมิภาคจึงเกิดการจับขั้วของอำนาจระหว่างแคว ้น มีทั้งความร่วมมือและแย่งชิงอำนาจความเป็นใหญ่
ดังนั้นในยุคราชวงศ์โจวตะวันออกจึงเป็นยุคที่มีความพ ลิกผันทางการเมืองอย่าง สูง โจวผิงหวังเมื่อย้ายนครหลวงไปยังตะวันออก ดินแดนฝั่งตะวันตกก็กลายเป็นแคว้นฉิน ครอบคลุมเขตแดนของชนเผ่าหรง และดินแดนโดยรอบ กลายเป็นแคว้นที่เข้มแข็งทางตะวันตก
สำหรับแคว้นจิ้น ปัจจุบันอยู่ในมณฑลซานซี ส่วนแคว้นฉี และหลู่ อยู่ในมณฑลซานตง แคว้นฉู่ อยู่ในมณฑลหูเป่ย สำหรับปักกิ่งและดินแดนทางตอนเหนือของมณฑลเหอเป่ยในป ัจจุบันเป็นแคว้นเอี้ยน
นอกจากนี้ทางตอนใต้ของลำน้ำฉางเจียงหรือแยงซีเกียงก่ อเกิดเป็นแว่นแคว้นต่าง ๆมากมาย อาทิ แคว้นอู๋ แคว้นเยว่ เป็นต้น ล้วนเกิดจากการรวบรวมแว่นแคว้นเล็กที่อยู่โดยรอบเขตแ ดนของตน จนกระทั่งมีกำลังเข้มแข็งขึ้น ดังนั้นเองประวัติศาสตร์ในช่วงเวลาดังกล่าว จึงกลายสมรภูมิเลือดแห่งการแย่งชิงอำนาจของเจ้าแคว้น เหล่านี้ การแย่งชิงอำนาจเพื่อให้ได้ตำแหน่งผู้นำที่ครองอำนาจ เด็ดขาดในจงหยวนนั้น
เริ่มต้นจาก ฉีหวนกง เจ้าแคว้นฉีมอบหมายให้เสนาบดีก่วนจ้ง (หรือ ขวัน ต๋ง ที่กล่าวถึงกันมาก ในสามก๊ก) แก้ไขปรับปรุงระบบการปกครองภายใน ทำให้แคว้นฉีเข้มแข็งขึ้น อีกทั้งยังดำเนินกุศโลบายเรียกร้องให้ พิทักษ์โจว ปราบอี๋ นั่นคือพิทักษ์ราชสำนักโจวและร่วมมือปราบปรามชนเผ่าน อกจงหยวน อาทิเช่น ร่วมมือกับแคว้นเอี้ยนปราบชนเผ่าหรง หรือร่วมมือกับแคว้นต่าง ๆหยุดยั้งการรุกรานของชนเผ่าตี๋ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังร่วมกับแคว้นหลู่ ซ่ง เจิ้ง เฉิน เว่ย สวี่ และเฉา ยกทัพปราบแคว้นฉู่ เพื่อทวงถามบรรณาการให้กับราชสำนักโจว แต่เดิมแคว้นฉู่มีกำลังทหารที่เข้มแข็ง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการศึกปีแล้วปีเล่า อีกทั้งระย่อต่อความฮึกหาญของฉีหวนกง จึงได้แต่ยอมทำสัญญาสงบศึก หลังจากนั้น ฉีหวนกงก็เรียกชุมนุมบรรดาเจ้าแคว้นต่าง ๆอีกหลายครั้ง ราชสำนักโจวก็ส่งตัวแทนเข้าร่วมการชุมนุมด้วย ยิ่งเป็นการเสริมสร้างอำนาจบารมีให้กับฉีหวนกงกลายเป ็นผู้นำในดินแดนจงหยวน
เมื่อสิ้นฉีหวนกงแล้ว แคว้นฉีเกิดการแย่งชิงอำนาจภายใน เป็นเหตุให้อ่อนแอลง แคว้นฉู่จึงได้โอกาสขยับขยายขึ้นเหนือมาอีกครั้ง ซ่งเซียงกง เจ้าแคว้นซ่งคิดจะสืบทอดตำแหน่งผู้นำจงหยวนแทนฉีหวนก ง จึงเข้าต่อกรกับแคว้นฉู่ สุดท้ายแม้แต่ชีวิตก็ต้องสูญสิ้นไป เมื่อเป็นเช่นนี้ แคว้นพันธมิตรที่เคยอยู่ภายใต้การนำของแคว้นฉี อาทิ แคว้นหลู่ ซ่ง เจิ้ง เฉิน ไช่ สวี่ เฉา เว่ย เป็นต้น ต่างก็พากันหันมาเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับแคว้นฉู่แทน
ในขณะที่แคว้นฉู่คิดจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำจงหยวน นั้นเอง แคว้นจิ้น ก็เข้มแข็งขึ้นมา จิ้นเหวินกง ทำการปรับการปกครองภายในครั้งใหญ่ เพิ่มความเข้มแข็งทางการทหาร อีกทั้งยังคิดแย่งชิงตำแหน่งผู้นำจงหยวน ขณะนั้นโจวเซียงหวัง ผู้นำของราชวงศ์โจวตะวันออกถูกบุตรชายสมคบกับชาวเผ่า ตี๋ ขับไล่ออกจากวัง
จิ้นเหวินกงเห็นว่าเป็นโอกาสในการก้าวสู่ตำแหน่งผู้น ำจงหยวน จึงนัดแนะบรรดาเจ้าแคว้นต่าง ๆ เพื่อล้มบัลลังก์ขององค์ชายผู้ทรยศ จากนั้นจัดส่งโจวเซียงหวังกลับสู่ราชสำนักโจว จึงได้รับ ธวัชเชิดชูเกียรติ กองทัพของจิ้นและฉู่สองแคว้นเข้าปะทะกันที่เมืองผู ทัพจิ้นได้ชัยเหนือทัพฉู่ หลังการศึกครั้งนี้ จิ้นเหวินกงเรียกประชุมแคว้นพันธมิตร โจวหวังก็เข้าร่วมประชุมด้วยพระองค์เอง และได้ประทานตำแหน่ง ผู้นำจงหยวนให้กับจิ้นเหวินกง
ในช่วงเวลาแห่งการแย่งตำแหน่งผู้นำจงหยวนระหว่างแคว้ นจิ้นและฉู่นั้นเอง แคว้นฉี และฉิน ได้กลายเป็นขั้วมหาอำนาจทางทิศตะวันออกและตะวันตกไป ในช่วงปลายยุคชุนชิว แคว้นฉู่ร่วมมือกับฉิน แคว้นจิ้นจับมือกับฉี สองฝ่ายต่างมีกำลังที่ทัดเทียมกัน
ทว่า สภาวะแห่งการแก่งแย่งตำแหน่งผู้นำจงหยวนกลับทวีความข ัดแย้งทางการเมืองภายใน ของแต่ละแคว้นมากขึ้น ดังนั้น จึงถึงจุดสิ้นสุดของยุคผู้นำที่ ชูธงนำทัพออกปราบปรามบรรดาชนเผ่าภายนอก เมื่อแคว้น ซ่ง ทำสัญญาพันธมิตรกับแคว้น จิ้น และ ฉู่ ว่าต่างฝ่ายจะไม่โจมตีกัน มีการส่งทูตเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างกัน จะให้ความช่วยเหลือเมื่ออีกฝ่ายตกอยู่ในสถานการณ์ลำบ าก และจะเข้าร่วมรบต้านทานศัตรูจากภายนอก ( ธงนำทัพเป็นเครื่องมือที่แสดงถึงความร่วมมือและการ แย่งชิงอำนาจของผู้นำจง หยวน การยกเลิกธงนำทัพยังเป็นการสะท้อนถึงความพยายามของ บรรดาแว่นแคว้นเล็ก ๆที่ต้องการดิ้นรนให้หลุดพ้นจากการควบคุมของแคว้นมหา อำนาจ)
แคว้นจิ้นและฉู่ กลับเปิดศึกครั้งใหญ่ที่เยียนหลิง ฉู่พ่ายแพ้ และเมื่อ สองแคว้นเปิดศึกอีกครั้งที่จั้นป่าน ฉู่พ่ายแพ้อีก ในช่วงเวลานี้ ก็มีการศึกระหว่างแคว้นอีกหลายครั้งเช่น แคว้นจิ้นกับฉิน จิ้นกับฉี จิ้นล้วนเป็นฝ่ายได้ชัยชนะ จนกระทั่งปี 546 ก่อนคริสตศักราช แคว้นซ่ง ร่วมกับแว่นแคว้นอื่นอีกนับสิบแคว้น ทำสัญญาทางไมตรีกับจิ้นและฉู่อีกครั้ง โดยสัญญาดังกล่าวระบุว่า นับแต่นี้ไป บรรดาเจ้าครองแคว้นเล็ก ๆทั้งหลายจะจัดส่งบรรณาการให้กับแคว้นจิ้นและฉู่โดยเ ท่าเทียมกัน ดังนั้น แคว้นจิ้นและฉู่จึงถือว่าได้แบ่งปันอำนาจกันฝ่ายละกึ ่งหนึ่ง
ในขณะที่แคว้นจิ้นและฉู่เข้าแย่งชิงอำนาจผู้นำจงหยวน นั้นเอง ทางตอนใต้ของลำน้ำฉางเจียงหรือแยงซีเกียงก็ได้ก่อเกิ ดแคว้น และแคว้นเยว่ ขึ้น แคว้นจิ้นได้จับมือกับแคว้นอู๋ เพื่อต้านทานอำนาจฉู่ ดังนั้น ระหว่างแคว้นอู๋และฉู่จึงเกิดศึกกันหลายครั้ง ในปี 506ก่อนคริสตศักราช แคว้นอู๋ยกทัพบุกแคว้นฉู่ ได้รับชัยชนะอย่างงดงาม โดยสามารถรุกเข้าถึงเมืองหลวงของฉู่ นับแต่นั้นมา กำลังอำนาจของแคว้นฉู่ก็ถดถอยลง
ในขณะที่แคว้นจิ้นจับมือแคว้นอู๋เพื่อจัดการแคว้นฉู่ แคว้นฉู่ก็ร่วมมือกับแคว้นเยว่เพื่อป้องกันอู๋ ดังนั้น ระหว่างแคว้นอู๋และแคว้นเยว่จึงเกิดศึกไม่ขาด เจ้าแคว้นอู๋นามเหอหลี เสียชีวิตในสมรภูมิรบ ราชบุตรฟูไช สาบานว่าจะพิชิตโกวเจี้ยน เจ้าแคว้นอู๋ เพื่อล้างแค้นให้กับบิดา และในปีถัดมาเมื่อโกวเจี้ยนยกทัพมาอีกครั้งจึงต้องพ่ ายแพ้กลับไป โกวเจี้ยนแสร้งว่ายอมศิโรราบ ถึงกับยอมทำตัวเป็นบ่าวทาสของฟูไซ เพื่อสั่งสมกำลังพล รอจังหวะโอกาสอันดีขณะที่ฟูไชเจ้าแคว้นอู๋ขึ้นเหนือเ พื่อช่วงชิงตำแหน่งผู้ นำจงหยวนกับแคว้นจิ้นนั้นเอง โกวเจี้ยนก็ยกทัพบุกเมืองหลวงของแคว้นอู๋ ฟูไชได้แต่รีบกลับมาเจรจายอมสงบศึก แต่ต่อมาอีกไม่นานนัก แคว้นเยว่ก็สามารถบุกทำลายแคว้นอู๋ลงได้อย่างราบคาบ จากนั้นโกวเจี้ยนก็ขยายอิทธิพลขึ้นเหนือ เพื่อเข้าร่วมชุมนุมเจ้าแคว้นเพื่อก้าวสู่ตำแหน่งผู้ นำจงหยวน
ในยุคชุนชิว [ปี 770-476 ก่อนคริสตศักราช] นี้ ความร่วมมือและสู้รบของแคว้นต่าง ๆ นอกจากเป็นการกระตุ้นความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมขอ งแว่นแคว้นและดินแดน ต่าง ๆแล้ว ยังมีส่วนช่วยเร่งเร้าการหลอมรวมเผ่าพันธุ์ระหว่างชน เผ่าให้เป็นหนึ่งเดียว อีกด้วย หลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โยกย้ายผลัดเปลี่ยนฝักฝ่ายแล้ว บรรดาเจ้าแคว้นขนาดเล็กก็ทยอยถูกกลืนโดย 7 นครรัฐใหญ่ และแคว้นรอบข้างอีกสิบกว่าแคว้น
เมื่อเข้าสู่ยุคจั้นกว๋อ หรือยุครัฐสงคราม [ปี 475-221 ก่อนคริสตศักราช] จึงมีสภาพโดยรวมดังนี้ นครรัฐฉู่ คุมทางตอนใต้ นครรัฐเจ้า คุมทางเหนือ นครรัฐเอี้ยน คุมตะวันออกเฉียงเหนือ นครรัฐฉี คุมตะวันออก นครรัฐฉิน คุมตะวันตก โดยมีนครรัฐหาน นครรัฐวุ่ย อยู่ตอนกลาง ซึ่งในบรรดานครรัฐทั้ง 7 นี้ มี 3 นครรัฐใหญ่ที่ครอบคลุมดินแดนลุ่มน้ำฮวงโหจากทิศตะวัน ตกสู่ตะวันออกอันได้แก่ นครรัฐฉิน วุ่ยและฉี ซึ่งมีกำลังอำนาจยิ่งใหญ่ทัดเทียมกัน
( แคว้น หาน จ้าว และวุ่ย ถูกเรียกรวมว่า ซำจิ้น หรือสามจิ้น เพราะเกิดจากขุนนางทรงอิทธิพล 3 ตระกูลของแคว้นจิ้น อาศัยจังหวะที่ราชวงศ์เจ้านายแคว้นจิ้นอ่อนแอ ก่อกบฏ แล้วแบ่งประเทศเป็น 3 แคว้น ทำให้แคว้นจิ้นอันยิ่งใหญ่ ที่รบชนะทั่วทิศต้องถูกหาร3 )
นับจากวุ่ยเหวินโหว เจ้านครรัฐวุ่ยขึ้นสู่อำนาจ ก็ได้นำพาให้นครรัฐวุ่ยก้าวขึ้นสู่ความเป็นรัฐมหาอำน าจในแผ่นดินจงหยวน เมื่อนครรัฐวุ่ยเข้มแข็งขึ้น เป็นเหตุให้นครรัฐหาน เจ้า และฉินต่างหวาดระแวงซึ่งกันและกัน เป็นเหตุให้เกิดการกระทบกระทั่งกันไม่หยุดหย่อน
ในช่วงก่อนคริสตศักราช 354 นั้นเอง นครรัฐเจ้า โจมตีแคว้นเว่ย นครรัฐวุ่ยเห็นว่าแคว้นเว่ยเป็นแคว้นในปกครองของตน จึงนำทัพบุกนครหานตาน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของนครรัฐเจ้า นครรัฐเจ้าหันไปขอความช่วยเหลือจากนครรัฐฉี นครรัฐฉีจึงส่งแม่ทัพเถียนจี้ ไปช่วยนครรัฐเจ้า เถียนจี้ใช้กลศึกของซุนปิน เข้าปิดล้อมนครต้าเหลียง เมืองหลวงของวุ่ย เวลานั้นถึงแม้ว่ากองทหารของวุ่ยจะสามารถเข้าสู่นครห านตานได้แล้ว ทว่ากลับจำต้องถอนกำลังเพื่อย้อนกลับไปกอบกู้สถานการ ณ์ของรัฐตน สุดท้ายเสียทีทัพฉีที่กุ้ยหลิง ถูกตีแตกพ่ายกลับไป และในปีถัดมา นครรัฐวุ่ยและหานก็ร่วมมือกันโจมตีทัพฉีแตกพ่าย เมื่อถึงปี 342 ก่อนคริสตศักราช นครรัฐวุ่ยโจมตีนครรัฐหาน นครรัฐหานขอความช่วยเหลือจากนครรัฐฉี นครรัฐฉีจึงมอบหมายให้แม่ทัพเถียนจี้ออกศึกอีกครั้ง โดยครั้งนี้มีซุนปินเป็นที่ปรึกษาในกองทัพ วางแผนหลอกล่อให้ทัพวุ่ยเข้าสู่กับดักที่หม่าหลิง ที่ซึ่งธนูนับหมื่นของทัพฉีเฝ้ารออยู่ ความพ่ายแพ้คราวนี้ผังเจวียน แม่ทัพใหญ่ของนครรัฐวุ่ยถึงกับฆ่าตัวตาย รัชทายาทของนครรัฐวุ่ยถูกจับเป็นเชลย การศึกที่หม่าหลิง จึงนับเป็นการศึกครั้งสำคัญในยุคจั้นกว๋อ เนื่องจากได้สร้างดุลอำนาจทางตะวันออกระหว่างนครรัฐฉ ีและนครรัฐวุ่ยให้มี กำลังทัดเทียมกัน
ส่วนนครรัฐฉิน ภายหลังการปฏิรูปของซางเอียง (บางที่เรียก ซางยาง)โดยหันมาใช้กฎหมายในการปกครองแล้ว สามารถก้าวกระโดดขึ้นสู่ความเป็นรัฐมหาอำนาจที่เข้มแ ข็งที่สุดในบรรดา 7 นครรัฐ ดังนั้นจึงเริ่มแผ่ขยายอิทธิพลสู่ตะวันออก เริ่มจากปราบซำจิ้น (นครรัฐหาน เจ้าและวุ่ย) โดยเข้ายึดดินแดนฝั่งตะวันตกของนครรัฐวุ่ย จากนั้นขยายออกไปยังทิศตะวันตก ทิศใต้และเหนือ เมื่อถึงปลายปี 400 ก่อนคริสตศักราช นครรัฐฉินก็มีดินแดนกว้างใหญ่ใกล้เคียงกับนครรัฐฉู่
ในขณะที่นครรัฐฉินเข้าโรมรันพันตูกับซำจิ้นนั้น นครรัฐฉีก็แผ่ขยายอำนาจออกไปทางตะวันออก ในปี 315 ก่อนคริสตศักราช เจ้านครรัฐเอี้ยนสละบัลลังก์ให้แก่เสนาบดีจื่อจือ เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายภายใน นครรัฐฉีจึงฉวยโอกาสนี้บุกโจมตีนครรัฐเอี้ยน แต่สุดท้ายประชาชนนครรัฐเอี้ยนลุกฮือขึ้นก่อหวอด เป็นเหตุให้กองทัพฉีต้องล่าถอยจากมา ขณะเดียวกัน รัฐที่สามารถต่อกรกับนครรัฐฉินได้มีเพียงนครรัฐฉีเท่ า กลยุทธชิงอำนาจใหญ่ที่สำคัญในขณะนั้นคือ ฉินและฉี ต้องหาทางให้นครรัฐฉู่มาเสริมพลังของตนให้ได้
การปฏิรูปทางการเมืองของนครรัฐฉู่ล้มเหลว เป็นเหตุให้รัฐอ่อนแอลง แต่ก็ยังมีดินกว้างใหญ่ไพศาล อีกทั้งประชากรจำนวนมากเป็นกำลังหนุน นครรัฐฉู่ร่วมมือกับนครรัฐฉีต่อต้านฉิน ส่งผลกระทบต่อการขยายดินแดนของนครรัฐฉิน ดังนั้นเอง นครรัฐฉินจึงส่งจางอี้ ไปเป็นทูตสันถวไมตรีกับนครรัฐฉู่ ชักชวนให้ฉู่ละทิ้งฉีเพื่อหันมาร่วมมือกับนครรัฐฉิน โดยฉินจะยกดินแดนซาง กว่า 600 ลี้ให้เป็นการแลกเปลี่ยน ฉู่หวยหวัง เจ้านครรัฐฉู่ละโมบโลภมากจึงแตกหักกับนครรัฐฉี ต่อเมื่อเจ้านครรัฐฉู่ส่งคนไปขอรับที่ดินดังกล่าว นครรัฐฉินกลับปฏิเสธไม่รับรู้เรื่องราว ฉู่หวยหวังโมโหโกรธา จึงจัดทัพเข้าโจมตีนครรัฐฉิน แต่กลับเป็นฝ่ายแพ้พ่ายกลับมา นครรัฐฉู่เมื่อถูกโดดเดี่ยวและอ่อนแอ นครรัฐฉินจึงบุกเข้ายึดดินแดนจงหยวนได้อย่างวางใจ โดยเริ่มจาก นครรัฐหาน และวุ่ย จากนั้นเป็นนครรัฐฉี
เมื่อถึงปี 286 ก่อนคริสตศักราช นครรัฐฉีล้มล้างแคว้นซ่ง เป็นเหตุให้แคว้นใกล้เคียงหวาดระแวง นครรัฐฉินจึงนัดหมายให้นครรัฐหาน เจ้า วุ่ยและเอี้ยนโจมตีนครรัฐฉีจนแตกพ่าย นครรัฐเอี้ยนที่นำทัพโดยแม่ทัพเล่ออี้ ฉวยโอกาสบุกนครหลินจือ เมืองหลวงของนครรัฐฉีและเข้ายึดเมืองรอบข้างอีก 70 กว่าแห่ง ฉีหมิ่นหวัง เจ้านครรัฐฉีหลบหนีออกนอกรัฐ สุดท้ายถูกนครรัฐฉู่ไล่ล่าสังหาร นครรัฐฉีที่เคยยิ่งใหญ่เกรียงไกรต้องจบสิ้นลงในลักษณ ะนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ นครรัฐฉินจึงได้โอกาสแผ่อิทธิพลเข้าสู่ภาคตะวันออก
ในปี 246 ก่อนคริสตศักราช ฉินหวังเจิ้ง (หรือต่อมาคือฉินสื่อหวงหรือจิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกของจีน) ได้สืบราชบัลลังก์นครรัฐฉินต่อมา โดยมีที่ปรึกษาเช่นเว่ยเหลียว(ปู้ เหวย ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นพ่อแท้ๆของตน) หลี่ซือ เป็นต้น ช่วยเหลือในการถากถางเส้นทางในการรวบรวมแผ่นดิน บ้างใช้เงินทองล่อซื้อบรรดาขุนนางของ 6 นครรัฐ แทรกซึมเข้าไปก่อความวุ่นวายในการปกครองของนครรัฐทั้ ง 6 อีกทั้งส่งกองกำลังรุกเข้าประชิดดินแดนปีแล้วปีเล่า เมื่อถึงปี 230 ก่อนคริสตศักราช นครรัฐฉินโจมตีนครรัฐหานแตกพ่ายไป เมื่อถึงปี 221 ก่อนคริสตศักราชกำจัดนครรัฐฉีสำเร็จ จากนั้น 6 นครรัฐต่างก็ทยอยถูกนครรัฐฉินกวาดตกเวทีอำนาจใหญ่ไป นับแต่นั้นมา ประเทศจีนก็รวมเป็นหนึ่งเดียว
ต่อจาก ราชวงศ์ฉิน (เรื่องดังๆ ของช่วงเวลานี้ ได้แก่ เจาะเวลาหาจิ๋นซี, Hero, จิ๋นซีฮ่องเต้)
คีอ ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก
ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (เรื่องดังๆ ในยุคนี้ ได้แก่ ขุนศึกลำน้ำเลือด/ฉู่ฮั่น ศึกชิงบัลลังก์สะท้านปฐพี เป็นเรื่องการต่อสู้ระหว่างเซี่ยงอี่ (ฌ้อปาอ๋อง) กับ หลิวปัง ที่เริ่มจากการเป็นเพื่อน พันธมิตรไปสู่การเป็นศัตรูคู่แค้น)
http://showss.net/images/2015/11/17/9N2e.jpg
อิ๋งฉีเหลียง (Ying Quliang)
องค์ชายรองแคว้นฉินผู้มองสถานการณ์อย่างรอบคอบรอบด้า น อิ๋งฉีเหลียงเป็นแม่ทัพที่มองการไกลและอดทน เขามุ่งมั่นที่จะนำทัพฉินโดยเล็งผลไปที่ความสงบสุขขอ งราษฎรมากกว่ารบราฆ่า ฟัน แม้อิ๋งฉีเหลียงจะไม่ห้าวหาญชาญศึกเหมือนพี่ชายแต่เข าก็ได้รับความไว้วางใจ ให้ขึ้นเป็นอ๋องแคว้นฉินต่อจากพระบิดา
http://showss.net/images/2015/11/17/9N2r.jpg
เว่ยยัง (Wei Yang)/ซานยาง
บัณฑิตแคว้นเว่ยผู้อ่านสถานการณ์ได้อย่างทะลุประโปร่ ง เว่ยยังเป็นลูกศิษย์คนสนิทของกงซูจั๊วซึ่งอาจเรียกได ้ว่าเป็นศิษย์เอก เว่ยยังรู้สึกเลื่อมใสในตัวอิ๋งฉีเหลียง เขาอาศัยอยู่ในแคว้นเว่ยโดยไม่สนใจตำแหน่งยศถาซึ่งใน อนาคตเขาจะกลายเป็นผู้ มีบทบาทสำคัญในการสร้างความยิ่งใหญ่ของแคว้นฉิน
ซานยาง/เว่ยยัง
"ซานยาง" เป็นผู้ที่ชอบศึกษาในเรื่องของการบริหารราชการมาก ในสมัยนั้นแคว้นเว่ยประกาศรับสมัครผู้มีความสามารถเข ้าไปรับราชการ "ซานยาง" ผู้นี้ก็ได้ไปสมัครและได้ทำงานกับสมุหนายกของแคว้นเว ่ยชื่อ "กงซุนจั่ว" ซึ่ง "กงซุนจั่ว" เข้าใจนิสัยและความสามารถของ "ซานยาง" เป็นอย่างดี จึงพยายามหนุนให้ได้เป็นขุนนางระดับสูง แต่เจ้าครองแคว้นเว่ยไม่สนใจ
คราหนึ่ง "กงซุนจั่ว" ป่วยหนักมาก เจ้าครองแคว้นเว่ยเสด็จมาเยี่ยมอาการ "กงซุนจั่ว" ได้กล่าวฝากไว้ว่า ให้เจ้าแคว้นเว่ยใช้สอย "ซานยาง" เพราะเป็นผู้มีปัญญาความสามารถมาก หากไม่ต้องการใช้ก็ให้ฆ่าทิ้งเสีย เพื่อไม่ให้ตกไปเป็นของแคว้นอื่น แต่เจ้าครองแคว้นเว่ยก็ไม่สนใจเพราะเข้าใจว่า "กงซุนจั่ว" กล่าวเพ้อเพราะพิษไข้
หลังจากที่ "กงซุนจั่ว" สิ้นชีวิต "ซานยาง" ก็เลยโยกย้ายสัมโนครัว ไปพรีเซนต์ตัวเองให้เจ้าแคว้นฉิน คือ ฉินเสี้ยวกง ในขณะนั้น โดยเข้าไปอธิบายถึงหลักการปกครองอย่างสงบสุขให้เจ้าแ คว้นฉินฟัง ซึ่งเจ้าแคว้นฉินก็ไม่สนใจ ต่อเมื่อจับทางได้แล้วว่าเจ้าแคว้นฉินมีความทะเยอทะย านต้องการที่จะขยับขยาย อาณาเขต และตั้งตนเป็นอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ เลยเปลี่ยนเป็นเสนอแผนการที่จะทำให้แคว้นฉินเข้มแข็ง ขึ้น
"ซานยาง" กำหนดบทปฏิรูปขึ้นมาแปดข้อ ซึ่งเป็นกฏหมายที่เข้มงวดเป็นอย่างมาก มีการกำหนดการลงโทษไว้อย่างชัดเจนและรุนแรง และมีการลงโทษจริง โดยไม่เว้นว่าจะเป็นผู้มีอำนาจขนาดไหน แม้การวิจารณ์โต้แย้งบทปฏิรูปก็ถูกลงโทษสถานหนัก จนกระทั่งประชาชนแคว้นฉินเปลี่ยนเป็นผู้ที่อยู่ในระเ บียบวินัยอย่างเคร่ง ครัด จนทำให้แคว้นฉินเข้มแข็งขึ้นมากทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และการทหารอย่างรวดเร็วจนแซงหน้าแคว้นอื่น ๆ ทั้งหมด
แต่ด้วยความเฉียบขาด และเข้มงวด ทำให้ "ซานยาง" มีศัตรูมากมายรวมถึงรัชทายาทของแคว้นฉินด้วย เนื่องจากรัชทายาทไม่พอใจ "ซานยาง" โดยเฉพาะเรื่องที่ให้โยกย้ายเมืองหลวงและทำการต่อต้า น "ซานยาง" เลยกราบทูลเจ้าแคว้นฉินให้ลงโทษ แต่เนื่องจากเป็นรัชทายาทจึงลงโทษไม่ได้ แต่ให้ลงโทษพระอาจารย์กับพี่เลี้ยงของรัชทายาทแทน ซึ่งทำให้รัชทายาทไม่พอใจเป็นอันมาก
ในขณะที่แคว้นฉินเข้มแข็งขึ้น เจ้าแคว้นเว่ยก็รู้สึกเสียใจที่ไม่เชื่อ "กงซุนจั่ว" ปล่อยให้ "ซานยาง" ไปทำให้แคว้นศัตรูมีความเข้มแข็ง เลยประกาศรับสมัครผู้มีความสามารถทั่วแผ่นดิน และได้ "ผังเจี้ยน" มาเป็นข้ารับใช้ ดังที่เล่าให้ฟังแล้วในไดก่อนหน้า
เนื่องจาก "ผังเจี้ยน" เป็นผู้มีความสามารถมาก "ซานยาง" เลยไม่กล้าที่จะทำอะไรแคว้นเว่ย ปล่อยให้ "ผังเจี้ยน" วาดลวดลายตีแคว้นอื่น ๆ แต่กระนั้น "ผังเจี้ยน" ก็โดน "ซุนปิน" ขัดขวางไปเสียทุกครั้ง จนในที่สุดก็เสียท่า "ซุนปิน" จนต้องสิ้นชีวิตไป (ตามที่ได้เล่าไว้ในไดครั้งที่แล้วคับ)
พอ "ผังเจี้ยน" สิ้นชีวิตไป "ซานยาง" ก็ถือโอกาสตีแคว้นเว่ย รวบรวมเมืองต่าง ๆ จนแคว้นฉินกลายเป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุด และเข้มแข็งที่สุดในขณะนั้น
"ซานยาง" มีชีวิตเป็นใหญ่เป็นโตอย่างที่ไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้อง จนกระทั่งเจ้าแคว้นฉินสิ้นพระชนม์ รัชทายาทขึ้นครองราชย์แทน ด้วยความแค้นเคืองที่เคยมี รัชทายาทจึงสั่งให้ทหารเข้าไปคุมตัว "ซานยาง" ในขณะที่กำลังเดินทางเข้ามาเคารพพระศพฉินเสี้ยวกง โดยที่มีราษฏรที่โกรธแค้น "ซานยาง" ตามไปด้วยนับหมื่นคน
"ซานยาง" เห็นท่าไม่ดี เลยปลอมตัวเป็นทหารเลวหลบหนีไปได้ แต่ในที่สุดก็ไม่รอดเนื่องจากบทปฏิรูปที่ตนเองกำหนดข ึ้นมาอย่างรัดกุมนั่นเอง
ในที่สุด "ซานยาง" ก็เลยโดนลงโทษด้วยวิธีใช้ห้าม้าแยกสังขาร ตายอย่างอนาถ และยังไม่วายโดนราษฎรที่โกรธแค้นเข้ามารุมทำร้ายแม้ก ระทั่งเศษซากศพที่แทบ ไม่เหลือสภาพความเป็นชิ้นเป็นอัน
ถึงกระนั้นกฏหมายปฏิรูปของ "ซานยาง" ก็ทำให้รัฐฉินเข้มแข็งมาได้อย่างยาวนาน จนอีกหกชั่วคนถัดมา จิ๋นซีฮ่องเต้ถึงได้รวบรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวต ามความประสงค์เริ่มแรก ของ ฉินเสี้ยวกง ได้สำเร็จ
http://showss.net/images/2015/11/17/9N2O.jpg
เว่ยฮุ่ยหวาง (King Hui)
อ๋องแคว้นเว่ยผู้มองเห็นเพียงผลประโยชน์เบื้องหน้าโด ยไม่สนใจคำทัดทานของ อำมาตย์ผู้ภักดี เว่ยฮุ่ยหวางเป็นผู้นำที่ทะเยอทะยานความยิ่งใหญ่ เขาต้องการครอบครองผืนแผ่นดินและเป็นจ้าวเหนือทุกแคว ้น เป้าหมายแรกคือการทำลายแคว้นฉินให้สิ้นซากโดยไม่สนใจ สัญญาที่ทำกันไว้
http://showss.net/images/2015/11/17/9N2u.jpg
http://showss.net/images/2015/11/17/9N2v.jpg
http://showss.net/images/2015/11/17/9N27.jpg
1
http://www.filecondo.com/dl.php?f=bJ9452b48eU1
2
http://www.filecondo.com/dl.php?f=zA4593b48gkj
3
http://www.filecondo.com/dl.php?f=pP419fb48kNP
4
http://www.filecondo.com/dl.php?f=cn5407b48ktv
5
http://www.filecondo.com/dl.php?f=1Mf73cb48ii1
6
http://www.filecondo.com/dl.php?f=jo1c9eb48fl7
7
http://www.filecondo.com/dl.php?f=hQ1b24b48gEp
8
http://www.filecondo.com/dl.php?f=IB8b5ab48hDB
9
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Rhf348b48gxD
10
http://www.filecondo.com/dl.php?f=sW7320b48g0r
11
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Nh9f4eb48f0N
12
http://www.filecondo.com/dl.php?f=EG95e9b48jnL
13
http://www.filecondo.com/dl.php?f=D672a0b48fNl
14
http://www.filecondo.com/dl.php?f=2oa9b1b48leV
15
http://www.filecondo.com/dl.php?f=h3b1a7b48i4t
16
http://www.filecondo.com/dl.php?f=ox74d6b48l1u
17
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Uy48afb48me7
18
http://www.filecondo.com/dl.php?f=SX46ceb48jBj
19
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Rk92f8b48kmQ
20
http://www.filecondo.com/dl.php?f=1u97e9b48fs7
21
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Ux0760b48hK9
22
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Dkf82fb48llH
23
http://www.filecondo.com/dl.php?f=teb906b48ja6
24
http://www.filecondo.com/dl.php?f=ozf046b48k9b
25
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Xhd3ccb48hXV
26
http://www.filecondo.com/dl.php?f=dQ2b96b48hch
27
http://www.filecondo.com/dl.php?f=pn918db48m7e
28
http://www.filecondo.com/dl.php?f=cQec68b48lsA
29
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Xs7833b48g76
30
http://www.filecondo.com/dl.php?f=5Odb28b48hwB
31
http://www.filecondo.com/dl.php?f=fx87e9b48f7N
32
http://www.filecondo.com/dl.php?f=fY0481b48lG8
33
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Ao25adb48kfX
34
http://www.filecondo.com/dl.php?f=def95ab48k2i
35
http://www.filecondo.com/dl.php?f=wid37fb48lMG
36
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Tue39bb48eNm
37
http://www.filecondo.com/dl.php?f=KXcad2b48hRg
38
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Ni8ba0b48gYX
39
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Vza30ab48gdL
40
http://www.filecondo.com/dl.php?f=e25ce1b48ibt
41
http://www.filecondo.com/dl.php?f=uIe91fb48gqR
42
http://www.filecondo.com/dl.php?f=lxde94b48ioz
43
http://www.filecondo.com/dl.php?f=oi6999b48fGU
44
http://www.filecondo.com/dl.php?f=8T77abb48hiW
45
http://www.filecondo.com/dl.php?f=qb11d1b48fel
46
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Or3830b48lzf
47
http://www.filecondo.com/dl.php?f=BY5791b48hpP
48
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Pk9772b48h5J
49
http://www.filecondo.com/dl.php?f=IX37ceb48kAh
50
http://www.filecondo.com/dl.php?f=tR5727b48fT6
51
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Hh4692b48fzN