POPEYE
ป๊อปอาย
1980 Rare Master DVD
ธนพรขออนุญาตคัดบทวิจารณ์อันทรงคุณค่า ที่มีใน Net มาให้อ่านกันก่อนนะคะ
โดย....หมื่นทิพs Movie Review (ธนพรขอขอบคุณมา ณ ที่นี้)
ป๊อปอายครับ ป๊อบอายเจ้าเก่าจากการ์ตูนสั้นที่พวกเรา (รุ่นประมาณผมนี่แหละ) คุ้นเคยกันมานานก็มาสู่หนังใหญ่ยาวชั่วโมงครึ่งโดยปร ะมาณ ก็หนังนานแล้วนะครับ นี่ก็เกือบๆ จะสามสิบปีแล้ว
นับว่าทีมงานผู้สร้างกล้าหาญไม่ใช่น้อยเลยนะครับ ที่กล้าเอาการ์ตูนสั้นๆ มาขยายเป็นหนังใหญ่เนี่ย เพราะหากมาพินิจพิเคราะห์ตามจริงแล้ว เนื้อหาของ Popeye สมัยการ์ตูนทุกตอนจะต้องเป็นประมาณนี้ครับ เปิดเรื่องมาป๊อปอายก็ต้องกำลังจู๋จี๋ดู๋ดี๋กับโอลีฟ อยู่ ทีนี้พอสวีทไปซักพักก็จะมีหน้าของบรูตัสโผล่มา (บางทีก็โผล่มาจากท่อ จากแจกัน จากกำแพงก็มี) แล้วพี่แกก็จะตรงรี่เข้ามาหาเรื่องหาราว ซึ่งการหาเรื่องก็จะมีดังนี้
- แกล้งป๊อปอาย เช่น เอากำปั้นซัดป๊อปอายลอยไปเจ็ดคาบสมุทร
- วิ่งไล่จับโอลีฟ และโอลีฟก็จะโดนลากไป แล้วบรูตัสก็จะยัดเยียดความเป็นแฟนให้
- ลักพาตัวสวีทพี
- หาทางแกล้งชาวบ้านจนป๊อปอายโดนหาเลข
มันจะมาแนวนี้ทุกตอนครับ ก็คิดดูขนาดการ์ตูนสั้นๆ ยังวนไปวนมาอยู่แบบนี้ตั้งหลายปีดีดัก แล้วหนังใหญ่มันจะแหวกแนวฉีกพ้นไปได้ยังง๊าย
หนังเริ่มมาก็เล่าถึงป๊อปอาย (Robin Williams) กะลาสีตาหรี่ข้างโตข้าง พร้อมไปป์อันโต เดินดุ่ยๆ เข้าเมืองสวีทเฮพเว่นมาพบกับโอลีฟ ออยล์ (Shelley Duvall) ลูกสาวเจ้าของโรงแรมประจำเมือง แล้วก็เจอกับบรูตัส (Paul L. Smith) คู่ปรับตลอดกาล, วิมปี้ (Paul Dooley) ชาวบ้านที่มักโดนบรูตัสเล่นงานประจำ หนังเปิดมาก็เล่าเรื่องตามแบบการ์ตูนเลยครับ มีการหาเรื่อง การต่อยตีกันแบบเด็กๆ แต่ในที่สุดป๊อปอายก็เอาชนะใจโอลีฟสำเร็จครับ
แล้วหนังก็จะเดินเรื่องมาสู่ครึ่งหลังอันเป็นช่วงที่ ป๊อปอายได้สมรักกับโอลี ฟแล้ว และมีสวีทพีเกิดขึ้นมา ตามด้วยการต่อสู้ขั้นสุดท้ายกับบรูตัสและการพบชายลึก ลับที่อาจจะเป็นพ่อของ เขาอย่าง ป๊อบเดค เพพบี้ (Ray Walston) อีกด้วย
อย่างแรกคือ ผมต้องขอชมที่งานนะครับ เริ่มจากนักแสดงน่ะฮะ ที่คัดหน้าตามาได้เหมาะเหม็งมากๆ คล้ายตัวการ์ตูนต้นฉบับดีแท้ Williams กับงานยุคแรกๆ ของเขาซึ่งเรื่องนี้ก็สร้างชื่อให้เขาไปหาน้อยไม่ล่ะ ครับ ท่าทางออกจะเป็นเอกลักษณะปานนี้ ซึ่งทีมงานก็ช่วยกันเมคอัพแกจนเป็นป๊อปอายสำเร็จ (ผมว่าแกในตอนนั้นดูชราภาพว่าตอนนี้อีกนะเนี่ย) ทำตาปิดข้างนึง ทำปากเบะๆ ซะหน่อย คาบไปป์ประจำตัวทั้งเรื่องก็เป็นป๊อปอายได้อย่างสนิท ใจแล้ว จุดนี้ไม่ผิดหวังเลยครับ
ส่วน Duvall ก็พอกัน เป็นโอลีฟได้ดี หุ่นเธอก้างๆ เสียงแหลมๆ วิ่งท่าประหลาดๆ ครบเครื่องมากๆ ครับ ส่วน Smith กับบทบรูตัสก็โอเคน่ะ ตอนแรกผมออกจะงงหน่อยนะหน้าตามามาดยังกะ Orson Welles แน่ะ บทพวกเขาก็ตามสูตรการ์ตูนเป๊ะไม่มีหลุดครับ ดาราสมทบทั้งหลายก็เป็นตัวการ์ตูนกันหมดเลย คือไอ้ประโยคที่ว่าทุกคนดูเป็นตัวการ์ตูนนี่ถ้าไปโผล ่ในคำรีวิวของหนัง เรื่องอื่นๆ ผมคงหมายความในเชิงด่าหนังน่ะฮะ แต่กับเรื่องนี้ผมหมายถึงคำชมนะ ก็มันสร้างจากการ์ตูนอ้ะ และหนังก็สามารถถอดความเป็นการ์ตูนออกมาได้ค่อนข้างด ีครับ
ส่วนผู้กำกับที่รับหน้าที่ไป ตอนแรกก็มีชื่อ Mike Nichols, Arthur Penn และ Hal Ashby เรียงกันมาจะกำกับครับ แต่รายที่ได้ทำจริงๆ กลับเป็น Robert Altman ใช่ครับ ท่านอ่านไม่ผิดหรอก ลุง Altman จอมทำหนังรวมดารานั่นเอง ซึ่งในส่วนหนึ่งผมก็ต้องชมล่ะครับ เพราะทำหนังออกมาเหมือนดูการ์ตูนป๊อปอายหลายๆ ตอนมาต่อกัน กลิ่นอายก็ไม่เลว ฉากโลเกชั่นก็เลือกมาดีครับ และนับว่าพี่ท่านกล้าหาญชาญชัยมาก เพราะเนื้อเรื่องในการ์ตูนนั้น มันไม่มีอะไรเลยครับ ย่ำต้อกอยู่ตลอด ตอนดูเป็นการ์ตูนมันก็สนุกพอเพลินๆ แต่พอดูมากๆ ตอนเข้ามันก็ออกจะเอียนแล้วเพราะมันเดิมๆ น่ะครับ เนื้อหาก็เบาสุดๆ อยู่แล้ว ยังไงหากจะทำหนังให้รักษาวิญญาณการ์ตูนเดิมไว้ บทมันก็ย่อมไม่สามารถกระดิกไปไหนได้ เหมือนโดนตีกรอบไปในตัว
จริงๆ ผมว่าการทำหนังเรื่องนี้โดนทั้งขึ้นทั้งล่องนะ ถ้าสร้างออกมาไม่ดีก็โดนแฟนการ์ตูนว่า บ่นก่นด่าว่าทำไม่ดี ทำให้ชื่อเสียงการ์ตูนเสื่อมเสีย และโดนด่าว่าไม่หนุก แต่หากทำดี ณ. ที่นี้ก็ทำให้มันได้อารมณ์เหมือนการ์ตูนก็มีสิทธิ์โด นด่าอีกว่า ไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย ดูแบบนี้นั่งกับบ้านหยิบวีดีโอการ์ตูนต้นฉบับมาดูก็เ หมือนกันน่ะแหละ
เท่าที่ลองฟังหยั่งเสียงก็พบว่าคนชอบหนังเรื่องนี้มี ไม่มากหรอกครับ ส่วนมากจะเป็นแฟนการ์ตูนที่ชอบธีมของป๊อปอายดั้งเดิม คือถ้าท่านชอบการ์ตูนนี่ผมว่าท่านน่าจะดูสนุกดี แต่หากท่านไม่ชอบการ์ตูน เห็นว่ามันน่าเบื่ออยู่แล้ว ขืนมานั่งดูล่ะคงมีบ่นล่ะครับ เพราะมันก็เหมือนการ์ตูนน่ะแหละ
และการจะเอาการ์ตูนแบบนี้มาทำเป็นหนัง ผมว่ามันมีกรอบที่แน่นมากครับ จะฉีกจะแหวกอะไรมากไม่ได้เลย ไม่เหมือนพวก Batman หรือ Superman นี่ครับ ที่มันมี Effect และเนื้อเรื่องมาผูกกัน มีฉากแอ๊คชั่นมาใส่ลงไปเป็นจุดขายชั้นดี ยังมีตัวร้ายเป็นสีสันอีก เนื้อหาจะรุนแรงมีฆ่ากันก็ได้ แต่กับ Popeye ขืนไปทำแบบนั้นล่ะได้โดนแฟนๆ เผาพริกเผาเกลือไล่ส่งแน่นอน เลยทำได้แบบนี้เท่านี้ล่ะครับ อีกอย่างขืนไปเล่น Effect มากๆ หรือเอาแค่เปลี่ยนศัตรูนี่ มันย่อมไม่ใช่ Popeye ในบัดดล
ยากครับ ทำยากจริงๆ
ตอนเด็กๆ ผมเคยดูหนัง Popeye นี่สองหนนะครับ หนหนึ่งตอนวีดีโอ อีกหนตอนช่อง 7 มาฉาย ซึ่งผมก็สนุกกับหนังดีครับ แต่พอโตขึ้นมาดูมันก็ออกจะเฉยๆ แล้วล่ะ ผมยังจำได้เลาๆ นะ ว่าสมัยโน้นตอนเป็นเด็ก ผมตื่นเต้นกับฉากต่อสู้ใต้ทะเลมากๆ แต่พอตอนนี้โตขึ้นกลับธรรมดาแล้วน่ะ
ผมเลยพอจะสรุปได้ว่าหนังไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ มันทำได้ดีเท่าที่มันจะทำไหวแล้ว แต่ปัญหาคือ วัยของเรานี่แหละ เลยวัยแล้วไงครับ เริ่มแก่น่ะ ดูการ์ตูนเบาๆ ไม่สนุกเหมือนก่อนแล้ว แล้วก็เข้าโหมดปลงสังขารจนได้ผมเนี่ย
ดังนั้นหากว่ากันง่ายๆ คนที่ชอบ Popeye น่าจะโอเคกับหนังบ้างนะครับ และเด็กๆ น่าจะสนุกกับหนังได้ดี ส่วนผู้ใหญ่ที่เลยวัยและเฉยๆ กับหนังการ์ตูน Popeye นี่คงไม่ใช่งานที่ท่านจะสนใจเท่าไหร่หรอก
อ้อ ผมเกือบลืมไป นี่เป็นหนังเพลงด้วยนะครับ อ้า จริงๆ ครับ มีการร้องเพลงด้วย นี่ยิ่งกล้าหาญไปกันใหญ่ครับ มานั่งดูโอลีฟ ป๊อปอายร้องเพลงเนี่ย ผมถึงค่อนข้างชมที่เขาพยายามหาความใหม่ หาความแปลกมาใส่ลงในหนังอย่างเต็มที่ แต่ยังไงมันก็ยังเป็น Popeye The Sailor Man อยู่ดี
แต่อีกจุดที่ผมชอบ คือเรื่องผักขมครับ ใช่ ท่านๆ ที่เป็นแฟนพี่ป็อป คงจำได้ว่าแกจะต้องเขมือบผักขมก่อนแล้วแรงจะไหลมาเทม า แต่ในหนังนั้นตอนแรกจะพบว่าพี่ป็อปแกไม่ชอบผักขมเลย ออกจะเกลียดด้วยซ้ำ ซึ่งบางคนอาจสงสัย แต่อยากจะบอกว่านั่นไม่ใช่การดัดแปลงจาการ์ตูนแต่อย่ างใดครับ แต่เป็นไปตามเนื้อเรื่องดั้งเดิมที่ E.C. Segar ผู้ให้กำเนิด Popeye เขียนไว้สมัยเป็นการ์ตูนคอมมิค ว่าพี่แกไม่ได้ชอบผักขมหรอกครับ แต่เรื่องมาเปลี่ยนเอาช่วงหลังๆ นั่นเอง
สรุปว่า แฟนๆ Popeye น่าจะโอเคครับ ผมก็โอเคนะ ดูได้เรื่อยๆ จริงๆ สนุกตรงการดูการเดินเรื่องที่พยายามจะให้มันน่าตามดู และดูการแสดงของเหล่ามนุษย์ร้อยลีลาที่พยายามการ์ตูน กันเต็มที่ แล้วก็งานโปรดักชั่นที่ทำได้ดีเลยล่ะครับ ดูเป็นเมืองซีเฮฟเว่นริมทะเลจริงๆ
อีกอย่างได้ดูพี่ Robin Williams เป็นป๊อปอาย มันก็เพลินดีเหมือนกัน
ดูได้พอเพลิน แต่ไม่ได้ชอบมากมาย เพราะก็เหมือนกับการ์ตูน Popeye น่ะแหละ ผ่านมาแล้วผ่านไป หลังข่าวภาคค่ำ ผมพูดเหมือนจะชอบเลยนะ แต่ก็แค่โอเคกับมันน่ะครับ ดั้งเดิมก็ไม่ได้ชอบ Popeye แบบเต็มๆ อยู่แล้ว ดูอันนี้ก็เหมือนเคย เพียงแต่ที่ชมๆ นี่คือชมความพยายามที่พยายามสร้างออกมาให้โอเคที่สุด และผลก็ออกมาโอเคจริงๆ ในกรอบแคบๆ เท่าที่ Popeye เป็น มันเลยให้ผลเหมือนเดิม นั่นคือมันจะเป็นที่ชอบของคนที่ชอบ Popeye และมันจะเป็นอะไรที่ธรรมดาสำหรับที่คนเฉยๆ กับกะลาสีคนนี้
Cast
Robin Williams as Popeye
Shelley Duvall as Olive Oyl
Paul L. Smith as Bluto
Paul Dooley as J. Wellington Wimpy
Richard Libertini as George W. Geezil
Ray Walston as Poopdeck Pappy
Donald Moffat as The Taxman
MacIntyre Dixon as Cole Oyl
Roberta Maxwell as Nana Oyl
Donovan Scott as Castor Oyl
Allan F. Nicholls as Rough House
Wesley Ivan Hurt as Swee Pea
Bill Irwin as Ham Gravy
Details
Origin ต้นทาง : DVD5 Master จาก USA
--------------------------------------------------------------------------
Genre : American musical comedy / Family / Adventure
Based on : Popeye comic strip by E.C. Segar
IMDb : 5.1
Directed & Story by : Robert Altman
Produced by : Robert Evans
Studio : Paramount Pictures Corporation/ Walt Disney Productions
Released official date : (USA) Dec 12, 1980
--------------------------------------------------------------------------
Video Compression mode : MPEG-2
TV system : 525/60 NTSC
Aspect ratio : 16:9
Display mode : Letterbox
Picture resolution : 720X480
--------------------------------------------------------------------------
Audio Format : Dolby digital 5.1 Surround
Languages : English
Subtitle : English / Dutch
--------------------------------------------------------------------------
Menu : Play / Set up / Scene Selection
Running time : 1 Hr. 53 Mn. 51 Sc.
--------------------------------------------------------------------------
http://www.filecondo.com/dl.php?f=C00a7e1y87H0