ประเภท/Type : Drama/Romance
รายละเอียดเรื่องย่อ/Synopsis
Robert De Niro stars with Jodie Foster , Cybill Shepherd , Harvey Keitel , Peter Boyle , and Albert Brooks in theiall-too-real storyiofia psychotic New York cabby who is driven to violence in an attempt to rescue a teenage prostitute.
เรื่องราวของคนขับรถแท็กซี่ในนิวยอร์ก ผู้ถูกผลักดันสู่ความรุนแรง เหตุเพราะพยายามช่วยเหลือโสเภณีเด็กคนหนึ่ง
************************************************** *******************************
Martin Scorsese กับ Robert De Niro คือหนึ่งในคู่ผู้กำกับกับนักแสดงคู่บุญที่ดีที่สุดตล อดกาลอย่างไม่ต้องสงสัย
คำถามที่ว่าหนังเรื่องไหนคือหนังที่ดีที่สุดของ Scorsese กับ De Niro?สามารถกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ลากยาวไปได้อย่าง ไม่มีที่สิ้นสุดในหมู่ แฟนานุแฟนหนัง
เพราะแม้แต่หนังเรื่องที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังฟอร์มกล างๆของทั้งคู่อย่าง New York , New York หรือ Cape Fear ก็ยังเป็นหนังที่ดีมากกว่ามาตรฐานหนังส่วนใหญ่และมีค ่าพอแก่การเป็นที่จดจำ
ส่วนหนังเรื่องที่ขึ้นชื่อว่าดี ก็ล้วนแล้วแต่ดีไปจนถึงขั้นดีมาก กลายเป็นมาสเตอร์พีซที่ได้รับการจารึกเอาไว้ในประวัต ิศาสตร์ภาพยนตร์
ซึ่งหนัง Drama - Character study ที่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของคำวิจารณ์(เข้าชิงราง วัลออสการ์สี่สาขาและ ได้รับรางวัล Palme dOr จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์)และรายได้ (28 , 262 , 574 ล้านเหรียญสหรัฐตอนออกฉาย)ที่เพิ่งมีอายุอานามครบ 36 ปี(ตัวหนังออกฉายตอนปีค.ศ. 1976) เรื่องนี้...ก็คือหนึ่งในมาสเตอร์พีซชิ้นที่ดีที่สุด (ถ้าไม่ใช่มาสเตอร์พี ซชิ้นที่ดีที่สุด)ของ Scorsese กับ De Niro
สำหรับผู้กำกับที่เป็นชาวนิวยอร์กโดยกำเนิดและจับภาพ ของนิวยอร์กมาวางบนแผ่น ฟิล์มมาแล้วนักต่อนักอย่าง Scorsese (แม้กระทั่งนิวยอร์กยุคเก่าในหนัง Period ของเขาอย่าง The Age of Innocence และ Gangs of New York)
ภาพของนิวยอร์กใน Taxi Driver คงถือได้ว่าเป็นนิวยอร์กที่มีความหม่นมืด , เฉอะแฉะ , และสกปรกมากที่สุด...พอๆกับที่เป็นภาพของนิวยอร์กที่ น่าจดจำที่สุดในบรรดา หนังของ Scorsese และหนังเรื่องไหนๆก็ตามที่มีมหานครที่ไม่เคยหลับใหลแ ห่งนี้เป็นฉากหลัง
คำว่า Antihero เป็นคำศัพท์ที่บัญญัติขึ้นมาสำหรับตัวละครจากปลายปาก กาของ Paul Schrader (ผู้กำกับและมือเขียนบทชื่อดัง ที่หลังจาก Taxi Driver แล้ว Schrader ก็เขียนบทให้กับหนังของ Scorsese อีกสามเรื่อง คือ Raging Bull , The Last Temptation of Christ , และ Bringing Up the Dead) อย่าง Travis Bickle อดีตทหารผ่านศึกผู้ประกอบอาชีพเป็นคนขับแท็กซี่กะกลา งคืนผู้นี้โดยแท้
การกระทำของ Travis Bickle ในตอนท้ายของหนังสามารถถูกมองว่าเป็นได้ทั้งการกระทำ อันไร้เหตุผลของคน วิปลาส หรือการกระทำของคนๆหนึ่งที่หวังทำดีต่อสังคม แต่เลือกใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง
สิ่งที่ทำให้ตัวละครที่มีทั้งด้านที่เป็น Psychopath และด้านที่เป็น Antihero เช่นนี้ยังสามารถดึงอารมณ์ร่วมของคนดูออกมาได้อยู่นั ้น จึงเป็นในของความรู้สึกที่เป็นที่มาของทั้งสองด้านนั ้นในตัวของ Travis Bickle อย่าง...ความเหงา
กล่าวได้ว่าคนเราทุกคนล้วนมีความเป็น Gods Lonely Man (คนเหงาของพระเจ้า) แบบเดียวกับที่ Travis Bickle เป็น หรือถ้าจะพูดให้ตรงตัวยิ่งกว่านั้นก็คือ...คนเราทุกค นล้วนมีความเป็น Travis Bickle อยู่ในตัว
ความเป็นคนเหงา...ที่ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆในชีว ิตตามลำพัง
ความเป็นคนนอก...ที่ถึงแม้ว่าจะพยายามหนักแค่ไหนก็ไม ่เป็นที่ยอมรับของสังคม
Robert De Niro (ที่เตรียมตัวสำหรับมารับบทเป็น Travis Bickle ด้วยการศึกษาจิตวิทยาและไปเป็นคนขับแท็กซี่มาจริงๆ)ม อบหนึ่งในการแสดงที่ดี ที่สุดของเขาที่สามารถสื่ออารมณ์และสร้างมิติตื้นลึก บางหนาทั้งหลายเหล่า นั้นในตัวของ Travis Bickle ได้อย่างยอดเยี่ยมเสียจนยากที่คนดูจะลบเลือนภาพของเข าในบท Travis Bickle ออกไปจากในหัวได้
(จนน่าคิดว่าถ้าหากว่า Dustin Hoffman หรือ Jeff Bridges สองนักแสดงฝีมือที่ได้รับการวางตัวให้มารับบทเป็น Travis Bickle ก่อนการมาถึงของ De Niro เกิดได้รับบทเป็น Travis Bickle ขึ้นมาจริงๆ Travis Bickle ในแบบของพวกเขาจะออกมาเป็นยังไง?)
ตัวหนังยังมีเหล่านักแสดงสมทบมากฝีมือที่ทำหน้าที่ใน ส่วนของตัวเองได้อย่าง ยอดเยี่ยม ทั้ง Cybil Shepherd , Albert Brooks , Peter Boyle ,
Jodie Foster (ในวัย 12 ปีในบทโสเภณีเด็กที่ทำให้เธอได้รับการจับตามองเป็นคร ั้งแรกและคว้าตำแหน่ง ผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ตำแหน่งแรกมาให้กับเธอในสาขา นักแสดงสมทบหญิง) , Harvey Keitel (อีกหนึ่งนักแสดงคู่บุญของ Scorsese) , และตัวผู้กำกับอย่าง Martin Scorsese เองในฉากหนึ่งของหนัง
ความเป็น Character study ของหนังมาจากการที่ตัวหนังเล่าเรื่องราวทั้งหมดผ่านม ุมมองของ Travis Bickle (ยกเว้นแต่เพียงฉากเดียวคือฉากเต้นรำระหว่างตัวละครข อง Jodie Foster กับ Harvey Keitel)
สิ่งที่สำคัญจริงๆจึงไม่ใช่สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นภายใ นหนัง แต่เป็นสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นภายในตัวตนของ Travis Bickle
ที่นอกจากตัวหนังจะได้บทหนังที่มีความลึกซึ้งของ Schrader และหนึ่งในการแสดงที่ดีที่สุดกับเสียง Voice-over ที่คอยประกาศสิ่งที่อยู่ในห้วงคำนึงของ Travis Bickle ให้คนดูได้รับรู้เป็นระยะๆและช่วยเพิ่มกลิ่นอายฟิล์ม นัวร์ให้กับตัวหนังของ De Niro แล้ว
ความสามารถในการกำกับของ Scorsese (โดยเฉพาะความสามารถในการใช้ฉากสโลว์โมชั่นและ Tracking shot อันเป็นที่เลื่องลือ)และดนตรีประกอบของ Bernard Herrmann (นักประพันธ์เพลงชื่อดังที่หลายๆคนคงจะคุ้นหูกับเสีย งดนตรีของเขากันเป็น อย่างดี โดยเฉพาะจากในหนัง Thriller Suspense ของผกก. Alfred Hitchcock อย่าง North by Northwest , Vertigo , และ Psycho) ที่สร้างบรรยากาศของความโดดเดี่ยวได้อย่างโรแมนติก ก็เป็นอีกสองสิ่งที่ทำให้ความคิด , ความรู้สึก , และตัวตนของ Travis Bickle ได้รับการถ่ายทอดอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
จนกลายเป็นสูตรสำเร็จที่หนัง Character study ทุกเรื่องต้องเอาเป็นแบบอย่าง
สรุป...ผลงานการกำกับระดับท็อปฟอร์มของ Martin Scorsese และผลงานการแสดงระดับท็อปฟอร์มของ Robert De Niro ในหนึ่งในหนัง Character study ที่ดีที่สุดตลอดกาลและเป็นหนึ่งในมาสเตอร์พีซชิ้นที่ ดีที่สุด(ถ้าไม่ใช่ มาสเตอร์พีซชิ้นที่ดีที่สุด)ของทั้งคู่
กาลเวลากว่า 36 ปีที่ผ่านมา...ไม่ได้ทำให้คุณภาพของหนังเรื่องนี้ลดล งเลยแม้แต่น้อย
ที่มา http://www.bloggang.com/mainblog.php...oup=1&gblog=35
ผู้กำกับ/Directors :
- Martin Scorsese
นักแสดง/Actors :
- Robert De Niro
- Jodie Foster
- Albert Brooks
- Harvey Keitel
- Peter Boyle
- Cybill Shepherd
Audio Format :
- English
Subtitles :
- English
- Thai
Production Year : 1976
Length : 114 นาที/minutes
***เพื่อการแบ่งปันเท่านั้น ไม่สนับสนุนในการพาณิชย์
SS
http://www.filecondo.com/dl.php?f=gdfe0d1sJPJb