Soko nomi nite Hikari Kagayaku
เรื่องนี้นําแสดงโย Gou Ayano ,Chizuru Ikewaki และ Masaki Suda
ทั้งสามคนเรียกได้ว่าเด่นมากกินกันไม่ลงเลยในเรื่องน ี้
เรื่องนี้เกี่ยวกับพระเอกที่ออกจากงานมาแล้วก็เรื่อย เปื่อยไปวันๆ
เพราะต้องการลืมอดีตที่เจ็บปวด จนวันหนึ่งได้เจอกับชายคนหนึ่ง
ในร้าน ปาฉิงโคะ และได้นําไปที่บ้านจนพบกับพี่สาวซึ่งเป็นนางเอก
และเรื่องราวชีวิตความรักความเศร้าของชีวิตคนกลุ่มหน ึ่งที่
ไม่ใช่คนพิเศษคนสําคัญอะไรของสังคม แม้แต่สังคมเล็กๆตํ่าๆ
มันคือเรื่องราวของชีวิตเศษฝุ่นบนโลกนี้ที่สว่างจ้าอ ยู่ในตัวของมันเอง
ผู้กํากับเรื่องนี้เป็นผู้หญิงนะครับ และกระแสเธอเหมือนจะมีคนไม่ชอบเยอะ
อาจจะเพราะงานของเธอช่วงหลังเรียกว่าดราม่าจัด หรือว่าอาจจะมี
เหตุผลอะไรอื่นอีกก็ไม่ทราบแต่มีกลุ่มคนไม่ชอบเธออยู ่แน่ๆ
แต่ว่าสําหรับนักวิจารณ์แล้วเธอคือผู้กํากับอนาคตไกล ที่สุดคนหนึ่ง
ของญี่ปุ่นหลังจากฝากผลงานเรื่องนี้เอาไว้ จนได้รับรางวัลผู้กํากับ
ยอดเยี่ยมจากงานเทศกาลหนัง Montreal World Film Festival
ซึ่งถือว่าใหญ่มาก เป็นเทศกาลที่อยู่กึ่งกลางระหว่างหนังกระแส
กับหนังเน้นฝีมือ ซึ่งเป็นอีกเทศกาลที่ได้รับการยอมรับในวงนักวิจารณ์ม าก
เพราะงั้นการได้รับรางวัลนี้ของเธอถือว่าเป็นใบเบิกท างสุดๆ
มาเริ่มกันที่เนื้อหาของหนัง เรื่องนี้เป็นการหยิบเอาเรื่องราวของคน
ที่เรียกว่าไม่ได้มีความสําคัญอะไรกับโลกใบนี้กับสัง คมอะไรเลย
เป็นแค่คนธรรมดาเป็นคนในสังคมระดับล่างทั่วๆไปที่ปาก กัดตีนถีบ
แต่หนังได้พยายามถ่ายทอดให้เห็นถึงชีวิตที่มันแสนเจ็ บปวด ต้องดิ้นรน
เจอกับสังคมเลวร้ายต่างๆ มันคือชีวิตของคนชั้นล่างทั่วๆไป หรือว่า
แม้แต่คนชั้นกลางทั่วๆไป แต่ในความเจ็บปวดมันก็มีแสงสว่างที่แรงกล้า
ส่องประกายอยู่ด้วย เหมือนกับชื่อเรื่อง มันคือแสงที่ส่องให้เห็นสว่าง
อยู่ท่ามกลางความมืด
เนื้อหาเรื่องนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย ไม่ได้ปรัชญาเป็นเนื้อหา
ชีวิตของคนที่ต้องเจอกับเรื่องราวในชีวิตที่ว่ากันตร งๆ เข้าใจง่ายๆ
แต่ว่าแรงกระแทกที่หนังส่งมามันรุนแรงมาก ที่ดูแล้วรู้สึกอินสุดๆ
ไม่ต่างกันกับ hyakuyen no koi ที่ถ่ายทอดชีวิตคนทั่วๆออกมา
ได้ดูแบบว่ากระแทกโดนใจสุดๆ เรื่องนี้น่าเห็นใจอยู่อย่งหนึ่ง
เพราะเป็นหนังที่ไม่ได้มีเรื่องราวแหวกอะไรเล่นกับชี วิตคนแบบเรียบๆ
แต่ว่าจริงจัง เลยทําให้สู้พวกเรื่องเทพๆในปีนั้นอย่าง The Eternal Zero
Pale Moon,The Little House ไม่ได้(ผมแปลไปแล้ว 2 เรื่อง เหลือ
Pale Moon ยังไม่เจอซับ engหรือซับญี่ปุ่น อยากแปลมาก)
เลยทําให้เรื่องนี้สู้กระแสหนังที่ได้ดาราฟอร์มใหญ่ก ว่าไม่ได้
แต่ว่าเรื่องได้ได้รับการเสนอชื่อจาญี่ปุ่น ให้เขาชิง ออสก้ารางวัล
ภาพยนต์ต่างประเทศยอดเยี่ยม ซึ่งผมแอบกลัวว่า hyakuyen no koi
จะเจอแบบเดียวกัน คือได้เสนอเข้าชิงออสก้า แต่ว่ารางวัลในประเทศตัวเอง
โดนพวกหนังกระแสเอาไปกินหมด ถ้า ando ไม่ได้รางวัลนักแสดงนําหญิง
ยอดเยี่มปีนี้ของญี่ปุ่นผมจะไม่ให้ราคารางวัลนั้นอีก ต่อไปเลย เล่นได้แบบ
เหนือคนอื่นสุดๆขนาดนั้น เทพจนไม่รู้จะเทพยังไงแล้ว ถ้า อะยะเสะ ได้
เพราะหนัง 4 พี่น้องล่ะก็ผมเอาตีนก่ายหน้าผากแน่ๆ
กลับมาที่เริ่มนี้ต่อ ด้านการแสดงอย่างที่บอกไปว่า ทั้งสามคนที่เล่นนํา
ได้บทที่มีพลังสูงมากๆไม่แพ้กัน และเล่นได้เทพมากจนกินกันแทบไม่ลง
ทั้ง โก ที่ผมบอกเลยว่าถ้าเล่นบทเท่ โก ดูไม่อินอย่างแรง แต่ถ้าเล่นบท
เซอร์ๆ หรือบทที่คนทั่วๆไปสู้ชีวิตล่ะก็อินมากๆ ในเรื่องนี้ โก เล่นได้
ทําให้คนดูดูแล้วรับรู้ถึงความเจ็บปวดในใจของเขา เป็นงานแสดง
ที่ดีที่สุดของ โก ที่ผมเคยดูมาแล้วก็ว่าได้
ต่อมาคือ มะสะคิ เรื่องนี้เล่นได้เทพมากเหมือนกัน คือการเล่นหูเล่นตา
สีหน้าท่าทางการออกเสียงในบทของเขาทําให้เข้าใจนิสัย
ของตัวละครของเขามากว่าเป็นคนยังไง พื้นฐานชีวิตมายังไง
ต้องยอมรับจริงๆว่าบทนี้เล่นยากมากอีกบทหนึ่งเลย ต้องใช้พลังงาน
เยอะมาก บทแทบจะตรงกันข้ามกับของ โก เลยล่ะ แต่บทนี้ต้องใช้พลังงาน
แสดงออกให้ชัดเจน แต่ของ โก ต้องสะกดให้มันดูนิ่งให้เห็นถึงความลึก
ของความเจ็บปวดที่เก็บไว้
และปิดท้ายกันที่ Chizuru Ikewaki ใครที่ได้ดู โจะเซะ ไปเมื่อไม่นานมานี้
คงจะรู้ดีว่าเธอเทพขนาดไหน แม้ว่า Chizuru จะไม่มีความโคตรน่ารัก
แบะในยุคเข้าวงการแรกๆจาก Summer Snow และก็ Lipstick
แต่เธอสามารถาลัดภาพน่ารักใสๆทิ้งและใช้ฝีมือการแสดง ขั้นเทพ
มาเป็นจุดขายแทนได้สําเร็จ ทําให้เรื่องนี้ Chizuru กลับมาอีกครั้ง
ในฐานะยอดนักแสดงหญิงของวงการ ไม่ใช่นักแสดงสาวหน้าใสอีกต่อไป
ถ้า ando เล่นไว้ใน hyakuyen เทพแค่ไหน ผมก็ถือว่า Chizuru
เ่ลนเรื่องนี้เทพได้ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะฉากร้องให้ก่อนจบเรื่อง
Chizuru เล่นแบบให้ดูเลยว่าฉากร้องให้ขั้นเทพเล่นกันยังไง
มันไม่ใช่การร้องให้แบบพยายามเค้นนํ้าตา โวยวายฟูมฟาย
แต่ร้องให้แบบว่าเนียนสุดๆ จังหวะที่นํ้าตาไหลลงมาโดยที่สีหน้า
พยายามฝืนยิ้ม ท่ามกลางแสงพระอาทิตย์ที่ส่องกระทบหน้า
เรื่องนี้ปิดเรื่องได้แบบว่าสมบูรณ์แบบมากในตัวของมั นเอง
เห้นแล้วก็น่าเสียดายที่เธอไม่ได้รับรางวัลนักแสดงหญ ิงยอดเยี่ยม
Rie Miyazawa เล่นใน Pale Moon ก็ยอดเยี่ยมมาก แต่ว่า
ทั้ง ando และก็ Chizuru ที่เข้าชิงด้วยในตอนนั้นสู้กระแส
Pale Moon ไม่ไหวจริงๆ เพราะของทั้งสองคนเป็นหนังกึ่งแนว
ซึ่งสู้หนังกระแสจากหนังสือดังไม่ได้แน่นอน และผู้ชนะมีเพียงคนเดียว
Rie Miyazawa ได้ก็ไม่แปลกอะไรยอดเยี่ยมเหมือนกัน แต่น่าเสียดาย
ปี 2014 เป็นผีที่หนังเทพเยอะมาก จนหลายเรื่องที่ว่าขั้นเทพ
ต้องแย่งกันเอง(ที่จริงก็เป็นแบบนี้ทุกปีแหละสําหรับ ญี่ปุ่น แต่ปีนี้
ando ไม่ได้นักแสดงหญิงยอดเยี่ยมตูแช่งจริงด้วยล่ะ 55)
ติดตามกันได้ครับ กับเรื่องราวชีวิตของคนที่ไม่มีความหมายอะไร
กับโลกนี้หรือสังคมเลย แต่ว่ามันมีความงดงามที่ถ่ายทอดออกมา
ที่เห็นแล้วรู้สึกว่าชีวิตคนเล็กๆจริงๆแล้วมันยิ่งให ญ่กว่าชีวิตคนใหญ่
คนโตมากมายนัก
ปล.เรื่องนี้ 18+ นะมีฉากโป๊ และก็เนื้อหาสังคมที่รุนแรงมาก แรงกว่า
hyakuyen เยอะมาก อาจไม่ถึงขั้น watashi otoko แต่ก็น้องๆเลยล่ะ
ในมุมของความแรงของเรื่องที่เล่น
http://asianwiki.com/The_Light_Shines_Only_There
General : The.Light.Shines.Only.There.2014.720p.BDRip.AAC.x2 64.HC.TH.mkv
Format : Matroska at 1 906 Kbps
Length : 1.60 GiB for 1h 59mn 56s 233ms
Video #0 : AVC
Aspect : 1280 x 536 (2.388) at 23.976 fps
Audio #0 : AAC
Infos : 2 ช่อง, 48.0 KHz
Very Big Thanks บรรยายไทยแปลและฝังซับโดย Pondloso
credit Zakky
http://www.filecondo.com/dl.php?f=G7ae08b7oICf