[ฝรั่ง]-[IMDB 7.8] - Dark Cityเมืองเปลี่ยนสมอง มนุษย์ผิดคน 1080p Eng DTS [Soundtrack บรรยายไทย]

http://upload.armuay.com/img/2012-11...7_0.099996.jpg

เนื้อเรื่องย่อ ภาพยนตร์เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ จอห์น (รูฟัส ซีเวลส์)ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ โดยที่เขาจำอะไรไม่ได้เลย เขาจำไม่ได้แม้แต่ เอ็มมา (เจนนิเฟอร์ คอนเนลลีย์)ผู้เป็นภรรยามีเพียงเศษเสี้ยวของความทรงจ ำที่ไม่ปะติดปะต่อแวบ เข้ามาเป็นช่วงๆเท่านั้นชีวิตใหม่เหมือนไรัตัวตนและเ ต็มไปด้วยความน่ากลัว เขาถูกตามล่าจากกลุ่มคนแปลกหน้าและถูกตำรวจกล่าวหาว่ าเป็นฆาตกรอะไรอยู่ เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดกลุ่มชายแปลกหน้าต้องการอ ะไรจากเขาความจริงจอห์น เป็นใครกันแน่คำตอบวนเวียนอยู่ในเมืองแห่งนี้ เมืองที่คุณไม่ควรย่างกรายเข้าได้

บทความ จาก เว๊บ >>> http://thaiscifi.izzisoft.com/?p=486

ก่อนอื่นที่บอกว่า “ชวนดู” นั้นหมายถึงต้องไปหาซื้อแผ่นดีวีดีมาดูเองนะครับ (^_^) ไม่ใช่ทางชมรมนิยายวิทย์ฯจัดให้ชมครับ

เนื้อหาบทความผมเอามาจาก blog ส่วนตัวของผมอีกที่หนึ่งนะครับ เห็นว่าเรื่องนี้เป็นหนังที่น่าสนใจในเรื่อง plot และแนวคิดเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งก็เลยนำ มาเผยแพร่ที่เวปชมรมนิ ยายวิทย์ฯ ครับ ท่านใดอ่านแล้วสามารถแสดงความเห็นได้เต็มที่ครับ ^_^

(ข้อเขียนนี้ไม่ได้ Spoil หนังครับ สามารถอ่านได้อย่างสบายใจ)

Dark City หรือชื่อไทยคือ เมืองเปลี่ยนสมอง มนุษย์ผิดคน เป็นหนังไซไฟที่เคยลงโรงเข้าฉายในบ้านเราเมื่อ ปี ค.ศ. 1998 โดยฝีมือการกำกับและเขียนบทโดย Alex Proyas (เกิดที่อียิปต์และย้ายไปอยู่ที่ออสเตรเลียเมื่ออายุ สามปี)

ผมเพิ่งได้ดู Dark City ซ้ำรอบสองเมื่อไม่นานมานี้เองครับ จากดีวีดีราคาไม่แพงที่บริษัท ค่ายหนัง Right pictures นำออกมาขายใหม่ในรูปแบบดีวีดีราคาถูกพร้อมกล่องที่เป ็นJacket สวมทับอีกที (ตอนที่เห็นครั้งแรกนี่ดีใจมากครับ เพราะคงไปหาวีดีโอเทปแบบเก่ามาคงไม่ได้แล้ว แต่นี่มาเป็นแบบดีวีดีเลย ว๊าว เจ๋ง) ต้องขอบอกว่าตอนที่ดูครั้งที่สองนี้ลืมเนื้อหาไปประม าณ 90 เปอร์เซ็นต์ของเนื้อหาทั้งหมดแล้วครับ และที่สำคัญตอนจบที่ทำให้อึ้ง ทึ่ง (ไม่มีเสียว เพราะไม่ใช่หนังชมพู) ผมก็จำไม่ได้แล้ว ดังนั้นการได้ดูครั้งล่าสุดนี้ย่อมทำให้ให้รู้สึกตื่ นเต้นไม่ต่างไปจากครั้ง แรก และดูรู้เรื่องกว่าครั้งแรกด้วยเพราะตอนนั้นยังเป็นเ ด็กวัยละอ่อนอยู่ครับ เนื้อหาของหนังมันซับซ้อนระดับหนึ่งตอนนั้นก็เลยดูแล ้วงงๆ …แต่ตอนนี้ความรู้แตกต่างกับตอนนั้นลิบลับ

Dark City เปิดเรื่องออกมาด้วยการทำให้คนดูตั้งคำถามตามสไตล์หน ังแนวไซไฟ (เรื่องนี้เรียกว่า Dark Sci-fi ดูจะเหมาะกว่า) ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอก และการปรับสภาพที่หนังมักพูดถึงบ่อยๆคืออะไร

ในทางวิธีสร้าง plot นิยายแนวไซไฟ เราเล่นกับคำถาม What…if หรืออะไรจะเกิดขึ้นถ้า

จะเกิดอะไรขึ้นถ้า เมื่อคุณตื่นขึ้นมาพบว่าคุณได้กลายเป็นคนใหม่
จะเกิดอะไรขึ้นถ้า มีคนขโมยความทรงจำของคุณไปเพื่อทดลองในลองในเรื่องบา งอย่าง
จะเกิดอะไรขึ้นถ้า คุณจำไม่ได้ว่าจะเดินทางไปหาดทรายที่คุณคุ้นเคยได้อย ่างไร
จะเกิดอะไรขึ้นถ้า เมืองของคุณไม่คยมีกลางวันเลย

จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีบางอย่างที่คุณไม่รู้จักจับคุณทด สอบโดยเปลี่ยนความทรง จำเพื่อการดำรงไว้ซึ่งเผ่าพันธ์ของมันที่กำลังดับสูญ ตลอดเวลา 90 นาทีที่นั่งดู บอกได้คำเดียวว่าสนุกมากครับ แต่ท่านใดที่ชอบแนวบู้ล้างผลาญคงไม่ชอบเรื่องนี้ เพราะ Dark City เป็นหนังแนวไซไฟที่ทำให้เราต้องคิดตามไปกับเรื่องตลอ ดเวลา และการคิดตามที่ว่านี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราสนุกกับห นัง (เหมือนเรื่อง Knowing ที่สนุกมาก แต่มีหนังสือหนังรายสัปดาห์เล่มหนึ่งดันมีข้อเขียนวิ จารณ์จากนักเขียนประจำ คนหนึ่งที่เฉลยว่าสิ่งที่มีเตือนมนุษย์โลกคืออะไร เลวร้ายมาก… ไม่รู้ว่า บก. ปล่อยงานแบบนี้มาได้ไง!)

กลับมาที่ Dark City ครับ เทคโนโลยีหรือความรู้ที่นำมาใช้กับหนังที่พอจะเกิดขึ ้นได้ในโลกของเรา (ไม่รู้ว่าปีไหนล่ะ แต่ผมคิดว่าคงอีกไม่นาน) คือการปลูกถ่ายความทรงจำอันใหม่ให้กับมนุษย์ ซึ่งเป็นแนวคิดหลักที่นำมาใช้ตลอดทั้งเรื่อง

ตอนจบ หนังสรุปถึงแนวคิดที่ค้องการนำเสนอได้ดีครับ ตัวเอกของเรื่อง (พระเอกนั่นแหล่ะ) บอกกับตัวร้ายว่า “คุณไม่มีทางหาสิ่งที่คุณต้องการในนี้ (พระเอกชี้ไปที่หัวตัวเอง) ได้หรอก เพราะมันไม่ได้อยู่ในนี้” มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่น (นอกโลก) ตรงที่มีจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์นี่แหล่ะ เรื่องนี้ดูแบบมีปรัชญาแฝงก็ได้นะครับ

ลืมบอกไปครับว่า Alex Proyas เป็นผู้กำกับคนเดียวกันกับเรื่อง I, Robot , Knowing (เรื่องนี้ผมชอบมาก โดยเฉพาะฉากเครื่องบินตกต่อหน้าต่อตานิโคลาส เคส), Garage Days (เรื่องนี้ไม่คุ้นว่าเคยฉายในเมืองไทย), The Crow (ชื่อไทยคือ อีกาพญายม)

ไม่ควรพลาด Dark City ครับ ถ้าใครชอบแนวไซไฟ…ลืมบอกไปครับยุคนั้นมีอีกเรื่องครั บเรื่อง Thirteen Floors เรื่องนี้ plot สนุกมากซับซ้อน แต่ตอนนี้ยังไม่มีค่ายหนังใดนำมาปั๊มลงDVD ขายใหม่…. ผมเพิ่งได้ดู Dark City ซ้ำรอบสองเมื่อวานนี้เองครับ จากดีวีดีราคาไม่แพงที่บริษัท ค่ายหนัง Right pictures นำออกมาขายใหม่ในรูปแบบดีวีดีราคาถูกพร้อมกล่องที่เป ็นJacket สวมทับอีกที (ตอนที่เห็นครั้งแรกนี่ดีใจมากครับ เพราะคงไปหาวีดีโอเทปแบบเก่ามาคงไม่ได้แล้ว แต่นี่มาเป็นแบบดีวีดีเลย ว๊าว เจ๋ง) ต้องขอบอกว่าตอนที่ดูครั้งที่สองนี้ลืมเนื้อหาไปประม าณ 90 เปอร์เซ็นต์ของเนื้อหาทั้งหมดแล้วครับ และที่สำคัญตอนจบที่ทำให้อึ้ง ทึ่ง (ไม่มีเสียว เพราะไม่ใช่หนังชมพู) ผมก็จำไม่ได้แล้ว ดังนั้นการได้ดูครั้งล่าสุดนี้ย่อมทำให้ให้รู้สึกตื่ นเต้นไม่ต่างไปจากครั้ง แรก และดูรู้เรื่องกว่าครั้งแรกด้วยเพราะตอนนั้นยังเป็นเ ด็กวัยละอ่อนอยู่ครับ เนื้อหาของหนังมันซับซ้อนระดับหนึ่งตอนนั้นก็เลยดูแล ้วงงๆ

Dark City เปิดเรื่องออกมาด้วยการทำให้คนดูตั้งคำถามตามสไตล์หน ังแนวไซไฟ (เรื่องนี้เรียกว่า Dark Sci-fi ดูจะเหมาะกว่า) ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอก และการปรับสภาพที่หนังมักพูดถึงบ่อยๆคืออะไร


ในทางวิธีสร้าง plot นิยายแนวไซไฟ เราเล่นกับคำถาม What…if หรืออะไรจะเกิดขึ้นถ้า

จะเกิดอะไรขึ้นถ้า เมื่อคุณตื่นขึ้นมาพบว่าคุณได้กลายเป็นคนใหม่
จะเกิดอะไรขึ้นถ้า มีคนขโมยความทรงจำของคุณไปเพื่อทดลองในลองในเรื่องบา งอย่าง
จะเกิดอะไรขึ้นถ้า คุณจำไม่ได้ว่าจะเดินทางไปหาดทรายที่คุณคุ้นเคยได้อย ่างไร
จะเกิดอะไรขึ้นถ้า เมืองของคุณไม่คยมีกลางวันเลย
จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีบางอย่างที่คุณไม่รู้จักจับคุณทด สอบโดยเปลี่ยนความทรง จำเพื่อการดำรงไว้ซึ่งเผ่าพันธ์ของมันที่กำลังดับสูญ ตลอดเวลา 90 นาทีที่นั่งดู บอกได้คำเดียวว่าสนุกมากครับ แต่ท่านใดที่ชอบแนวบู้ล้างผลาญคงไม่ชอบเรื่องนี้ เพราะ Dark City เป็นหนังแนวไซไฟที่ทำให้เราต้องคิดตามไปกับเรื่องตลอ ดเวลา และการคิดตามที่ว่านี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราสนุกกับห นัง (เหมือนเรื่อง Knowing ที่สนุกมาก แต่มีหนังสือหนังรายสัปดาห์เล่มหนึ่งดันมีข้อเขียนวิ จารณ์จากนักเขียนประจำ คนหนึ่งที่เฉลยว่าสิ่งที่มีเตือนมนุษย์โลกคืออะไร เลวร้ายมาก… ไม่รู้ว่า บก. ปล่อยงานแบบนี้มาได้ไง!)

กลับมาที่ Dark City ครับ เทคโนโลยีหรือความรู้ที่นำมาใช้กับหนังที่พอจะเกิดขึ ้นได้ในโลกของเรา (ไม่รู้ว่าปีไหนล่ะ แต่ผมคิดว่าคงอีกไม่นาน) คือการปลูกถ่ายความทรงจำอันใหม่ให้กับมนุษย์ ซึ่งเป็นแนวคิดหลักที่นำมาใช้ตลอดทั้งเรื่อง


ตอนจบ หนังสรุปถึงแนวคิดที่ค้องการนำเสนอได้ดีครับ ตัวเอกของเรื่อง (พระเอกนั่นแหล่ะ) บอกกับตัวร้ายว่า “คุณไม่มีทางหาสิ่งที่คุณต้องการในนี้ (พระเอกชี้ไปที่หัวตัวเอง) ได้หรอก เพราะมันไม่ได้อยู่ในนี้” มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่น (นอกโลก) ตรงที่มีจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์นี่แหล่ะ เรื่องนี้ดูแบบมีปรัชญาแฝงก็ได้นะครับ
ลืมบอกไปครับว่า Alex Proyas เป็นผู้กำกับคนเดียวกันกับเรื่อง I, Robot , Knowing (เรื่องนี้ผมชอบมาก โดยเฉพาะฉากเครื่องบินตกต่อหน้าต่อตานิโคลาส เคส), Garage Days (เรื่องนี้ไม่คุ้นว่าเคยฉายในเมืองไทย), The Crow (ชื่อไทยคือ อีกาพญายม)
ไม่ควรพลาด Dark City ครับ ถ้าใครชอบแนวไซไฟ…ลืมบอกไปครับยุคนั้นมีอีกเรื่องครั บเรื่อง Thirteen Floors เรื่องนี้ plot สนุกมากซับซ้อน แต่ตอนนี้ยังไม่มีค่ายหนังใดนำมาปั๊มลงDVD ขายใหม่….


D:Moviewait to goabcDark City 1080p Eng DTSSub ThaiDark City 1080p Eng DTS.mkv
General
Complete name : D:Moviewait to goabcDark City 1080p Eng DTSSub ThaiDark City 1080p Eng DTS.mkv
Format : Matroska
File size : 6.59 GiB
Duration : 1h 51mn
Overall bit rate : 8 450 Kbps
Encoded date : UTC 2009-05-06 02:57:47
Writing application : mkvmerge v2.4.1 ( Use Me ) built on Dec 5 2008 18:30:05
Writing library : libebml v0.7.7 + libmatroska v0.8.1
Video #1
ID : 1
Format : AVC
Format/Info : Advanced Video Codec
Format profile : [email protected]
Format settings, CABAC : Yes
Format settings, ReFrames : 4 frames
Muxing mode : Container [email protected]
Codec ID : V_MPEG4/ISO/AVC
Duration : 1h 51mn
Bit rate : 6 772 Kbps
Width : 1 920 pixels
Height : 814 pixels
Display aspect ratio : 2.35:1
Frame rate : 23.976 fps
Resolution : 24 bits
Colorimetry : 4:2:0
Scan type : Progressive
Bits/(Pixel*Frame) : 0.181
Stream size : 5.28 GiB (80%)
Title : Dark City (1998)
Writing library : x264 core 60 r928M 4816918
Encoding settings : cabac=1 / ref=4 / deblock=1:-3:-3 / analyse=0x3:0x113 / me=umh / subme=7 / psy_rd=1.000000 / brdo=1 / mixed_ref=1 / me_range=16 / chroma_me=1 / trellis=0 / 8x8dct=1 / cqm=0 / deadzone=6,4 / chroma_qp_offset=0 / threads=6 / nr=0 / decimate=0 / mbaff=0 / bframes=3 / b_pyramid=1 / b_adapt=1 / b_bias=0 / direct=1 / wpredb=1 / bime=1 / keyint=250 / keyint_min=25 / scenecut=40(pre) / rc=crf / crf=21.0 / rceq= blurCplx^(1-qComp) / qcomp=1.00 / qpmin=10 / qpmax=51 / qpstep=4 / vbv_maxrate=38000 / vbv_bufsize=30000 / ip_ratio=1.40 / pb_ratio=1.30 / aq=2:1.00
Language : English
Audio #2
ID : 2
Format : DTS
Format/Info : Digital Theater Systems
Codec ID : A_DTS
Duration : 1h 51mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 1 510 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Surround: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Resolution : 24 bits
Stream size : 1.18 GiB (18%)
Title : English DTS 5.1
Language : English
Text #3
ID : 3
Format : VobSub
Codec ID : S_VOBSUB
Codec ID/Info : The same subtitle format used on DVDs
Title : SubThai
Language : Thai
Text #4
ID : 4
Format : UTF-8
Codec ID : S_TEXT/UTF8
Codec ID/Info : UTF-8 Plain Text
Title : SubEnglish (Text)
Language : English


http://upload.armuay.com/img/2012-11...7_0.549945.png
http://upload.armuay.com/img/2012-11...0_0.335871.png
http://upload.armuay.com/img/2012-11...0_0.283302.png
http://upload.armuay.com/img/2012-11...7_0.167927.png
http://upload.armuay.com/img/2012-11...7_0.504118.png
http://upload.armuay.com/img/2012-11...7_0.549102.jpg

http://www.filecondo.com/dl.php?f=C0cc9d1twKzr

ขอบคุณมากจ้า

ขอบคุณครับ