3:10 to Yuma ชาติเสือแดนทมิฬ


แดน อีแวนส์ เป็นอดีตทหารเก่า ขาเสียข้างหนึ่งในสงคราม ปัจจุบันทำไร่เลี้ยงวัวอยู่กับเมียและลูกชายสองคน หนังเริ่มเล่าชะตากรรมความลำบากของแดน ด้วยฉากเปิดเรื่อง มีเจ้าหนี้มาข่มขู่ให้แดนชดใช้หนี้สินทั้งหมด ด้วยการเผาโรงนาและปิดทางไหลของน้ำ ทำให้ไม่สามารถทำไร่ทำนาได้ และเจ้าหนี้ยังหมายจะยึดที่ดินของแดน หากแดนไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้

อีกทั้งหนังยังเล่าว่า ลูกชายคนเล็กป่วยเป็นวัณโรค ส่วนลูกชายวัยรุ่นคนโตของแดน มักจะคิดว่าพ่อของตัวเองนั้น เป็น ‘ผู้ชายอ่อนแอ’ ไม่กล้าหาญอย่างที่ผู้ชายควรจะเป็น เขาจึงไม่เคยภาคภูมิใจในตัวพ่อของเขา ซึ่งแดนก็เหมือนจะรู้ตัวดีว่าลูกไม่นับถือตน แต่เก็บความรู้สึกนั้นเอาไว้ในใจ และไม่ถือสาที่ลูกคิดแบบนั้น

จากนั้น หนังก็เพิ่มตัวเปรียบเทียบ ‘ผู้ชายที่เก่งกาจ’ อย่างจอมโจรอันตราย ‘เบน เวด’ (รัสเซล โครว์) ความรู้สึกของแดนยิ่งน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ลึกๆมากยิ่งข ึ้นไปอีก เมื่อลูกชายของเขา มีท่าทีชื่นชมเบน เวด อยู่เป็นระยะๆ และเบน เวด ยังทำท่าหมาหยอกไก่กับเมียของแดน จนแดนเกิดความรู้สึกหึงหวง

เมื่อเกิดสถานการณ์ทางการสามารถจับตัว เบน เวด และจำต้องส่งตัวเวดขึ้นที่ท่ารถไฟ ในเวลาบ่ายสามโมงสิบ เพื่อเดินทางไปยังคุกยูม่า แดนจึงขออาสาเป็นหนึ่งในผู้คุมตัวเวดไปขึ้นรถไฟตามกำ หนดการณ์ โดยแลกกับเงินค่าจ้างสองร้อยดอลล่าร์ ที่แดนตั้งใจเอาไว้ใช้หนี้ เพื่อไม่ให้ที่ดินของตัวเองถูกยึด

ความจนตรอกทางการเงิน อาจจะเหตุผลเบื้องต้นของแดนที่เลือกทำภารกิจสุดอันตร ายนี้ ทว่าเหตุผลลึกๆของเขา น่าจะมีสาเหตุจากการอยากพิสูจน์ให้ลูกชายคนโตของเขาไ ด้เห็นว่า เขาไม่ได้อ่อนแอ เขากล้าหาญกว่าที่ลูกชายคิด และเขามีศักดิ์ศรี ยึดมั่นในความถูกต้อง

ตลอดเส้นทางการคุมตัวนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ เบน เวด แสดงภาพลักษณ์ของผู้ชายที่น่าหลงใหล ปราบศัตรูอย่างเก่งกาจ และ ในขณะที่แดน กลับเป็นได้แค่ผู้ชายธรรมดาๆที่ถือปืน ยิงโดนศัตรูบ้างเป็นครั้งคราว แทบไม่มีรัศมีของความยิ่งใหญ่อยู่เลย ทว่าแดนก็ยืนหยัดพยายามทำภารกิจนี้ให้ลุล่วงตามเจตนา รมณ์เดิม เท่าที่ความสามารถของเขาจะทำได้


ขอบคุณภาพและเรื่องย่อจาก http://www.rerngrit.comและhttp://www.bloggang.com

http://www.filecondo.com/dl.php?f=q50bf91sJ4eR