วันที่เข้าฉาย 25 กรกฎาคม 2556
แนวหนังดราม่า
ผู้กำกับมาร์คอส เบอร์สตรีน
นักแสดงโจส กุยเฮริ์ม อวิลล่า, โจส เดอ อบริว, คาโค สิโอเคลอ, เอ็ดดัวดอ ดาสคาร์
สำหรับใครที่กำลังมองหาภาพยนตร์ที่สร้างมาจากวรรณกรร มเยาวชน คงต้องบอกอย่างเต็มปากเลยว่า My Sweet Orange Tree จะไม่ทำให้คุณรู้สึกผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น แฝงความใส ปนจินตนาการ ที่สุดท้าย กลับกลายเป็นความลงตัวและความสมบูรณ์แบบ
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการดำเนินเรื่องแบบสุดแสนจะธรรมด าเรียบง่าย แต่กลับแฝงไปด้วยลูกเล่นแพรวพราว ทั้งที่เป็นภาพยนตร์แนวดราม่า ทำให้รู้สึกไม่น่าเบื่อหรือเอือมระอากับเรื่องราวของ เด็กน้อยที่ค่อยๆถูก ถ่ายทอดตั้งแต่ความร้ายเดียงสาไปจนถึง ความใสซื่ออันนำมาซึ่งอารมณ์ขัน และการสั่งสมประสบการณ์ซึ่งนำมาซึ่งบทสรุปของความสุข ที่ปริ่มล้น จนหัวใจต้องพองโตค่ะ
เรื่องราวถูกบรรยายราวกับว่าเราเป็นตาแก่คนหนึ่งที่ก ำลังนั่งฟังเด็กตัวน้อย กำลังเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่ถูกพ่อตี หรือความใฝ่ฝัน กับจินตนาการมีเสียง ซึ่งทุกอย่างแสดงให้เห็นถึงความสร้างสรรค์จากวางบทตั วละครหลักของเรื่องที่ ดี จนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกค่ะ
ต้นส้มแสนรัก สามารถพรรณนาจินตนาการของเด็กผ่านตัวของ เซเซ่ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นต้นส้มพูดได้ โลกส่วนตัว และความฝันที่ผูกติดไว้กับความซุกซนทุกกระบวนท่า ที่ทำให้เรารู้สึกรักและเอ็นดูเขาไปแบบไม่รู้ตัว อีกทั้งสีหน้าและอารมณ์ต่างๆจากฉาก บรรยากาศ และสีสันที่ถ่ายทอดออกมา ก็จัดว่าเป็นสิ่งที่ดูแล้วรู้สึกสบายใจมากกว่านั่งเค รียด
ในเรื่องนี้มีการใช้ Symbol พอให้ได้ขบคิดในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น พระเจ้า รถหรู รถไฟ ต้นส้ม ปากกา ไปจนถึงพฤติกรรมของตัวละครที่เหมือนมีเรื่องราวบางอย ่างแอบแฝงราวกับเป็นปู มิหลังของตัวละคร ว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้น ทำไมต้องเป็นแบบนี้ค่ะ ยกตัวอย่างเช่นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง เซเซ่ กับ โปรตุก้า ที่เปรียบเหมือนกับความสัมพันธ์ระหว่าง เซเซ่ กับ ต้นส้ม ตรงที่ว่า เซเซ่ สามารถคุยกับต้นส้มได้โดยที่ไม่มีใครรู้ เช่นเดียวกัน โปรตุก้า ก็เหมือนเป็นพ่อแบบลับๆของเซเซ่ ที่ไม่มีใครรู้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่เลยแม้แต่น ้อย (แค่ส่วนหนึ่ง)
เอาเป็นว่าโดยรวมแล้ว ส่วนตัว ให้ใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้แบบเต็มๆเลยแล้วกันค่ะ แต่ที่ไม่อาจให้ได้เต็ม 10 เพราะว่า อารมณ์บางอย่างกำลังบิ้วขึ้นถึงจุดพีค แต่กลับเปลี่ยน Mood ซะจนตามไม่ทัน อีกอย่างที่ให้คะแนนเยอะ ก็คงเป็นเพราะความสดใสของ Joã o Guilherme Á vila ที่สามารถแสดงออกมาได้ดีมากทั้งที่อายุเพียงแค่ 11 ปี แต่ทั้งสีหน้า อารมณ์ กลับล้วนแล้วแต่มากเกินกว่าเด็กคนอื่นๆจะทำได้ และแม้ว่าจะดูหนังจบแล้ว แต่พอเห็นหน้าของเขาที่แสดงในเรื่อง ก็บอกได้เลยค่ะว่าน้ำตาแห่งความสุขคลอเบ้าจริงๆ
ที่มา
http://goo.gl/3iU9xx
credit k.chaat
http://www.filecondo.com/dl.php?f=B018031x4HQa
http://www.filecondo.com/dl.php?f=D018031x4Hqk