[เกาหลี]-(Yi.San)-(ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน)-(E01-E77.END)-HDTV.H.264.720p. [From TV]-[พากย์ไทย]

http://postto.me/1b/cio.jpg

ชื่อหนัง : Yi San , ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน/Yi san Jeong jo dae wang / Yi San - King Jeong Jo
จำนวนตอน: 77 ตอ
กำกับโดย : Lee Byung Hoon, Kim Geun Hong
ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์: MBC ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 21:55 น. 17 กันยา 2007 - 16 มิถุนา 2008

ลีซุนเจ (Lee Soon Jae) รับบทเป็น พระเจ้ายองโจ (King Yeong Jo)
คิมเยียวจิน (Kim Yeo Jin) รับบทเป็น มเหสีจองซุน(Queen Jeong Sun)
ลีโซจิน (Lee Seo Jin) รับบทเป็น ลีซาน/พระเจ้าจองโจ (Yi San / King Jeong Jo)
ปักอึนฮเย (Park Eun Hye) รับบทเป็น มเหสีโยอึย (Queen Hyo Eui)
ฮันจีมิน (Han Ji Min) รับบทเป็น ซองซงยอน (Seong Song Yeon) หญิงคนรักของพระเจ้าจองโจ
ลีจงซู (Lee Jong Soo) รับบทเป็น ปาร์คเทซู (Park Dae Su)
ชองยุนอา (Sung Hyun Ah) รับบทเป็น องค์หญิงวาวาน (Princess Hwa Wan)



ปลายศตวรรษที่สิบแปดรัชสมัยของ พระเจ้าจองโจ (ลีซาน) พระราชาลำดับที่ยี่สิบสองของราชวงศ์โชซอน ซึ่งในประวัติศาสตร์ห้าร้อยปีของราชวงศ์โชซอน พระเจ้าจองโจนับว่าทรงเป็นพระราชาที่ทรงประสบมรสุมแล ะปัญหาต่าง ๆ มากที่สุดพระองค์หนึ่ง แต่ด้วยความที่พระองค์ทรงมีปณิธานอันมุ่งมั่นที่จะทำ ให้ประชาชนของพระองค์มี ชีวิตที่ดีขึ้น พระองค์จึงทรงพยายามที่จะการปฏิรูปและปรับปรุงประเทศ ชาติในด้านต่าง ๆ ทั้งในด้านการปกครอง พระองค์ทรงสลายความบาดหมางของกลุ่มอิทธิพลต่าง ๆ ที่สั่งสมมานานนับร้อยปีลงได้ ทางด้านเศรษฐกิจ พระเจ้าจองโจก็ทรงบุกเบิกเศรษฐกิจแนวใหม่ ซึ่งนับว่าแปลกใหม่ในศตวรรษที่สิบแปด หรือแม้แต่ในเรื่องของการศึกสงคราม พระเจ้าจองโจทรงสร้างความแข็งแกร่งเกรียงไกรให้กับกอ งทัพ สร้างความเป็นปึกแผ่นให้ชาติบ้านเมืองเป็นและด้วยควา มที่พระองค์ทรงเป็นพระ ราชาที่มีความคิดก้าวหน้า อีกทั้งทรงเป็นพระราชาผู้ปกครองอาณาจักรด้วยความโอบอ ้อมอารี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ทรงใช้หลักประชาธิปไตยในการป กครองประชาชนของพระองค์ จึงทำให้พระองค์กลายมาเป็นพระราชาที่ได้รับการสรรเสร ิญว่าเป็นพระราชาที่ เป็นที่รักของราษฎร์มากที่สุดพระองค์หนึ่งในประวัติศ าสตร์เกาหลี


http://postto.me/1b/bu1.jpg


พระจ้ายองโจ กษัตริย์องค์ที่ 21 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ.1724-1776) ครองราชย์นานที่สุดแห่งราชวงศ์โซซอน

องค์ชายยอนอิง โอรสของพระสนมซุกบินกับพระเจ้าซุกจง ก็คือ พระเจ้ายองโจพระองค์นี้ พระองค์อายุยืนยาวถึง 82 ปี ปกครองแผ่นดินโซซอนยาวนานถึง 52 ปี ทำลายสถิติกษัตริย์อายุยืนและครองราชย์นานของราชวงศ์ โซซอน เป็นกษัตริย์ที่ได้รับการยกย่องที่สุดแห่งราชวงศ์โซซ อน คู่กับพระเจ้าหลาน หลายคนเคยถามว่าวิกผมที่สตรีโซซอนใส่กันนั้น ถูกยกเลิกเมื่อไร ขอตอบว่า ถูกยกเลิกในสมัยพระเจ้ายองโจ พระเจ้ายองโจ มีนโยบายความสมานฉันท์บ้านเมืองจึงค่อนข้างสงบสุข ปราศจากความขัดแย้งระหว่างฝ่ายขุนนาง เกาหลีจึงมีโอกาสพัฒนาในด้านต่างๆ พระเจ้ายองโจได้ชื่อว่าทรงห่วงใยราษฎร โดยการเสด็จออกนอกวังไปเยี่ยมและถือความเดือดร้อนของ ราษฎรเป็นสำคัญ อย่างที่กษัตริย์เกาหลีเพราะองค์ก่อนๆไม่เคยทำ ทรงลดความหรูหราของราชสำนัก เพื่อลดค่าใช้จ่าย หรือทรงแม้แต่ห้ามการดื่มสุรา ซึ่งเป็นนโยบายที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของพระองค์

http://postto.me/1b/cmh.jpg


พระนางจองซุน สตรีผู้ฝักใฝ่การเมือง

ใครดูลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน คงรู้จักพระนางจองซุนดี พระนางถือเป็นฐานอำนาจสำคัญให้สกุลคิมครองอำนาจเป็นเ วลายาวนาน กว่าจะสิ้นอำนาจก็ในยุคแดวอนกุน พระนางจองซุนประสูติเมื่อ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1745 เป็นธิดาจากตระกูล คิม แห่ง คยองจู

หลังการสิ้นพระชนม์ของพระนางจองซอง ในปี ค.ศ. 1757 พระนางจองซุนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระมเหสี ในปี ค.ศ. 1759 ด้วยวัย 14 พรรษา พระนางจึงมีอายุห่างจากพระเจ้ายองโจถึง 51 ปี (ห่างมากที่สุดในประวัติศาสตร์) พระนางเป็นบุคคลที่มีความเฉลียวฉลาดมีไหวพริบปฏิภาณ และมีทักษะด้านวาจาจนเป็นที่น่าชื่นชมของกษัตริย์ แต่ที่สำคัญ คือพระนางเป็นสตรีที่ฝักใฝ่การเมือง พยายามขยายอำนาจของตัวเอง พระนางเองคงรู้ตัวว่าพระเจ้ายองโจนั้นอายุแก่มาก แก่กว่าปู่ของพระนางด้วยซ้ำ ถ้าวันหนึ่งพระเจ้ายองโจลาลับไปก่อน พระนางต้องเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาว ในวังหลวงที่แข่งขัน แย่งชิงกันอย่างรุนแรง ผู้มีอำนาจเท่านั้นคือผู้อยู่รอด พระนางพยายามขยายอำนาจในยุคของพระเจ้ายองโจ แต่ก็ถูกสกัดดาวรุ่งด้วยองค์รัชทายาทซาโด แต่เมื่อรัชทายาทซาโด ถูกอดข้าวอดน้ำจนต้องตีตั๋วกลับสวรรค์ อำนาจของพระนางก็กลับมีล้นฟ้า

อำนาจกับวาสนาอาจมันมีจังหวะจะไปจะมา เมื่อพระสวามี ราชายองโจขอโบกมือลากลับขึ้นสวรรค์เมื่อ ค.ศ. 1776 หลานสุดที่รักของพระเจ้ายองโจ ได้ขึ้นเป็นพระเจ้าจองโจ แห่งโซซอน พระนางได้รับการสถาปนาเป็นพระอัยยิกาเลี้ยง ในวัย 31 พรรษา พระนางอายุมากกว่าพระเจ้าจองโจ เพียง 7 พรรษาเท่านั้น เหตุการณ์สำคัญหนึ่งคือ พระนางและกลุ่มขุนนางโนรนที่พระนางทรงเป็นผู้นำให้เอ งนั้น ได้สร้างกองกำลังทหารเพื่อยึดอำนาจการปกครองของพระเจ ้าจองโจ โดยการพยายามลอบปลงพระชนม์ สุดท้ายถูกปราบปรามลงพระนางได้รับโทษโดยถูกกักบริเวณ อยู่ในตำหนักเล็กๆภายใน พระราชวังในฐานะสมาชิกราชวงศ์คนหนึ่ง ตลอดเวลาหลังจากเหตุการณ์นี้พระนางอยู่อย่างสงบปากสง บคำ แต่ก็เคลื่อนไหวใต้ดินตลอด เพื่อรักษาอำนาจอันหอมหวานนั้น ถือเป็นช่วงตกต่ำ แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าจุดสูงสุดของพระนางจริงๆ กำลังจะมาพร้อมกับการสวรรคตพระราชาที่ดีที่สุดพระองค ์หนึ่งของเกาหลี ในปี ค.ศ. 1800

นรกหรือสวรรค์ไม่รู้เปิดทางให้พระนาง เมื่อพระราชาองค์ต่อมานามว่า ซุนโจ มีอายุเพียง 11 พรรษา พระนางในฐานะพระปัยยิกา (ย่าทวดเลี้ยง) ผู้อาวุโสสูงสุดของราชวงศ์จึงได้เป็นผู้สำเร็จราชการ ว่าราชการหลังม่านอย่าง ชอบธรรมเนียม นี่คือจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของพระนาง

ความร้ายกาจของพระนางคือการล้มกระดานทุกอย่าง ที่พระเจ้าจองโจทรงวางไว้ ไม่นั้นประวัติศาสตร์เกาหลีอาจไปดีกว่านี้ในยุคนั้น ขุนนางในราชสำนักของพระเจ้าซุนโจมาจากตระกูลคิม ทุกตำแหน่งสงวนไว้ให้แต่คนจากตระกูลคิม หรือผู้สนิทสนมกับตระกูลคิมเท่านั้น แม้แต่ตำแหน่งมเหสีก็มาจากตระกูลคิม ซึ่งจะส่งผลต่อราชวงศ์ต่อมา เหมือนเป็นวงจรอุบาท เพราะมเหสีองค์นี้ ก็จะได้ว่าราชการหลังม่านเหมือนกัน

ตระกูลคิมผูกขาดทุกอย่างในราชสำนัก โดยมีพระนางจองซุน เป็นหัวหน้าทีม และที่น่าประนามก็คือ มีการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างกว้างขวาง ระบอบการสอบจอหงวนล่มสลาย โครงสร้างทางสังคมของโชซอนที่มีมาหลายร้อยปีล่มสลายล งในสมัยพระเจ้าซุนโจ มีการปราบปรามพวกนอกรีตหรือชาวคริสต์อย่างรุนแรง เท่าทีมีมาในประวัติศาสตร์เกาหลี

แต่ก็ยังดีครับ ที่พระนางอยู่ได้ไม่นานแค่ 5 ปี ของการว่าราชการหลังม่าน ก็ลาลับจากโลกนี้ไป ในวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1805 รวมอายุ 61 พรรษา ปิดฉากสตรีผู้ฝักใฝ่การเมือง และมีอำนาจถึง 3 กษัตริย์ พร้อมกับฝากกลียุคไว้บนหน้าประวัติศาสตร์

อย่างไรก็ตามมรดกที่พระนางฝากไว้อย่างฝั่งรากลึกคือเ ศษสวะตระกูลคิมที่มี อำนาจต่อไปอีกหลายยุคสมัย สร้างความอ่อนแอให้กับประเทศ คอรัปชั่นทั้งที่โล่งที่แจ้ง กว่าจะสิ้นหมดไปจากราชสำนักก็ปาเข้ามาถึงยุคแดวอนกุน ที่โซซอนใกล้มอดดับเต็มที

http://postto.me/1b/a5m.jpg


กษัตริย์ จองโจ (ไม้บรรทัดแห่งโซซอน)


กษัตริย์ องค์ที่ 22 แห่งราชวงศ์ โซซอน (ค.ศ. 1776-1800 )( พ.ศ .2319-2343 )

กรุงศรีอยุธยา ล่มสลาย ในปี 2310 ( ค.ศ. 1767)
ต่อ ด้วย กรุงธนบุรี ค.ศ.1767-1782
กรุงรัตนโกสินทร์ ในรัชกาลที่ 1(ปี ค.ศ.1782-1809)

แผ่นดินสมัยของ กษัตริย์ จองโจ ตรงกับปลายช่วง กรุงธนบุรี และต่อ กับรัชกาลที่ 1 แห่ง ราชวงศ์ จักรี ในไทย ยุ่งเหยิงวุ่นวาย กับการ กู้อิสรภาพ จากพม่า ตั้ง ราชธานีใหม่ 2 ราชธานี มี 2 ราชวงศ์ และ ทำสงคราม กับพม่า ลาว ญวน อย่างต่อเนื่อง

จากละคร Yi-San ที่พอจำได้


กษัตริย์ จองโจ ตั้งพระทัยมั่น ในการสานต่อ การปฎิรูป บ้านเมือง ต่อจากพระอัยกา กษัตริย์ยองโจ

ทรงสนพระทัยในความเป็นอยู่ของราษฎร สนพระทัยในการหาความรู้ ของชาวตะวันตก

เพราะบ้านเมืองสงบ ไม่มีสงครามภายนอก ก็เลย มีเวลา แย่งชิง อำนาจ ภายในกันเอง ระหว่างเชื้อพระวงศ์ ด้วยกัน ระหว่าง ขุนนางและขุนนาง ด้วยกัน ที่แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายโชรน และ โนนน รวมทั้งพระเจ้าจองโจเอง ที่ต้องชิงอำนาจการปกครอง จากเหล่าขุนนางเอง

องค์ชาย ลีซาน

มีพระชนม์ชีพ ของการเป็นองค์ชายที่ กดดัน เสี่ยงกับ พระพิโรธของพระอัยกาถึงขั้นประหารชีวิต บ่อยครั้ง สถานะของการเป็นองค์ชายรัชทายาท ไม่มั่นคง การศึกษาวิชาความรู้ของการเป็นกษัตริย์ในอนาคต ทรงได้รับอย่างเต็มที่ แต่บททดสอบจะรุนแรงบ่อยครั้งจากพระอัยกา หากจะเทียบ ชีวิตในขณะเยาว์ชันษาแล้ว องค์ชาย ลีซาน อยู่ ปากเหว ที่มีคนคอยจ้องผลักให้ ตกเหว ตลอดเวลา เป็น องค์ชายที่โดดเดี่ยว แทบไม่ได้รับความรัก ความใกล้ชิด จาก ทั้งพระอัยกา และพระมารดา ทั้งที่แท้จริงแล้ว ทรงเป็นที่รักของทั้งสองพระองค์

http://postto.me/1b/a5e.jpg




พระนางฮเยกยองกุง เป็น พระมารดา ลีซาน พระเจ้ายองโจ

พระนางเฮคยองกุง ประสูติเมื่อ พ.ศ. 2278 ในสมัยพระเจ้ายองโจ เป็นธิดาของฮงพงฮัน จากตระกูลฮงแห่งพงซาน เมื่อพระชนมายุเพียง 9 ปี ก็ต้องอภิเษกกับองค์ชายรัชทายาทจังฮอน พระโอรสของพระเจ้ายองโจ ดังนั้นพระนางตระกูลฮงจึงได้เป็นเซจาบิน คือ พระชายาของรัชทายาท ในพ.ศ. 2293 พระชายาก็ประสูติพระโอรสองค์แรก คือ องค์ชายรัชทายาทอีซอ แต่ดำรงพระชนม์ชีพอยู่เพียงสองปีก็สิ้นพระชนม์ ในพ.ศ. 2295 พระชายาก็ประสูติพระโอรสอีกพระองค์ ได้รับแต่งตั้งเป็นวังเซซุน (พระนัดดารัชทายาท) ซึ่งภายหลังได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าจองโจ

แต่องค์ชายจังฮอนพระสวามีทรงเริ่มมีอาการทางพระสติ ทรงหวาดกลัวสิ่งต่างๆรอบตัวและเข่นฆ่าขันทีและนางรับ ใช้ต่างๆในวัง เป็นที่เดือดร้อนไปทั่ว จนในพ.ศ. 2305 ขุนนางถวายฎีกาให้พระเจ้ายองโจลงพระอาญาองค์ชายจังฮอ น พระเจ้ายองโจยังทรงลังเลอยู่ จนสนมลียองบิน พระมารดาขององค์ชายจังฮอนไปทูลขอให้พระเจ้ายองโจลงพร ะอาญาพระโอรส โดยมีจดหมายถึงพระชายาว่า

ข่าวลือที่ข้าได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ คืนนั้นร้ายแรงกว่าทุก เรื่องที่ข้าเคยได้ยิน ให้ข้าตายเสียงยังจะดีกว่าต้องมาทนรับฟังเรื่องแบบนี ้ แต่ถ้าข้าต้องอยู่ต่อไป สิ่งที่ข้าควรทำเท่านั้นคือปกป้องพระราชอาณาจักรและว ังเซซุน แม้ว่าข้าอาจจะสู้หน้าเจ้าต่อไปไม่ได้อีกเลยทั้งชีวิ ต


พระเจ้ายองโจมีพระราชโองการปลดองค์ชายจังฮอนจากตำแหน ่งรัชทายาท และปลดพระชายาฮงจากตำแหน่ง และเนรเทศนางกลับบ้านเดิมคือบ้านของฮงพงฮัน องค์ชายจังฮอนเข้าไปอยู่ในกล่องไม้ใส่ข้าวตอกตะปูแน่ น เป็นเวลาเจ็ดวันจึงสิ้นพระชนม์ ต่อมาพระเจ้ายองโจทรงรู้สึผิด ทรงคืนตำแหน่งให้อดีตองค์ชายรัชทายาทใหม่พระนามว่า องค์ชายรัชทายาทซาโด ส่วนอดีตพระชายาฮงนั้น ก็ได้คืนตำแหน่งเป็น พระชายาฮเยบิน (??)

แต่พระเจ้ายองโจทรงให้วังเซซุนเป็นพระโอรสบุญธรรมของ องค์ชายรัชทายาทฮโยจัง และพระชายาฮโยซุน เพื่อจะได้ไม่ต้องมีพระราชบิดาที่ต้องโทษ เมื่อวังเซซุนขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าจองโจในพ.ศ. 2319 จึงทรงแต่งตั้งพระราชบิดาและพระราชมารดาที่แท้จริงขึ ้นเป็นกษัตริย์ไม่ได้ เพราะความผิดขององค์ชายซาโดยังเป็นที่ประจักษ์ และก็มีพระราชบิดาและพระราชมารดาบุญธรรมที่ได้รับแต่ งตั้งเป็นกษัตริย์อยู่ แล้ว (องค์ชายรัชทายาทฮโยจัง เป็น พระเจ้าจินจง) แต่พระเจ้าจองโจก็พระราชทานพระนามใหม่แก่พระชายาฮเยบ ินคือ ฮเยกยองกุง อันจะเป็นชื่อสุสานของนางเมื่อสิ้นพระชนม์แล้ว "กุง" เป็นสุสานระดับของพระสนม

พระนางฮเยยองกุงสิ้นพระชนม์ในพ.ศ. 2358 ในรัชกาลของพระนัดดาพระเจ้าซุนโจ ที่ตำหนักเคียงชอนจอน พระราชวังชางด๊อกกุง

ต่อมา พระเจ้าโคจง แต่งตั้งพระนางเฮคยองและองค์ชายซาโดขึ้นเป็นกษัตริย์ โดยพระนางเฮคยองได้เป็น มเหสีฮอนกยอง และต่อมาได้รับสถาปนาเป็นฮองเฮา เป็น พระจักรพรรดินีอี

ความเป็นมาของ พระนางฮเยกยองกุง

นางเป็นบุตรีของขุนนางตระกูลฮง เป็นตระกูลขุนนางที่สืบทอด มาอย่างยาวนานและมีการเกี่ยวดองกับเชื้อพระองค์มาตลอ ด ถึงกระนั้นครอบครัวของ นางก็มีฐานะยากจน นางได้รับเลือกจากกษัตริย์ยองโจ ให้เป็นพระชายาขององค์ชายซาโด เมื่ออายุได้ 10 ขวบ พระนางได้ให้กำเนิดอีซานท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างก ษัตริย์ยองโจ และซาโดซึ่งในขณะนั้นมีที่ท่าจะคลี่คลายลงบ้าง พระนางรักลูกของพระนางมากยิ่งกว่าชีวิต และตัดสินใจที่จะไม่ให้อีซานเป็นเหมือนพระบิดาเป็นอั นขาด พระนางถูกปลดจากตำแหน่ง องค์หญิงรัชทายาทหลังจากซาโดเสียชีวิต ถึงแม้ว่าพระสวามีของพระนางจะถูกฆ่าแต่นาง ได้นิ่งเงียบและมีสติเพื่อลูกชายของพระนางและสอนอีซา นว่าไม่ให้ยึดติดกับ ความแค้น พระนาง ได้เขียนอัตถชีวประวัติชื่อ The Memoirs of Lady Lady Hyekyeong หรือ Memoirs of a Korean Queen (Hanjung nok) ถ่ายทอดเรื่องราวของพระนาง ในขณะนั้น รวมทั้งเรื่องราวของนางตั้งแต่เกิดและบรรพชน
ของพระนาง


บันทึกพระนางฮเยกยองกุง

ในบันทึกเล่มนี้นางได้กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างกษั ตริย์ยองโจและพระสวามี ของนาง นางได้กล่าวว่า กษัตริย์ยองโจปฏิบัติกับซาโดไม่ดีเท่าที่ควรทำให้ซาโ ดที่มีความอบอุ่นและ อ่อนโยนโดยนิสัย ต้องมีตกอยู่ในสภาพถูกรบกวนทางจิตความกลัวของซาโดค่อ ยๆเริ่มจาก ความหวาดกลัว เครื่องนุ่งห่มต้องเสียเวลาเป็นเวลานานในตอนเช้า เพื่อเลือกอาภรณ์จนถึง การทำร้ายบรรดาข้าหลวง บันทึกนี้นับว่าเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ ที่ประเมินค่ามิได้บันทึก เล่มนี้ถ่ายทอดประวัติศาสตร์ ทางการเมืองในสมัยโชซอนตั้งแต่สมัยกษัตริย์ยองโจ กษัตริย์จองโจ กษัตริย์ซุนโจ (King Sunjo) นอกจากกษัตริย์ยองโจจะจัดแจงเรื่องการอภิเษกขององค์ช ายซาโดแล้ว พระองค์ยังจัดแจง การอภิเษกของพระนัดดา องค์ชายอีซานด้วยเช่นกัน องค์ชายอีซานได้อภิเษกกับ พระชายาฮโยอีย (Hyo-eui) ผู้ที่พระอัยกาทรงคัดเลือก ด้วยวัยเพียง 10 ชันษา
ถึงแม้ว่ากษัตริย์จองโจจะประสบความทุกข์ยากตั้งแต่ยั งทรงพระเยาว์ก็ตาม แต่ต่อมาพระองค์ ก็ได้เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งผู้ทำให้เก ิดความเฟื่องฟูความรู้ ทางศิลปวัฒนธรรม

http://postto.me/1b/a5n.jpg




พระมเหสีฮโยอึย จากตระกูลคิม

พระมเหสีฮโยอึย จากตระกูลคิม (, ค.ศ. 1753 - 1821) พระมเหสีในพระเจ้าจองโจ ทรงประสูติเมื่อ ค.ศ. 1753 (พ.ศ. 2296) ในสกุลคิม เช่นเดียวกับพระมเหสีจองซุนในพระเจ้ายองโจ ทรงได้เป็นพระชายาขององค์ชายลีซาน (พระเจ้าจองโจ) เมื่อ ค.ศ. 1763 (พ.ศ. 2306) ขณะพระชนม์เพียง 10 ชันษา

เมื่อพระสวามีได้ขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 1776 (พ.ศ. 2319) ทรงได้เลื่อนพระยศขึ้นเป็นพระมเหสี เมื่อพระชนม์เพียง 23 พรรษา ต่อมาทรงขึ้นเป็นพระพันปีคิม ในปี ค.ศ. 1800 (พ.ศ. 2343) ขณะพระชนม์ได้ 47 พรรษา เพราะพระสวามีได้สวรรคตไปและต้องทรงเป็นพระมารดาเลี้ ยงขององค์รัชทายาทวังเซ จา ซึ่งต่อมาได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าซุนโจ

ทรงมีพระชนม์ชีพที่เหลืออย่างสุขสบาย โดยทรงสวรรคตในปี ค.ศ. 1821 (พ.ศ. 2364) ขณะพระชนม์ได้ 68 พรรษา ทรงไม่มีพระราชโอรส-พระราชธิดาให้พระเจ้าจองโจเพราะตำนานกล่าวไว้ว่าพระน าง ทรงเป็นพระโรคโลหิตจางมาแต่ทรงพระเยาว์ พระนางทรงมีซังกุงคนสนิทคนหนึ่งชื่อคิมซังกุง

http://postto.me/1b/a5f.jpg




พระสนมซงยอน จากตระกูลซอง

พระสนมซงยอน จากตระกูลซอง (Royal Noble Consort Ui of the Seong clan,) ประสูติเมื่อปี ค.ศ. 1753 (พ.ศ. 2296) เป็นเด็กกำพร้าเมื่อทรงพระเยาว์ได้เข้ามาเป็นนางกำนั ลฝึกหัดและได้พบกับองค์ ชายลีซาน (พระเจ้าจองโจ) และปาร์คเทซู หัวหน้าองครักษ์ในรัชสมัยพระเจ้าจองโจ ภายหลังทั้งสามได้สาบานเป็นเพื่อนร่วมสาบาน แต่ต่อมาซงยอนได้เป็นพยานในคดีพบอาวุธที่ตำหนักขององ ค์ชายซาโดพระบิดาของ องค์ชายลีซาน จึงทำให้ทั้งซงยอน, เทซู และปาร์คดัลโฮซึ่งเป็นมหาดเล็กและเป็นอาของเทซู ต้องหนีออกจากเมืองฮันยางไป 9 ปี

เมื่อเรื่องคลี่คลายแล้ว ทั้งสามจึงกลับมายังฮันยาง ซงยอนได้ไปสมัครเป็นคนงานในศูนย์ศิลปาชีพ ส่วนเทซูได้ช่วยดัลโฮนำสินค้าไปขายต่างเมือง ต่อมาทูตจากต้าชิงได้มาเจริญสัมพันธไมตรีและต้องการส ินค้า กลับไปที่ต้าชิง แต่เกิดคดีขโมยผ้าแพรสีขาวทำให้ซงยอนคิดวิธีการทำให้ ผ้าแพรสีอื่นๆ เปลี่ยนเป็นสีขาวได้สำเร็จ เมื่อองค์ชายลีซานอยากพบผู้คิดค้นวิธีนี้ใต้เท้าซึ่ง เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ จึงได้นำภาพวาดของซงยอนไปให้ทอดพระเนตรและบอกว่าผู้ว าดภาพนี้ชื่อซองซงยอน พระองค์จึงโปรดให้เรียกตัวมาพบในภายหลัง พระองค์จึงได้พบกับซงยอนอีกครั้งในรอบ 9 ปี ส่วนเทซูพระองค์ก็ได้พบกันที่บ้านของสกุลปาร์คที่ใกล ้ๆสะพานกวางทงต่อมาเทซู ได้สมัครเป็นทหารและได้เป็นสมใจ

เมื่อพระเจ้ายองโจสวรรคตในปี พ.ศ. 2319 องค์ชายลีซานจึงขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าจองโจ ขณะพระชนม์ 24 พรรษาและพระองค์ได้เลือกซงยอนให้เป็นพระสนม และแต่งตั้งให้เทซูเป็นหัวหน้าองครักษ์ หลังจากนั้น 6 ปี ในพ.ศ. 2325 ทรงพระประสูติกาลและประสูติพระราชโอรส พระเจ้าจองโจทรงดีพระทัยยิ่งนักเพราะหญิงที่ทรงรักสุ ดหัวใจได้ให้กำเนิดพระ ราชโอรสองค์แรก เป็นองค์รัชทายาทซึ่งทรงพระนามว่า องค์รัชทายาทมุนฮโย แต่ทรงดำรงตำแหน่งได้ 4 ปี ก็สิ้นพระชนม์

หลังจากนั้นได้ไม่นานพระสนมซองซงยอนก็ทรงสิ้นพระชนม์ ไปอีก ระหว่างทรงพระประสูติกาล ขณะพระชนม์เพียง33พรรษา พระเจ้าจองโจเสียพระทัยยิ่งนักหลังจากนั้นองค์รัชทาย าทองค์ที่ 2 (พระเจ้าซุนโจ) ก็ทรงประสูติในปี พ.ศ. 2333

พระโอรสและพระธิดาในพระสนมซองซงยอน

องค์รัชทายาทมุนฮโย (ค.ศ. 1782 - 1786) พระราชโอรสองค์โต ได้เป็นองค์รัชทายาทเมื่อแรกประสูติ สิ้นพระชนม์เมื่อพระชนม์เพียง4พรรษา
องค์หญิงไม่ปรากฏพระนาม (ค.ศ. 1784) พระธิดาองค์เดียวของพระนาง สิ้นพระชนม์เมื่อแรกประสูติ


http://showss.net/images/2015/12/09/9aWP.jpg

พระเจ้าซุนโจ กษัตริย์องค์ที่ 23 แห่งโชซอน จากซีรีย์ ลีซาน

กษัตริย์ผู้อ่อนแออีกองค์หนึ่ง ต้นรัชสมัยถูกพระปัยยิกาเลี้ยง(ราชินีชองซุน)ว่าราชก าลแทน และตลอดรัชสมัยก็ตกอยู่ในการแทรกแซงอำนาจจากกลุ่มขุน นางและครอบครัวของฝ่าย พระมเหสีของพระองค์เอง



กษัตริย์โชซอนจากประวัติศาสตร์สู่บทละคร

จากประวัติศาสตร์เก่าหลีในยุคโชซอนได้ มีการนำประวัติศาสตร์มาเรียบเรียงเขียนขึ้นเป็นบทละค ร และถ่ายทอดออกมาเป็นซีรีย์ที่ครบรสสนุกสนาน ในที่นี้จะรวบรวมเรื่องราวของกษัตริย์โชซอนของเกาหลี ใต้ ในรัชสมัยต่างๆที่ถูกนำมาสร้างเป็นซีรีย์และภาพยนตร์ โดยเริ่มตั้งแต่...

พระเจ้าแทโจ ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ.1392-1398) จากยอดแม่ทัพสู่ปฐมกษัตริย์

กว่าลีซองกเย จะได้ครองราชย์อายุก็ปาเข้าไป 57 ปี พระองค์ต้องเป็นบุคคลที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงมากๆ 57 ปี ก่อนจะได้เป็นปฐมกษัตริย์ก่อตั้งราชวงศ์ใหม่ ถือว่าผ่านเกมส์การเมืองและศึกสงครามมาอย่างโซกโซน และพระองค์ก็สละบัลลังก์แบบไม่ได้สวรรคต ครองตำแหน่งเป็นแทซังวัง ทันได้เห็นพระโอรสฆ่ากันอย่างเมามัน และครองราชย์ถึง 2 พระองค์ กว่าพระองค์จะสวรรคตก็เมื่อปี ค.ศ. 1408 โดยมีพระชมน์มายุรวม 73 พรรษา อยู่เป็นแทซังวัง นานกว่าเป็นพระราชาเสียอีก

พระเจ้าจองจง กษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ.1398-1399) ขึ้นสู่และลงจากบัลลังก์ด้วยน้องชาย

ด้วยลูกที่เยอะแยะมากมายของพระเจ้าแทโจ ที่เกิดจากหลายแม่ ทำให้เกิดศึกสายเลือด ในการแย่งกันเป็นองค์รัชทายาทเพื่อเป็นพระราชาองค์ต่ อไป เหตุนี้พระเจ้าแทโจ เห็นโอรสเข่นฆ่ากันเอง จึงตรอมใจลงจากราชบัลลังก์ องค์ชายลีบังวอน ลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาท ผู้เป็นน้องชายต่างมารดา แล้วให้พี่ชายแม่เดียวกันเป็นองค์รัชทายาทแทน และกลายมาเป็นพระเจ้าจองจง พระองค์นี้เอง แต่อำนาจของพระเจ้าจองจงก็อยู่ในมือองค์ชายลีบังวอน จึงตัดสินใจยกบัลลังก์ให้ดีกว่า เกรงใจหรือกลัวน้องชายไม่รู้

พระเจ้าแทจง กษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1400 - ค.ศ. 1418) ราชาบัลลังก์เลือด

ความสามารถของพระเจ้าแทจง สามารถลบรอยเลือดครองบัลลังก์ได้ดีทีเดียวครับ (กว่าพระองค์จะได้เป็นพระราชาก็ต้องเข่นฆ่าพี่น้องไป หลายองค์) พระเจ้าแทจงได้สร้างความมั่นคงให้ราชวงศ์โซซอนเป็นอย ่างมาก วางรากฐานการปกครองที่จะใช้ไปจนโซซอนล่มสลาย และราชวงศ์โซซอนได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากหม ิง ก็ในสมัยของพระองค์ แรกเริ่มเดิมทีเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์ พระองค์ไม่ได้รับตราตั้งจากพระบิดา(พระเจ้าแทโจ) แต่ก็พิสูจน์ให้พระบิดาเห็นถึงความตั้งใจ จริงใจบริหารบ้านเมือง จนพระบิดามอบตราตั้งให้ ค.ศ.1418 ก็ได้ยกบัลลังก์ให้กับโอรส เป็นพระเจ้าเซจงมหาราช

พระเจ้าเซจงมหาราช กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ.1418-1450) 1 ใน 2 มหาราชแห่งเกาหลี

พระองค์ได้สร้างประโยชน์ให้คนเกาหลี ที่จนตราบวันนี้ยังใช้กันอยู่ นั่นคืออักษรฮันกึล ตัวอักษรชุดแรกในประวัติศาสตร์เกาหลี และยังมีอีกหลายๆราชกิจที่เป็นประโยชน์ทั้งดินแดนที่ ขยายออกไปถึงแม่น้ำยาลู วิทยาการใหม่ต่างๆ ก็เกิดขึ้นไม่น้อยในยุคของพระองค์ เช่น มาตรวัดน้ำฝน นาฬิกาน้ำ นาฬิกาแดด เป็นต้น กล่าวได้ว่ารุ่งเรืองสุดๆ นักปราชญ์เต็มบ้านเต็มเมือง

พระเจ้ามุนจง กษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1450 – 1452) บัลลังก์ไม่มั่นคง

ด้วยการครองราชย์ที่สั้นมาก ประวัติค่อนข้างหายาก แต่ก็พอบอกได้ว่าพระองค์ทรงเป็นนักประดิษฐ์เหมือนกัน โดยมีจางยองซิล นักประดิษฐ์ในยุคของบิดาเป็นแบบอย่าง แต่ที่น่าหดหู่ คือเหตุการณ์หลังจากที่พระองค์สวรรคต ทิ้งโอรสให้กอดมรดกบัลลังก์ราชาอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีพระพันปี และมเหสีคอยค้ำจุนบัลลังก์โอรส (พระเจ้าทันจง) เพราะพระเจ้ามุนจงมีมเหสีองค์เดียว และสิ้นพระชนม์ตั้งแต่พระองค์ยังเป็นรัชทายาทอยู่เลย

พระเจ้าทันจง กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1452 – 1455) เยาวราช ผู้น่าเวทนา

พ่อลูกคู่นี้ (พระเจ้ามุนจงและพระเจ้าทันจง) ระยะเวลาครองราชย์รวมกัน 5 ปี เกินสมัยรัฐบาลไป 1 ปี และเป็นพ่อลูกที่น่าสงสารมาก เหตุเพราะความมั่นคงราชบัลลังก์ของพระเจ้าทันจงหามีไ ม่เพราะถูกเลื่อยขา บัลลังก์อยู่ตลอดเวลา โดยอาของพระองค์เอง นั่นคือองค์ชายซูยาง พระเจ้าทันจงโดนบีบบังคับให้สละราชบัลลังก์โดยข้อหาเ ยาว์วัยและไร้อำนาจ และสุดท้ายพระองค์ก็ถูกเนรเทศ โดนปลดเป็นองค์ชายโนซาน และถูกปลงพระชนม์ในที่สุด ด้วยวัยเพียง 15 ปี และไม่ได้รับพระนามกษัตริย์ พระองค์ได้รับพระนามกษัตริย์ ว่า “ทันจง” ในสมัยพระเจ้าซุกจงแห่งโซซอน

พระเจ้าเซโจ กษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1455 - 1468) ถูกตราหน้าว่าแย่งบัลลังก์

องค์ชายซูยังคงเหมือนถูกหยามเกียรติ เพราะต้องทนเรียกพระเจ้าหลานตัวเองว่าพระราชา จึงกำจัดให้พ้น และอาศัยความอาวุโส และผู้สนับสนุน ฟื้นฟูราชวงศ์ที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลขุนนาง ยกตัวเองขึ้นสู่บัลลังก์เป็นพระเจ้าเซโจ เป็นยุคสมัยหนึ่งที่วุ่นวาย มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในการยึดบัลลังก์ เกิดกบฏอยู่หลายครั้ง แต่พระเจ้าเซโจ ก็รอดพ้นมาได้ พระองค์ทรงเริ่มการชำระกฎหมายใหม่ประจำอาณาจักร ที่จะไปสมบูรณ์ในยุคของหลาน และองค์ทรงเลื่อมใสพุทธศาสนา หลังจากที่พุทธศาสนาถูกกดขี่มานาน

พระเจ้าเยจง กษัตริย์องค์ที่ 8 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1468 - 1469) นั่งบัลลังก์แทนพี่ชาย

เป็นพระราชาอีกองค์ที่มีวาสนาได้นั่งบัลลังก์น้อยจริ งๆ เพียงปีกว่านิดๆ เท่านั้น แถบยังไม่พอยังมีผู้สำเร็จราชการแทนอีก นั้นคือ พระมารดาของพระองค์ พระนางจองฮี ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์โซซอน ที่สตรีว่าราชการหลังม่าน แรกเริ่มเดิมทีพระองค์ไม่ได้เป็นรัชทายาทหมายเลขหนึ่ ง แต่คนที่เป็นหมายเลขหนึ่งคือพี่ชายของพระองค์ พี่ชายพระเจ้าเยจงคงไม่อยากเป็นพระราชา เลยด่วนลาลับด้วยโรคจิตใจและกายที่รุมเร้า พระองค์จึงกลายเป็นองค์รัชทายาทแทนและเป็นกษัตริย์ใน เวลาต่อมา ไม่รู้สายเลือดพระเจ้าเซโจเป็นยังไง มีแต่ลูกชายที่ไม่แข็งแรงนัก พระเจ้าเยจง เลยตามเสด็จพ่อเซโจไปในเวลาไม่ถึง 2 ปี

พระเจ้าซองจง กษัตริย์องค์ที่ 9 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1469 - 1494) นโยบายเกรงใจแม่

พระเจ้าซองจง ได้บัลลังก์มาต่อจากอา เพราะอาทิ้งโอรสแค่ 4 ขวบ ให้ดูต่างหน้า จะให้ว่าราชการก็พังกันพอดี พระนางจองฮี ฐานะอาวุโสสุด จึงต้องเฟ้นหาองค์ชายที่ใกล้ชิดราชวงศ์และเหมาสมที่ส ุด มองไปที่โอรสองค์โตของพระนางอินซู ก็กลัวจะมาตายอีกเพราะสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง จึงยกบัลลังก์ให้โอรสองค์เล็กแทน ในวัย 13 ปี เป็นพระเจ้าซองจง จึงต้องมีเสด็จย่า และเสด็จแม่ ช่วยว่าราชการหลังม่าน ตลอดรัชสมัย 20 กว่าปี พระเจ้าซองจงเป็นกษัตริย์ที่ไม่เด็ดขาด อำนาจจึงถูกบั่นทอนด้วยขุนนาง แถมเป็นคนรักแม่หรือกลัวแม่ไม่รู้ ปล่อยให้แม่แทรกแซงกิจการบ้านเมือง กลายเป็นนโยบายเกรงใจแม่ เป็นเหตุให้เกิดคดีประหารภรรยาของตัวเอง และนำมาสู่สายลมแห่งเลือดในยุคหน้า แต่ข้อดีที่น่ากล่าวถึง พระองค์ได้สร้างสังคมขงจื้อแบบสมบูรณ์ และพระองค์ได้รับการยกย่องว่าเป็นกษัตริย์ตามลัทธิขง จื้อองค์แรกของโซซอน

องค์ชายยอนซัน กษัตริย์องค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1494 - 1506 ) จอมโหดหมายเลข 1

กษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์โซซอนที่ไม่ได้รับพระนามกษ ัตริย์ เพราะเป็นจอมโหด เผด็จการ บ้าอำนาจ และซาดิสเสียด้วย อะไรไม่ชอบพระทัย ประหารลูกเดียว แม้แต่ขุนนางที่ตายไปแล้ว ยังไม่เว้น ขุดศพขึ้นมาทำลายเป็นผุยผง เหตุการณ์แรก การสังหารหมู่ปราชญ์ปีมูโอ ประหารขุนนางที่กล่าวหาพระเจ้าเซโจ ว่าไม่มีความชอบธรรมในการครองบัลลังก์ และเหตุการณ์ 2 การสังหารหมู่ปราชญ์ปีคัปจา ประหารทุกคนไม่ว่าจะเป็น เชื้อพระวงศ์ทั้งระดับสูงและล่าง ขุนนางผู้ใหญ่ ขนนางทั่วไป ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลด เนรเทศและประหารพระมารดา รวมทั้งพระนางอินซู ก็ต้องโดนไปกับเหตุการณ์นี้ด้วย กล่าวกันว่าองค์ชายยอนซันทรงตัดแขนขาพระนางอินซูจนตา ย นักประวัติศาสตร์จึงไม่ยอมรับพระองค์ในฐานะกษัตริย์ สุดท้ายพระองค์ก็ถูกรัฐประหาร โดยกลุ่มขุนนาง และยกองค์ชายจินซอง น้องต่างแม่ เป็นพระเจ้าจุงจง เรียกว่าเหตุการณ์รัฐประหารพระเจ้าจุงจง

พระเจ้าจุงจง กษัตริย์องค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1506 - 1544) ครองแผ่นดินด้วยความอ่อนแอ

ถือเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์นานพระองค์หนึ่ง เกือบ 40 ปี แต่ตลอดรัชสมัยถูกครอบงำด้วยอำนาจของขุนนาง โดยเฉพาะขุนนางที่ทูลเชิญให้พระองค์มาเป็นกษัตริย์หุ ่นเชิด ทำอะไรก็ไม่ได้ แม้แต่คนรักยังปกป้องไม่ได้ จึงเป็นพระราชาที่อ่อนแอที่สุด พระองค์พยายามปฎิรูปราชสำนักที่บอบช้ำมาตั้งแต่สมัยข องเสด็จพี่คนละแม่ แต่ก็ไม่สำเร็จ และยุคนี้ดูเหมือนว่าพระมเหสีจะมีอิทธิพลเหลือเกิน เพราะวันๆ มีแต่ขัดแย้งกันเรื่องมเหสี พระเจ้าจุงจงมีมเหสี 3 องค์ ซึ่งเป็นปัญหาให้ราชสำนัก และมเหสี 2 ใน 3 ก็มาจากตระกูลยุน กลางๆค่อนไปทางปลายรัชสมัยและยาวไปถึงรัชสมัยหน้า ขุนนางตระกูลยุนแบ่งเป็นสองฝ่าย ยุนเล็ก ยุนใหญ่ แก่งแย่งอำนาจกัน

พระเจ้าอินจง กษัตริย์องค์ที่ 12 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1544 - 1545) สุดแสนอาภัพ

กล่าวกันว่าถ้าพระเจ้าอินจง ไม่กลับสวรรค์เสียก่อน หน้าประวัติศาสตร์โซซอนคงเปลี่ยนแปลง เพราะพระองค์มีความสามารถระดับพระเจ้าเซจง แต่เสียดายพระองค์อายุสั้น ครองราชย์เพียง 8 เดือน ยังไม่ทันทำอะไรได้มากเลย เพราะไว้อาลัยเสด็จพ่ออยู่ พระเจ้าอินจงเลยได้ครองราชย์ด้วยวัย 29 พรรษา การสวรรคตของพระองค์ พงศาวดารกล่าวว่า พระนางมุนจองเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง หลังจากที่ได้เสวยของกินที่พระนางมุนจองมอบให้ รุ่งเช้าพระเจ้าอินจงก็สิ้นลมหายใจ...

พระเจ้ามยองจง กษัตริย์องค์ที่ 13 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1545 - 1567) หุ่นเชิดของแม่

ไม่รู้ว่าองค์ชายเคียงวอน จะรู้ตัวหรือเปล่าว่า พระองค์จะได้เป็นพระราชา ขุนนางหลายคนคงมองเกมส์การเมืองว่าพระเจ้าอินจง คงอยู่ไปอีกนาน แต่มันก็ไม่เป็นไปตามนั้น ดังนั้นองค์ชายเคียงวอน อายุ 12 ปี ลูกของพระนางมุนจอง จึงได้บัลลังก์มาอย่างไม่ต้องออกแรง เพราะคนออกแรงเป็นสมเด็จแม่ในนามพระเจ้ามยองจง ต้องมอบตำแหน่งหุ่นเชิดของแม่ให้ เพราะตลอด 22 ปี แห่งการครองราชย์พระองค์ได้ว่าราชการเองเพียง 2 ปี หลังจากที่พระนางมุนจองสิ้นพระชนม์ ราชกิจทุกอย่างอยู่ที่พระพันปีมุนจอง และขุนนางจากตระกูลยุนเล็ก ที่มีอำนาจล้นฟ้า

พระเจ้าซอนโจ กษัตริย์องค์ที่ 14 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1567 - 1608) พระราชาหนีญี่ปุ่น

ถือเป็นกษัตริย์อีกพระองค์หนึ่งที่นักประวัติศาสตร์ใ ห้เกียรติยกย่องเป็น กษัตริย์ผู้อ่อนแอ รัชสมัยอันยาวนานถึง 41 ปี บวกกับวิกฤตปัญหาที่หนักอึ้ง เหตุการณ์สำคัญกล่าวเป็นข้อดังต่อไปนี้

1. การแบ่งฝ่ายกลุ่มขุนนางเป็นฝ่ายตะวันตก และฝ่ายตะวันออก และฝ่ายตะวันออกก็แบ่งเป็นฝ่ายใต้ และฝ่ายเหนือ และฝ่ายเหนือก็แบ่งเป็น เหนือเล็ก เหนือใหญ่ เอาละทีนี้กกก๊วนเต็มบ้านเมือง และจะสืบต่อกันไปอีกหลาย 100 ปี

2. สงครามอิมิจิน ญี่ปุ่นบุกเกาหลี ด้วยสภาพความโง่เงาเต่าตุ๋นของเหล่าขุนนางผู้อยู่แต่ ในกะลา และพระราชาที่ไม่มีวิสัยทัศน์ จึงต้องพบเจอเหตุการณ์เลวร้าย โชคดีที่มีแม่ทัพแห่งยุคอย่างลีซุนซิน ผู้กล้าหาญช่วยไว้ โซซอนจึงรอดพ้นวิกฤตมาได้ แต่ขณะที่แม่ทัพนายกองกำลังสู้ศึกอย่างหาญกล้า แต่พระเจ้าซอนโจ กลับหลบหนีไปจีน ละทิ้งหน้าที่ของผู้ปกครอง

องค์ชายควางแฮ กษัตริย์องค์ที่ 15 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1608 - 1623) ทุ่มเทแทบตาย สุดท้ายรันทด

เป็นพระราชาองค์ที่ 2 ที่ไม่ได้รับพระนามกษัตริย์ ด้วยประการดังต่อไปนี้
ขณะที่ญี่ปุ่นบุกเกาหลี พระเจ้าซอนโจรีบแต่งตั้งองค์ชายควางแฮเป็นองค์รัชทาย าท ก่อนพระเจ้าซอนโจจะหนีญี่ปุ่นไปจีน ผู้หยัดยืนสู้กับญี่ปุ่น จึงเป็นองค์ชายควางแฮ การขึ้นครองราชย์ของพระองค์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีทั้งขุนนางที่สนับสนุนพระองค์ และสนับสนุนน้องชายต่างมารดาของพระองค์ที่เกิดจากมเห สีเป็นกษัตริย์ ส่วนองค์ชายควางแฮกุนนั้นเกิดจากพระสนม แถมยังมีขุนนางชั่วปลอมราชโองการปลอมว่า คนที่จะครองราชย์ต่อจากพระเจ้าซอนโจไม่ใช่องค์ชายควา งแฮ ภารกิจที่สำคัญของพระองค์คือการฟื้นฟูประเทศหลังจากส งคราม 7 ปี รวมทั้งบูรณะพระราชวังชางด๊อกกุง ให้เป็นพระราชวังใหม่แทนที่พระราชวังเคียงบก ที่ญี่ปุ่นเผาทำลาย และปี 1618 องค์ชายควางแฮยังได้ส่งกองทัพไปช่วยต้าหมิง รบกับพวกแมนจู แต่ก็พ่ายแพ้ ทำให้พระองค์รู้ว่าพวกแมนจูไม่ธรรมดา จึงมีนโยบายเป็นกลาง สุดท้ายผลตอบแทนของการทุ่มเทเพื่อโซซอนของพระองค์ คือ พระองค์ถูกยึดอำนาจโดยขุนนางฝ่ายตะวันตก โดยข้อหาที่ไม่เป็นธรรม ได้แก่ เข่าฆ่าพี่น้อง ละทิ้งมารดา (มารดาบุญธรรม) สุดท้ายพระองค์ต้องใช้ชีวิตถึง 20 ปี ที่เกาะคังฮวา แล้วจึงสิ้นประชนม์ด้วยวัย 67 พรรษา

พระเจ้าอินโจ กษัตริย์องค์ที่ 16 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1623 - 1649 ) ทอดทิ้งแผ่นดิน

เป็นพระราชาอีกองค์หนึ่งที่ได้รับการประณามและกล่าวข านไปในทางไม่ดี และเป็นยุคตกทุกข์ได้ยากของชนชาวเกาหลี เพราะมีพระราชาอ่อนแอ และขุนนางที่อยู่แต่ในกะลา จนไม่รู้ว่าแผ่นดินใกล้เคียงเป็นอย่างไร ด้วยนโยบายที่ไร้วิสัยทัศน์ทำให้พระเจ้าอินโจต้องนำโ ซซอนเข้าสู่สงครามกับ เผ่าแมนจู ที่ไม่มีวันชนะ อีกทั้งราชวงศ์หมิงตอนนั้น ฮ่องเต้ก็มัวแต่พึ่งหมอผี กลิ่นธูปเต็มราชสำนัก รอวันล่มสลาย แต่ราชสำนักโซซอนก็ยังเข้าข้างหมิง ทำให้พระเจ้าอินโจหนีออกจากราชวังไปอยู่ป้อมนัมฮันซั น (ที่จริงจะไปเกาะคังฮวาแต่โดนสกัดกั้นไว้ก่อน) แต่ต้องยอมจำนนต่อแมนจูในที่สุด เพราะความอดยาก พระองค์จึงได้รับการสรรเสริญบารมีว่า ทอดทิ้งแผ่นดิน และตามมาด้วยคำว่า พระราชาที่ทอดทิ้งประชาชน ยังสมควรเรียกว่าพระราชาอีกหรือ ความอับอายขายหน้าของพระเจ้าอินโจ คือต้องคำนับห้าครั้งต่ออหวงไท่จีผู้นำเผ่าแมนจูและเ อาหัวโขกพื้นอีกสามค รั้ง ยังไม่พอต้องส่งองค์ชายไปเป็นตัวประกันที่จีนอีก และที่แย่ไปกว่านั้นประชาชนชาวโซซอนมากมายต้องถูกจับ ไปเชลยสงคราอย่างทารุณ ที่เหลือในประเทศก็ตกทุกข์ ใช้ชีวิตอย่างลำบาก เป็นยุคแห่งทาสโดยแท้ และความอับอายขายหน้าครั้งนี้ของพระเจ้าอินโจก็เป็นผ ลพวงมาสู่เหตุการณ์ปลง พระชนม์องค์รัชทายาท ลูกในอกของพระองค์ที่ไปเป็นตัวประกันที่ต้าชิง แล้วเห็นโลกใบใหม่ แล้วมีความคิดจะปฏิรูปการปกครอง แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะโดนฆ่ายกครัว โดยมีผู้อยู่เบื้องหลังคือพ่อบังเกิดเกล้า

พระเจ้าฮโยจง กษัตริย์องค์ที่ 17 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราย์ ค.ศ. 1649 - 1659) วางแผนบุกจีน

องค์รัชทายาทตอนแรกไม่ใช่เพราะองค์แต่เป็นองค์ชายรัช ทายาทโซฮย็อน พี่ชายของพระองค์ แต่เนื่องจากสาเหตุที่พระเจ้าอินจงปลงพระชนม์องค์รัช ทายาท ลูกของพระองค์ องค์ชายพงนิมจึงได้กล่าวสู่ตำแหน่งรัชทายาทและพระราช าในเวลาต่อมา พระองค์เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่ชายของพระองค์เมื่อ ครั้งเป็นตัวประกันที่ เสิ่นหยาง การเป็นตัวประกันที่เสิ่นหยางและการเห็นความทุกข์ยาก ของชาติ รวมทั้งเห็นความอับอายของพ่อที่ได้รับจากเผ่าแมนจู พระเจ้าฮโยจงจึงมีความฝันในการบุกต้าชิง พระองค์ได้สะสมกำลังพลและอาวุธ แต่ความฝันนี้ไม่เป็นจริง เพราะพระองค์สวรรคตเสียก่อน

พระจ้าฮยอนจง กษัตริย์องค์ที่ 18 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1659 - 1674 ) การแตกแยกที่ชัดเจน

หลังจากที่กลุ่มขุนนางแตกแยกแบบสับเซต ในสมัยพระเจ้าฮยอนจงก็เหลือ 2 ฝ่าย อย่างชัดเจน นั่นคือฝ่ายตะวันตกและฝ่ายใต้และขัดแย้งกัน แบบขวาสุดซ้ายสุด เรื่องที่อยากชูประเด็นในรัชสมัยของพระเจ้าฮยอนจงคือ เรื่องการไว้ทุกข์ โดยมีนางพญา 4 แผ่นดิน เป็นเครื่องมือหรือจะเรียกว่าเป็นหัวใจสำคัญ นางพญาคนนี้ก็คือพระนางจางรยอล มเหสีในพระเจ้าอินโจ เมื่อพระเจ้าฮโยจงสวรรคต ขุนนางก็ชูประเด็นว่าพระนางจางรยอลต้องไว้ทุกข์นานเท ่าไหร่ ฝ่ายใต้บอก 3 ปี ฝ่ายตะวันตกบอก 1 ปี พระเจ้าฮยอนจงก็เลยให้แลกขนมกัน โดยให้พระนางจางรยอลสวมชุดไว้ทุกข์หนึ่งปี แต่แต่งตั้งให้ฮอจอกเป็นอัครเสนาบดี และเหตุการณ์ก็เกิดอีกครั้งเมื่อพระนางอินซอน พระมารดาของพระเจ้าฮยอนจงสิ้นพระชนม์

พระเจ้าซุกจง กษัตริย์องค์ที่ 19 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ 15 สิงหาคม 1674 – 1720) นักมายากลการเมือง

พระเจ้าซุกจง มีพระนามเดิมว่า ลีซุน เป็นพระโอรส ในพระเจ้าฮยอนจง กษัตริย์องค์ที่ 18 แห่งโซซอน และมเหสีมยองซอง (พระพันปีมยองซอง) โดยได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท เมื่อปี ค.ศ. 1667 เมื่อพระชนม์มายุ 6 พรรษา และปี ค.ศ. 1674 พระองค์ได้ก้าวสู่ราชบัลลังก์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 19 แห่งราชวงศ์โซซอน เพียงพระชนม์มายุ 14 พรรษา กับปณิธานอันแน่วแน่ที่ไม่อยากเป็นเพียงหุ่นเชิดให้ข ุนนางสั่งซ้ายหัน ขวาหัน รัชสมัยของพระเจ้าซุกจง ขุนนางในราชสำนักแบ่งเป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจน รุนแรงและดุเดือน ระหว่างกลุ่มฝ่ายตะวันตก และกลุ่มฝ่ายใต้ โดยระยะแรกนั้นกลุ่มฝ่ายตะวันตกค่อนข้างที่จะเป็นต่อ ซึ่งสามรถผลักดันสตรี ถึง 2 นางเป็นมเหสีของพระเจ้าซุกจง สตรีนางแรกคือพระมเหสีอินคยองที่อภิเษกตั้งแต่พระเจ้ าซุกจงเป็นรัชทายาท ซึ่งอายุไม่ยืน ลาลับไปก่อน สตรีนางที่ 2 เป็นใครไม่ได้นั้นคือมเหสีตระกูลมิน ที่เรารู้จักกันในนามพระมเหสีอินฮยอน
ฝ่ายใต้บางคนก็ไม่อยากให้พระองค์เป็นกษัตริย์สักเท่า ไร ในปี ค.ศ. 1680 ฝ่ายใต้พยายามก่อกบฏ ยกองค์ชายพงซอนเป็นกษัตริย์ ทำให้เหตุการณ์ตอนนั้นฝ่ายใต้ถูกกำจัดเป็นจำนวนมาก กลุ่มตะวันตกจึงมีอำนาจอย่างสุดขีดในราชสำนักตอนนั้น กลุ่มฝ่ายใต้เพื่อจะได้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง จึงได้สนับสนุน จางอ๊กจองเป็นพระสนม ประกอบกับพระเจ้าซุกจง ก็มีความรักให้กับจางอ๊กจอง ซึ่งฝ่ายตะวันตกไม่ปลื้มเลยแม้แต่น้อย พระองค์จึงเห็นช่องทางเริ่มเกมส์กำจัดอำนาจฝ่ายตะวัน ตก ด้วยการแต่งตั้ง จางอ๊กจอง เป็นสนมซุกวอน และเมื่อจางอ๊กจองประสูติพระโอรส จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นพระสนมเอกจางฮีบิน พระเจ้าซุกจงพยายามแต่งตั้งโอรสของจางฮีบิน เป็นองค์ชายรัชทายาท จึงสร้างความขัดแย้งให้ราชสำนักอีกครั้งโดยกลุ่มฝ่าย ใต้นั้นเห็นด้วยอย่าง ยิ่ง ยิ้มร่า สนับสนุนอย่างไม่ลดละ แต่กลุ่มตะวันตกนั้นคัดค้านหัวชนฝา หัวเด็ดตีนขาดก็จะให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ สุดท้ายเกมส์การเมืองจบลงโดยการเนรเทศกลุ่มตะวันตก รวมทั้งปลดและขับมเหสีอินฮยอนที่เป็นสัญลักษณ์กลุ่มต ะวันตกออกจากวังหลวง พระเจ้าซุกจงจึงได้แต่งตั้งโอรสของจางฮีบิน เป็นองค์รัชทายาทแห่งโซซอนสำเร็จ ทำให้กลุ่มฝ่ายใต้มีอำนาจอย่างสุดขีด พร้อมกับการสนับสนุนจางฮีบิน เป็นพระมเหสีแทนพระมเหสีอินฮยอน เมื่อปี 1688 เรียกว่า การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองปีคีซา กลุ่มฝ่ายใต้เสวยสุขอยู่เพียง 6 ปี ในปี ค.ศ. 1694 ความสั่นคลอนก็มาถึง เมื่อขุนนางฝ่ายตะวันตกถวายฎีกา ให้ทรงดูแลอดีตพระมเหสีอินฮยอน เกมส์การเมืองจึงกลับตาลปัตร เมื่อพระเจ้าซุกจงคิดได้ว่า ยังมีภรรยาอีกคนที่ทิ้งนางไว้เสียนาน ประกอบกับอำนาจของพระมเหสีจางและฝ่ายใต้ที่ยากควบคุม ได้ จึงตัดสินใจรับให้มเหสีอินฮยอนกลับเข้าวัง เป็นมเหสีดังเดิม และปลดพระมเหสีจาง เป็นพระสนมเอกเหมือนเดิม เรียกว่า การเปลี่ยนขั้วทางการเมืองปีคัปซุล พร้อมทั้งมีดำริห้ามแต่งตั้งพระสนมเป็นพระมเหสีอีก แต่ไม่ปลดองค์รัชทายาท ให้องค์รัชทายาทอยู่ในการดูแลของมเหสีอินฮยอน กลุ่มตะวันตกจึงทะยานสู่อำนาจอีกครั้ง
ปี ค.ศ. 1701 พระมเหสีอินฮยอน สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน เหตุการณ์ไม่จบลงแค่นั้น เมื่อสืบทราบได้ว่า พระสนมจางฮีบิน และญาติของนางอยู่เบื้องหลัง พระเจ้าซุกจงจึงมีพระราชโองการประหารชีวิต นำไปสู่การล่มสลายของฝ่ายใต้ ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายใต้กับฝ่ายตะวันตกจึงปิดฉากลง และค.ศ. 1702 พระเจ้าซุกจงได้อภิเษกกับมเหสีอีกพระนาง คือ พระมเหสีอินวอน ในปลายรัชสมัยนั้น กลุ่มขุนนางฝ่ายตะวันตกได้แตกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายโซรน (ขุนนางหัวใหม่) สนับสนุนองค์ชายลียุน องค์รัชทายาท (พระเจ้าคยองจง) ส่วนอีกฝ่าย ฝ่ายโนรน (ขุนนางหัวเก่า) สนับสนุนองค์ชายยอนอิง พระโอรสพระสนมชอยซุกบิน (พระเจ้ายองโจ) 2 ปีสุดท้ายของรัชกาลพระเจ้าซุกจง พระเจ้าซุกจงได้แต่งตั้งองค์รัชทายาทเป็นผู้สำเร็จรา ชการ โดยพระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อ ปี ค.ศ. 1720 มีพระชนม์มายุรวม 60 พรรษา ครองราชย์ยาวนานถึง 46 ปี

พระเจ้าคยองจง กษัตริย์องค์ที่ 20 แห่งราชวงศ์โซซอน(ครองราชย์ ค.ศ.1720 - 1724) พระราชาขี้โรค

พระเจ้าคยองจง ลูกของพระสนมฮีบินกับพระเจ้าซุกจง พระองค์เป็นโรคนกเขาไม่ขัน เนื่องจากจิตใจที่กลัวผู้หญิง อันสืบเนื่องมาจากการถูกความกดดันจากพระมารดาตั้งแต่ เด็ก (คงเข้มงวดมากๆ เพราะลูกต้องเป็นพระราชาของแม่ให้ได้) พระองค์ครองราชย์ตอนอายุ 32 ปี อยู่ได้นาน 4 ปี ตลอดรัชสมัย พระองค์แทบจะไม่ได้ออกว่าราชการเนื่องจากสุขภาพที่ย่ ำแย่ ขุนนางที่สนับสนุนองค์ชายยอนอิง จึงถวายฎีกาให้พระเจ้าคยองจงแต่งตั้งองค์ชายยอนอิงเป ็นอนุชารัชทายาท และให้ว่าราชการแทน
ในสมัยของพระเจ้าคยองจงได้เกิดเหตุการณ์กวาดล้างกลุ่ มขุนนางที่สนับสนุนองค์ชายยอนอิงถึง 2 ครั้ง
ครั้งแรก ค.ศ.1721 เมื่อพระเจ้าคยองจงแต่งตั้งองค์ชายยอนอิง เป็นพระอนุชารัชทายาท ด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรงของพระเจ้าคยองจง ฝ่ายขุนนางที่สนับสนุนองค์ชายยอนอิง หรือโนนน ขอให้แต่งตั้งองค์ชายยอนอิงว่าราชการแทน ฝ่ายขุนนางที่สนับสนุนพระเจ้าคยองจง หรือ โซนน ได้กล่าวหาว่าองค์ชายยอนอิงและขุนนางคิจะยึดราชบัลลั งก์ จึงมีการกวาดล้างกลุ่มขุนนางฝ่ายโนน ทั้งประหารและเนรเทศ
ครั้งที่ 2 ปี ค.ศ.1722 เมื่อพระเจ้าคยองจง ไม่สามารถว่าราชการได้ จึงแต่งตั้งองค์ชายยอนอิง ว่าราชการแทน แต่ก็ไม่พ้นที่ฝ่ายโซนน จะกล่าวกาอีกครั้งว่าเป็นกบฏ จึงมีการกวาดล้างอีกครั้ง เรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า การลงทัณฑ์ปีชินอิม

พระจ้ายองโจ กษัตริย์องค์ที่ 21 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ.1724-1776) ครองราชย์นานที่สุดแห่งราชวงศ์โซซอน

องค์ชายยอนอิง โอรสของพระสนมซุกบินกับพระเจ้าซุกจง ก็คือ พระเจ้ายองโจพระองค์นี้ พระองค์อายุยืนยาวถึง 82 ปี ปกครองแผ่นดินโซซอนยาวนานถึง 52 ปี ทำลายสถิติกษัตริย์อายุยืนและครองราชย์นานของราชวงศ์ โซซอน เป็นกษัตริย์ที่ได้รับการยกย่องที่สุดแห่งราชวงศ์โซซ อน คู่กับพระเจ้าหลาน หลายคนเคยถามว่าวิกผมที่สตรีโซซอนใส่กันนั้น ถูกยกเลิกเมื่อไร ขอตอบว่า ถูกยกเลิกในสมัยพระเจ้ายองโจ พระเจ้ายองโจ มีนโยบายความสมานฉันท์บ้านเมืองจึงค่อนข้างสงบสุข ปราศจากความขัดแย้งระหว่างฝ่ายขุนนาง เกาหลีจึงมีโอกาสพัฒนาในด้านต่างๆ พระเจ้ายองโจได้ชื่อว่าทรงห่วงใยราษฎร โดยการเสด็จออกนอกวังไปเยี่ยมและถือความเดือดร้อนของ ราษฎรเป็นสำคัญ อย่างที่กษัตริย์เกาหลีเพราะองค์ก่อนๆไม่เคยทำ ทรงลดความหรูหราของราชสำนัก เพื่อลดค่าใช้จ่าย หรือทรงแม้แต่ห้ามการดื่มสุรา ซึ่งเป็นนโยบายที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของพระองค์

พระเจ้าจองโจ กษัตริย์องค์ที่ 22 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1776 - ค.ศ. 1800) ไม้บรรทัดแห่งโซซอน

ตลอด 24 ปี แห่งการครองราชย์ (จองโจครองราชย์เมื่ออายุ 24 ปี สวรรคตอายุ 48 ปี) กับคำว่าไม้บรรทัดแห่งโซซอน ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้มากถึงคุณงามความดี การทำคุณประโยชน์เพื่อโซซอนของพระราชาพระองค์นี้ ใครที่ดูลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน คงจะเห็นความทุ่มเทของพระองค์ที่มีต่อประชาชน ตราบจนนาทีสุดท้ายก็ยังทรงงาน แบบว่าสวรรคตในห้องทรงงานเลย อีก 1 อย่างที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ครับ นั้นคือความกตัญญูทีมีต่อพระบิดาองค์ชายรัชทายาทซาโด อย่างสูงสุด พระองค์ได้ลบล้างมลทินให้กับพระบิดา พระเจ้าจองโจ ทรงตั้งนามใหม่ให้พระบิดา และยกฐานะมารดาให้เทียบเท่าพระพันปี และน่าเสียดาย เมื่อพระองค์สวรรคตยุคทองของราชวงศ์โซซอนที่มีมาตั้ง แต่พระเจ้ายองโจก็จบตาม ไปด้วย สิ่งที่พระเจ้าจองโจทำไว้ถูกลบกระดานทั้งหมด หลังจากยุคพระเจ้าจองโจ โซซอนก็อ่อนแอ และถูกครอบงำด้วยขุนนางตระกูลคิม และตระกูลโจ ที่แย่งอำนาจกัน กษัตริย์หลังจากนี้มีสถานะเป็นหุ่นเชิด โซซอนจึงนับนิ้วรอวันล่มสลาย

พระเจ้าซุนโจ กษัตริย์องค์ที่ 23 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1800 - 1834) เริ่มยุคหุ่นเชิด

.พระเจ้าซุนโจ ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่เด็ก เพียงอายุ 10 ปีเท่านั้น นับตั้งแต่ยุคนี้เป็นต้นไป จะมีแค่ขุนนางตระกูลคิม และตระกูลโจ เท่านั้น ที่จะพลัดกันกุมอำนาจในราชสำนัก โดยมีมเหสีเป็นสัญลักษณ์อำนาจของแต่ละตระกูล พระราชามีสถานะเป็นเพียงหุ่นเชิดเท่านั้น เริ่มแรกของการครองราชย์ ด้วยการที่่เป็นกษัตริย์วัยเยาว์ จึงต้องมีผู้สำเร็จราชการแทน ซึ่งก็ไม่ใช่ใครนั้นก็คือราชินีจองซุน มเหสีในพระเจ้ายองโจ ซึ่งก็มีเหตุการณ์สำคัญที่เรียกว่า การสังหารหมู่ชาวคริสต์ปีชินยู เป็นการกวาดล้างผู้ที่ข้องแวะศาสนาคริสต์และผู้นำศาส นาคริสต์ ไม่ว่าจะเป็นขุนนาง พระราชวงศ์ หรือประชาชน พระนางจองซุนสำเร็จราชการอยู่ 5 ปี แต่ก็มีสตรีผู้กระหายอำนาจคนใหม่มาแทน ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือมเหสีของพระเจ้าซุนโจเอง มเหสีองค์นี้มาจากตระกูลคิมอีกเช่นกัน เป็นการสืบต่ออำนาจของตระกูลคิมอย่างไม่สิ้นสุด ในสมัยพระเจ้าซุนโจได้รับการกล่าวขานว่าขุนนางฉ้อราช ย์บังหลวงอย่างกว้าง ขวาง ทาสในวังหลวงยังต้องปล่อยออกไป เพราะไม่มีเงินจะเลี้ยงดู ระบอบการสอบจอหงวนก็ล่มสลาย ถึงขั้นที่ว่าโครงสร้างทางสังคมของโซซอนที่มีมาหลายร ้อยปี หายวับไปกับตา

พระเจ้าฮอนจง กษัตริย์องค์ที่ 24 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1834 - 1849) ใต้เงาสตรีสองนาง

พระเจ้าฮอนจง เป็นหลานของพระเจ้าซุนโจ ขึ้นครองราชย์อายุเพียง 8 ปี เป็นกษัตริย์ ภายใต้การกำกับราชการของเสด็จย่า อย่างพระนางซุนวอน ที่มีอำนาจเหลือล้นมาตั้งแต่สมัยพระสวามี ยุคนี้ตระกูลโจ และคิมเรืองอำนาจ ตระกูลโจนำโดยพระมารดาของพระเจ้าฮอนจง คือพระนางซินจอง ทำให้ตลอดรัชการ พระเจ้าฮอนจงไม่ได้ว่าราชการเองเลย จากยุคพระเจ้าซุนโจ มีการปราบปรามคริสต์ศาสนา ยุคนี้ก็มีเหมือนกันและรุนแรงกว่ายุคที่แล้ว ที่ตระกูลคิมเป็นผู้นำ โดยยุคนี้มีตระกูลโจเป็นผู้นำ ทำให้ตระกูลโจมีอำนาจเหนือตระกูลคิมอย่างช่วยไม่ได้

พระเจ้าชอลจง กษัตริย์องค์ที่ 25 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1850 – 1863) กษัตริย์ชาวนาราชาหุ่นเชิด

ขณะที่ขุนนางไปทูลเชิญลีพยอน ให้มาเป็นพระเจ้าชอลจงนั้น ลีพยอนยังทำนาอยู่ พระเจ้าชอลจงไม่ได้รับการศึกษาเล่าเรียนเหมือนดังที่ องค์ชายควรได้รับ จึงไม่รู้หนังสือ สาเหตุก็มาจากต้องลี้ภัยมาเกาะเชจูตั้งแต่เล็กๆ อันสืบเนื่องมาจากมารดาของพระองค์ข้องแวะกับศาสนาคริ สต์ (ในสมัยพระเจ้าฮอนจง) ซึ่งเป็นที่ต้องห้ามในสังคมเกาหลีสมัยนั้น เมื่อพระองค์เป็นพระราชาแล้วก็ยังไม่ทิ้งนิสัยเดิมๆ กล่าวกันว่าพระองค์มีพระจริยวัตรเหมือนชาวประมงครับ ชอบดื่มเหล้าเอามากๆ พระราชอำนาจของพระองค์ก็แทบไม่มีเนื่องจากถูกครอบงำด ้วยพระพันปีจากตระกู ลคิม พอพระพันปีจากตระกูลคิมตาย ก็ยังไม่พ้นพระพันปีจากตระกูลโจ ที่ฟื้นฟูอำนาจขึ้นมาอีก พระองค์สวรรคตเพียง 32 พรรษาเท่านั้น

พระเจ้าโกจง กษัตริย์องค์ที่ 26 แห่งราชวงศ์โซซอน (ครองราชย์ ค.ศ. 1863-1907) พระราชาองค์สุดท้าย

ถ้าจะให้กล่าวถึงพระราชาองค์สุดท้ายแล้ว ทั้งของราชวงศ์ และของระบอบการปกครองแล้ว พระเจ้าโกจงขึ้นครองราชย์ด้วยวัยเพียง 12 ปี แน่นอนต้องมีผู้สำเร็จราชการ แต่คราวนี้แปลกตรงที่พ่อเป็นผู้สำเร็จรัชกาล จะให้กล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นหลังจากที่พระเจ้ าชอลจงสวรรคต ได้เกิดศึกแย่งชิงตราพระมหากษัตริย์ขึ้น ระหว่างตระกูลคิมกับตระกูลโจ ผู้ได้รับชัยชนะคือ ตระกูลโจ ซึ่งร่วมมือกับองค์ชายลีแฮอุง จนสุดท้ายก็ได้คัดเลือกผู้เหมาะสมเป็นกษัตริย์หุ่นเช ิดคนใหม่ นั่นคือบุตรชายขององค์ชายลีแฮอุง นามว่า ลีเมียงบอค เป็นพระเจ้าโกจง และองค์ชายลีแฮอุง ก็คือผู้สำเร็จราชการ นามว่า แดวอนกุน ยุคนี้เป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างที่สุด ตามที่นักประวัติศาสตร์บอกว่า ยุคหัวเลี้ยวหัวต่อ ของเกาหลี ภารกิจแรกของผู้สำเร็จราชการคือกวาดล้างขุนนางตระกูล คิมที่เป็นปลิงดูดเลือด ราชสำนักมานานนับหลายร้อยปี จึงจบลง ณ ยุคนี้ แต่กลุ่มอำนาจใหม่ที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ทำให้ประเทศดีข ึ้น ในช่วงแรกของการปกครองที่นำโดยแดวอนกุนนั้น มีการบูรณะราชวังเคียงบ็อคขึ้นมาใหม่ แต่ราชสำนักไม่มีเงิน จึงต้องเพิ่มการเก็บภาษี แดวอนกุนมีนโยบายอนุรักษ์นิยม ต้องการปิดประเทศไม่ยุ่งเกี่ยวกับชาติใด ตอนนี้พระเจ้าโกจงทำอะไร พระเจ้าโกจงกำลังสนุกสนานเพลิดเพลินกับสิ่งมอมเมาในว ังหลวง เมื่อพระเจ้าโกจงเจริญวัยขึ้นก็เริ่มรู้เห็นความเป็น ไป โดยมีราชินีคู่ใจอย่างราชินีมิน ที่พ่อและขุนนางคัดเลือกให้ คอยอยู่เคียงใกล้ชี้แนะ ปฏิบัติการสำคัญคือกำจัดพระบิดา และถัดมาก็ปฎิรูปการบ้านการเมืองให้ทันสมัย ยุคนี้ญี่ปุ่นก็เข้ามาในโซซอนหวังยึดโซซอน ความเจ็บร้าวที่สุดของพระเจ้าโกจง คือการที่ต้องเสียราชินีมินไป โดยน้ำมือของญี่ปุ่นที่เห็นนางเป็นเสียนหนาม ทำการสังหารอย่างเหี้ยมโหด โซซอนจึงเข้าสู่ยุครอวันล่มสลาย พระเจ้าโกจงผลักดันโซซอนเป็นจักรวรรดิ แต่งตั้งตนเป็นจักรพรรดิโกจง โดยมีรัสเซีย ผู้หวังดีประสงค์ร้ายคอยสบับสนุน แต่นั่นไม่ได้ช่วยอะไร บั้นปลายชีวิตอันน่าเวทนาพระเจ้าโกจงต้องกลืนยาพิษตา มคำบ่งการของญี่ปุ่น และญี่ปุ่นก็ยกโอรสของพระเจ้าโกจง เป็นตุ๊กตาอ้างว่าเป็นจักรพรรดิต่อจากพระเจ้าโกจง แต่ไม่กี่ปีก็ปลดลง แล้วให้โซซอนเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่น


http://postto.me/1b/cmb.jpg

http://postto.me/1b/bu0.jpg

1
http://www.filecondo.com/dl.php?f=BId144b4S3GW
2
http://www.filecondo.com/dl.php?f=6eae5ab4RZMq
3
http://www.filecondo.com/dl.php?f=i2f4a2b4S1Xs
4
http://www.filecondo.com/dl.php?f=hN6dfcb4RLsd
5
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Wn2c5eb4RJgX
6
http://www.filecondo.com/dl.php?f=4ec143b4RZSw
7
http://www.filecondo.com/dl.php?f=NY4c98b4RLyS
8
http://www.filecondo.com/dl.php?f=h2d36eb4S2W5
9
http://www.filecondo.com/dl.php?f=m92089b4S0qa
10
http://www.filecondo.com/dl.php?f=XNfffcb4S4GA
11
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Ccc610b4RL10
12
http://www.filecondo.com/dl.php?f=wU2ee6b4RZrj
13
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Xx022ab4S4zV
14
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Thd516b4RIIK
15
http://www.filecondo.com/dl.php?f=6w1df9b4RJaD
16
http://www.filecondo.com/dl.php?f=I1edc4b4S3n4
17
http://www.filecondo.com/dl.php?f=NL6c64b4S4t9
18
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Apd098b4RMLo
19
http://www.filecondo.com/dl.php?f=9h7510b4S3AC
20
http://www.filecondo.com/dl.php?f=x87bb0b4S3V3
21
http://www.filecondo.com/dl.php?f=K1352bb4RKUe
22
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Bm7b50b4RLey
23
http://www.filecondo.com/dl.php?f=q853d7b4S32R
24
http://www.filecondo.com/dl.php?f=FUe694b4RNq9
25
http://www.filecondo.com/dl.php?f=xQdadbb4S57z
26
http://www.filecondo.com/dl.php?f=G3e0beb4RG6h
27
http://www.filecondo.com/dl.php?f=fKc470b4RIBY
28
http://www.filecondo.com/dl.php?f=pCb084b4S1Ql
29
http://www.filecondo.com/dl.php?f=iYd776b4RM6w
30
http://www.filecondo.com/dl.php?f=k59633b4RZkq
31
http://www.filecondo.com/dl.php?f=41a445b4RIhx
32
http://www.filecondo.com/dl.php?f=FY6fa0b4RGjP
33
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Ww7863b4S05Q
34
http://www.filecondo.com/dl.php?f=iVc36eb4RLFE
35
http://www.filecondo.com/dl.php?f=yO1afbb4RNYm
36
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Kq319eb4S0DI
37
http://www.filecondo.com/dl.php?f=lK26dab4RNRt
38
http://www.filecondo.com/dl.php?f=pI34f5b4RGqB
39
http://www.filecondo.com/dl.php?f=5re04bb4S0RP
40
http://www.filecondo.com/dl.php?f=HW09b2b4RNKt
41
http://www.filecondo.com/dl.php?f=S91f3ab4RMki
42
http://www.filecondo.com/dl.php?f=po4e70b4S2BL
43
http://www.filecondo.com/dl.php?f=yne76cb4S42v
44
http://www.filecondo.com/dl.php?f=go054fb4RL7T
45
http://www.filecondo.com/dl.php?f=tnec5eb4RK1V
46
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Xf8411b4S3tQ
47
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Tg4707b4S39R
48
http://www.filecondo.com/dl.php?f=MU852ab4RLMj
49
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Jj31f4b4S4NA
50
http://www.filecondo.com/dl.php?f=7Y8becb4S3OJ
51
http://www.filecondo.com/dl.php?f=ZH296fb4S0jC
52
http://www.filecondo.com/dl.php?f=J1d302b4RGcP
53
http://www.filecondo.com/dl.php?f=z8cbbcb4S2vd
54
http://www.filecondo.com/dl.php?f=pyd9c7b4RKGz
55
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Ku8859b4RN5P
56
http://www.filecondo.com/dl.php?f=sMbc93b4RLlk
57
http://www.filecondo.com/dl.php?f=JW80bab4RMxQ
58
http://www.filecondo.com/dl.php?f=jfe83db4RNjg
59
http://www.filecondo.com/dl.php?f=gB6726b4S0wW
60
http://www.filecondo.com/dl.php?f=8h10b8b4RZz6
61
http://www.filecondo.com/dl.php?f=OV437eb4RNcn
62
http://www.filecondo.com/dl.php?f=3U1d08b4S50N
63
http://www.filecondo.com/dl.php?f=57a0fbb4S4U8
64
http://www.filecondo.com/dl.php?f=k13dcbb4S2P5
65
http://www.filecondo.com/dl.php?f=ggf1b3b4RNx9
66
http://www.filecondo.com/dl.php?f=fl9774b4RIvc
67
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Kn15cbb4S14O
68
http://www.filecondo.com/dl.php?f=dW2fe2b4RKNe
69
http://www.filecondo.com/dl.php?f=ld3662b4RMdp
70
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Wscb99b4RLZY
71
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Lb8e17b4S5ez
72
http://www.filecondo.com/dl.php?f=vH230eb4S1w8
73
http://www.filecondo.com/dl.php?f=jtc980b4RMYW
74
http://www.filecondo.com/dl.php?f=y4b9d0b4S1iO
75
http://www.filecondo.com/dl.php?f=rzd83bb4S3gw
76
http://www.filecondo.com/dl.php?f=DB53edb4RIoq
77
http://www.filecondo.com/dl.php?f=z8c943b4S48I