ไฟล์เล็กประหยัดพื้นที่สำหรับสะสม
ครั้งก่อนที่ได้รับปากว่าจะนำเรื่อง Band of Brothers (หนัง DVD และ VCD ใช้ชื่อภาษาไทยว่า "กองรบวีรบุรุษ" แต่ในหนังสือฉบับแปลโดย นพดล เวชสวัสดิ์ ใช้ชื่อว่า "เพื่อนตาย สหายศึก") ได้เล่าไว้แล้วว่าในการทำงานกับคอลัมน์ "ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์" ของผมนั้น แม้จะเป็นเรื่องที่เคยดูจบมาแล้ว ก็จะต้องนำมาดูทบทวนอีกรอบ แล้วจึงจะเขียน กรณีของ Band of Brothers ซึ่งเป็นหนังซีรี่ส์หลายตอนที่ผมเคยดูจบมาสองรอบนั้น คงใช้เวลาดูทบทวนเป็น อาทิตย์
และเมื่อตัดสินใจนำภาพยนตร์มาดูทบทวน ก็ปรากฏว่าต้องใช้เวลามากจริงๆ ไหนจะต้องทำงานทำการปกติ ดูแลทั้งเว็บไซต์หลักและเขียนเรื่องที่ Blog นี้ในคอลัมน์อื่นๆ ด้วย ในที่สุดก็ขอตัดสินใจเริ่มเขียนโดยไม่รอดูทบทวนจนจบท ุกตอนก่อน เพราะคิดว่าได้ประเด็นสำคัญที่พอจะนำมาพูดคุยกันได้ส ักครั้งหนึ่งก่อนได้ แล้ว นั่นคือเรื่องของ "ภาวะผู้นำ" หากมีเวลาดูจนจบชุดแล้วเห็นว่ามีประเด็นไหนน่านำมาคุ ยเพิ่มเติมแล้วจะ พิจารณาเขียนภาคสองครับ
ก่อนจะเข้าประเด็นหลักที่ว่า ขอกล่าวถึงหนังในภาพรวมสักหน่อย นะครับ ภาพยนตร์เรื่องนี้เดิมเป็นหนังสือของ Stephen Ambrose ที่เขียนเล่าเรื่องราวของ ทหารพลร่ม กองร้อยอีซี่ (Easy Company) อันเป็นกองร้อยที่ 5 ของกองพัน 506 กองพลพลร่มที่ 101ของสหรัฐอเมริกา (U.S. 101st Airborne Division) ที่ได้ปฏิบัติการรบในสงครามโลกครั้งที่สองอย่างห้าวห าญในหลายสมรภูมิ นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ในปี 2001 (พ.ศ.2544) โดย Steven Spielberg และ Tom Hanks
หนังสือและภาพยนตร์เล่าเรื่องนับตั้งแต่การจัดตั้งหน ่วยพลร่มและการฝึกใน ค่ายทหาร ณ เชิงเขาคูราฮี การเคลื่อนพลไปฝึกฝนและเตรียมตัวในประเทศอังกฤษ การกระโดดร่มในสมรภูมิแรกที่นอร์มังดี ปฏิบัติการรบที่คาเรนแทน เข้าร่วมยุทธการ MarketGarden ในประเทศฮอลแลนด์ การป้องกันเมือง Bastogne ใน Battle of the Bulge ฯลฯ เรื่อยไปจนถึงวันที่สัมพันธมิตรมีชัยเหนือกองทัพนาซี แล้วก็ยังต้องดูแลรักษา ความสงบอยู่ที่เยอรมันอยู่อีกระยะหนึ่ง
การวิ่งขึ้นเขา Curahee เป็นกิจวัตร ณ ที่ตั้งในสหรัฐฯ
เมื่อมีการนำหนังสือมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เป็นธรรมดาที่ในภาพยนตร์จะต้องมีทั้งสิ่งที่ "ขาด" และ "เกิน" ขึ้นมา "ขาด" เนื่องจากการชมภาพยนตร์ย่อมมีข้อจำกัดที่ไม่อาจถ่ายท อดทุกตัวอักษรในหนังสือ ได้ครบ (เช่น ความขัดแย้งระหว่างผู้กองโซเบิลกับผู้หมวดวินเทอร์กร ณีเวรตรวจห้องสุขา คงยากจะเข้าใจหากไม่อ่านหนังสือประกอบ) และ "เกิน" เนื่องจากผู้สร้างย่อมอดไม่ได้ที่จะแต่งเติมบางอย่าง ให้มีรสชาดบ้าง (เช่น ตัวละครพยาบาลหญิงชาวเบลเยียมในศึกป้องกันเมือง Bastogne)
แต่ที่ผมรู้สึกงงๆ เป็นส่วนตัว ได้แก่
การที่หมู่อีแวนที่หนังสือกล่าวว่าเป็นลูกสมุนคนโปรด ของผู้กองโซเบิลแทบไม่ได้รับการกล่าวถึงเลย
กรณีเชลยนาซีคนหนึ่งบอกว่าตนเองเป็นคนอเมริกันเชื้อส ายเยอรมันทีอาสามารบ ซึ่งในหนังสือไม่เคยพูดถึงเลย
การใช้เสนารักษ์ยูจีนเป็นตัวเล่าเรื่องในตอนที่ 6 หรือศึกป้องกันเมือง Bastogne ในศึก Battle of the Bulge ที่อาจสมเหตุผลตรงที่เสนารักษ์เป็นผู้เห็นเลือดเห็นก ารบาดเจ็บทุกข์ทรมานของ ทหารส่วนใหญ่ แต่ในตอนก่อนๆ ยูจีนไม่เคยมีตัวตนมาก่อน แล้วพอจบตอนที่ 6 ก็เหมือนกับหายไปเฉยๆ
บทบาทของทหารที่ชื่อ Albert Blithe ในช่วงแรกของตอนที่ 3 กลายเป็นคนขี้ขลาดเกินกว่าในหนังสือ เพียงเพื่อจะเสริมบทบาทของหมวดวินเทอร์สว่าเป็นผู้นำ ที่สามารถเปลี่ยนตาคน นี้ให้กลายเป็นทหารกล้าได้ และที่ตอนท้ายของตอนที่ 3 บอกว่านายคนนี้ทรมานกับบาดแผลถูกยิงที่คอจนไปตายในปี 1948 (พ.ศ.2491) นั้น ในวิกิพีเดีย (http://en.wikipedia.org/wiki/Band_of_brothers) แย้งว่า นายคนนี้แกตายในปี 1967 (พ.ศ.2510) โดยก่อนตายยังมีลูกตั้งสองคน มีงานมีการทำแล้วยังได้ไปรบในสงครามเกาหลีจนได้ยศเป็ นจ่าสิบเอกอีกต่างหาก ซึ่งผมรู้สึกว่าจะเป็นกรณีที่ซีเรียสที่สุดสำหรับปัญ หาข้อเท็จจริงทาง ประวัติศาสตร์ในหนังเรื่องนี้
ในส่วนที่ประทับใจนั้นย่อมมีอยู่มาก นอกจากข้อมูลรายละเอียดของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ การแต่งกาย และอาวุธยุทธภัณฑ์ไม่ว่ารถถัง ปืนใหญ่ เครื่องบิน ฯลฯ ของแต่ละฝ่ายที่เหมือนของจริง ชีวิตทหารที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันในยามที่ชีวิตมี แต่ความเสี่ยง
และในประเด็นหลักที่ต้องเข้าเรื่องซะที คือ บทเรียนเรื่อง "ภาวะผู้นำ" (จาก 7 ตอนแรกของซีรี่ส์) ตามที่จั่วหัวเรื่องไว้ครับ
ขวาคือผู้กองโซเบล ผบ.ร้อย คนแรก ซ้ายคือ หมวดวินเทอร์ส ผู้รับตำแหน่งผบ.ร้อยตั้งแต่วันดีเดย์ จนได้เลื่อนยศเป็นพันตรี
กองร้อยอีซี่กลายเป็นหน่วยทหารชั้นนำขึ้นมาได้โดยเริ ่มจากผู้นำสองคนในยุค ก่อตั้ง อันได้แก่ ผู้กองโซเบิล จอมเฮี้ยบทั้งระเบียบวินัย และการฝึกฝนทหารอย่างหนัก ที่เป็นเสมือนตัวแทนของ "พระเดช" และผู้หมวดวินเทอร์ส ผู้คอยให้กำลังใจทุกคนในหน่วยว่า "นายทำได้" จนเป็นเสมือนตัวแทนของ "พระคุณ"
คุณลักษณะของทั้งสองแม้จะเป็นสิ่งหล่อหลอมให้กองร้อย อีซี่แกร่งขึ้นมาได้ แต่ปัญหาคือความสัมพันธ์ระหว่างผู้กองโซเบิลกับหมวดว ินเทอร์สและสมาชิกคน อื่นในกองร้อยอันเนื่องจากความบกพร่องต่างๆ ของโซเบิลเอง ที่ดีแต่กดขี่ข่มเหงลูกน้อง ขาดคุณสมบัติที่จะทำให้ลูกน้องเชื่อถือศรัทธา ได้แก่ การอ่านแผนที่ไม่เป็นจนพาหน่วยหลงประจำ ไม่มีความรู้เรื่องยุทธวิธีเลย และที่ร้ายที่สุดคือไม่มีความรักลูกน้องเลย จนถึงขั้นอิจฉาริษยาผู้หมวดวินเทอร์ส
และแล้วผู้กองโซเบิลก็แพ้ภัยตัวเองจนถูกย้ายไปทำหน้า ที่ฝึกสอนทหารพลร่มที่ ไม่ใช่หน่วยรบ และฝ่ายพลาธิการตามลำดับ ไม่ได้เป็นผู้นำกองร้อยอีซี่อีกเลยตลอดช่วงสงคราม แม้ว่าผู้หมวดวินเทอร์สจะไม่ได้เป็นผู้กองแทนโซเบิลใ นทันที แต่จากการเสียชีวิตของผู้หมวดมีแฮน ทำให้วินเทอร์สได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้บังคับกองร ้อยที่เก่งกล้าสามารถ นับตั้งแต่ศึกวันดีเดย์ไปจนถึงวีรกรรมในฮอลแลนด์
การเข้าทำลายฐานปืนใหญ่ในวันดีเดย์ ผลงานชิ้นเอกในการรบครั้งแรก
การรบที่ Carentan กองร้อยอีซี่ยันข้าศึกทั้งทหารราบและรถถังอย่างเหนีย วแน่น จนรถถังฝ่ายเดียวกันมาช่วยไว้ได้
การรบในฮอลแลนด์ กองร้อยอีซี่ปราชัยครั้งแรกร่วมกับกองทัพสัมพันธมิตร เนื่องจากเบื้องบนวางแผนผิดพลาด
ความเก่งกล้าสามารถของวินเทอร์สคงมีมากเกินไปและได้ร ับผลตอบแทนเร็วเกินไป เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปเป็นรองผู้บังคับการกองพ ัน เคราะห์กรรมซ้ำเติมกองร้อยอีซี่เมื่อหมวดเฮลิเกอร์ผู ้ถูกวางตัวให้เป็น ผบ.ร้อยแทนวินเทอร์สถูกทหารยามพวกเดียวกันยิงบาดเจ็บ เป็นช่องให้หน่วยเหนือส่ง "เด็กเส้น" นามว่าผู้หมวดไดค์มาเป็นผบ.กองร้อยอีซี่ ในยามที่จะต้องเผชิญศึกหนัก ณ เมือง Bastogne ในศึก Battle of the Bulge และการยึดเมืองฟอยคืนจากเยอรมัน
ป้องกันเมือง Bastogne ใน Battle of the Bulge
ในยามที่ผบ.ร้อย(ผู้หมดวไดค์)ไม่เอาไหน ผบ.หมวดก็ไม่มีใครโดดเด่น กองร้อยอีซี่ก็ยังสามารถยืนหยัดต่อสู้ในศึกสงครามที่ แสนหฤโหดได้ ด้วยบรรดานายทหารชั้นประทวน (นายสิบและจ่า) โดยเฉพาะจ่าสิบเอกลิปตัน จ่ากองร้อย ที่ได้พยายามปลุกปลอบขวัญของเพื่อนทหารให้สามารถฝ่าฟ ันอุปสรรคต่างๆ มาได้ตลอด
และเมื่อการรบเพื่อยึดเมืองฟอยถึงจุดที่คับขันที่สุด วินเทอร์ส อดีตผู้บังคับกองร้อยอีซี่ ก็ได้ตัดสินใจช่วยลูกน้องของตนด้วยการสั่งปลดไดค์กลา งสนามรบ แล้วส่งผู้หมวดเสปียร์ จากกองร้อยดีผู้ถูกร่ำลือว่าเป็นจอมโหดในการสังหารลู กน้องและเชลยศึกที่นอร์ มังดีมาเป็นผู้บังคับกองร้อยแทน จนกองร้อยรอดพ้นสถานการณ์เลวร้าย สามารถยึดที่หมายได้ตามภารกิจ
การยึดเมืองฟอยที่วินเทอร์สต้องออกคำสั่งกับเสปียร์ "ไปปลดไดค์ออกแล้วสั่งการแทน"
เสปียร์นอกจากจะได้พิสูจน์ตนเองว่าเป็นนายทหารที่เก่ งกล้าสามารถแล้ว ยังได้สารภาพกับลิปตันโดยอ้อมในภายหลังว่า ที่แกล้งทำเฉยต่อข่าวลือเรื่องความโหดร้ายของตนเองไม ่เคยยอมรับหรือปฏิเสธ อะไรนั้น เพื่อที่จะให้ลูกน้องรู้สึกยำเกรง (คล้ายๆ เป็นการใช้จิตวิทยาพลิกวิกฤตเป็นโอกาสอะไรทำนองนั้นล ะมัง) และยังได้กล่าวชมเชยลิปตันว่า ในช่วงที่ไดค์เป็นผบ.ร้อยนั้น อีซี่ไม่ได้ขาดผู้นำเลย เพราะลิปตันเองนั่นแหละที่ได้ช่วยประคับประคองขวัญแล ะกำลังใจของเพื่อนทหาร มาตลอด ทำให้ลิปตันกำลังจะได้รับการเลื่อนยศเป็นนายทหารในเร ็วๆ นี้
ใครที่มีภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในมือ ลองเอาตอนที่ 7 (The Breaking Point) มาชมอีกครั้ง โดยเฉพาะตอนท้ายเรื่องที่กองร้อยอีซี่ได้พักรบในคอนแ วนด์ บทสนทนาระหว่างผู้หมวดเสปียร์กับจ่าสิบเอกลิปตัน น่าจะเป็นข้อคิดที่ดีสำหรับลูกจ้างหรือมนุษย์เงินเดื อนที่กำลังคิดว่าเจ้า นายหรือหัวหน้าของคุณไม่เป็นผู้นำที่ดี
เสร็จศึกเมืองฟอย จ่าลิปตัน (ซ้าย) และ เสปียร์ส (ขวา) ยกย่องความเป็นผู้นำของกันและกัน
หากคุณอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นจริงๆ คุณจะรอให้ใครมาเปลี่ยนเจ้านายให้คุณ หรือคุณจะแสดงบทบาทผู้นำในเชิงสร้างสรรค์เพื่อต่อสู้ อุปสรรคต่างๆ ดังเช่นจ่าลิปตัน
เนื่องจากบทความนี้เป็นลิขสิทธิ์อัน ชอบธรรมของผู้เขียน และอาจะมีการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลบ้างตามความเหมาะสม ในการนำบทความไปเผยแพร่ในเว็บไซต์อื่นๆ จึงขอความร่วมมือให้ใช้วิธีการคัดลอกเฉพาะ Link หรือ URL Address แทนการคัดลอกบทความทั้งหมด หากมีการคัดลอกไปในลักษณะแอบอ้างเป็นผู้เขียน หรือมีเจตนาอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางเว็บ iseehistory.com แล้ว จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมาย
ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ : Band of Brothers
ชื่อภาษาไทย : กองรบวีรบุรุษ หรือ เพื่อนตาย สหายศึก
เรื่องเดิม : Band of Brothers by Stephen Ambrose
ผู้สร้าง : Steven Spielberg, Tom Hanks, Erik Jendresen and Stephen Ambrose
ผู้กำกำกับ และเขียนบท : Tom Hanks และคนอื่นๆ (แบ่งกันเป็นตอนๆ รายละเอียดใน http://en.wikipedia.org/wiki/Band_of_brothers
ผู้แสดง :
Damian Lewis as Major Richard Winters
Ron Livingston as Captain Lewis Nixon
Matthew Settle as Captain Ronald Speirs
David Schwimmer as Captain Herbert Sobel
Rick Warden as First Lieutenant Harry Welsh
Neal McDonough as First Lieutenant Lynn "Buck" Compton
Donnie Wahlberg as Second Lieutenant C. Carwood Lipton
etc.
ตอนที่ 1 Currahee (คูราฮี)
คูราฮี คือชื่อเนินเขาที่กองร้อยอีซี่ต้องวิ่งขึ้นทุกวันระห ว่างการฝึกที่ค่ายทอ คกัว จอร์เจีย เนื้อเรื่องในตอนแรกนี้เกี่ยวกับฝึกของเหล่าพลร่ม ตั้งแต่ที่อเมริกาไปจนถึงในอังกฤษเป็นเวลา2ปี ก่อนถึงวันดี-เดย์ ตอนนี้ยังไม่มีแอ็คชั่นมากนัก แต่มีความน่าติดตามสูง
ตอนที่ 2 Day of Days (วันสำคัญ)
มิ.ย. 44 วันดี-เดย์ วันที่กองกำลังสัมพันธมิตรบุกยุโรป ทหารกว่า 3 000 000 นาย เครื่องบิน 11 000 ลำ เรือ ลำ ขึ้นฝั่งที่นอร์มังดี ฝรั่งเศส ก่อนเหล่าทหารราบจะยกพลขึ้นบก 5 ชั่วโมง ทหารพลร่มได้โดดร่มลงในดินแดนข้าศึก Band of Brothers Part 2 Day of Days โฟกัสไปที่หมวดริชาร์ด(ดิ้ค) วินเทอร์ส หลังจากโดดลงอย่างกระจัดกระจาย กองร้อยอีซี่รวบรวมกำลังพลและได้รับภารกิจให้ไปจัดกา รป้อมปืนใหญ่ที่กำลัง ถล่มพวกทหารราบซึ่งกำลังยกพลขึ้นบกที่หาดยูท่าห์
ตอนที่ 3 Carentan (คาเรนทัน)
ปฏิบัติการยึดเมืองคาเรนทัน ฝรั่งเศส
ตอนที่ 4 Replacements (พลสำรอง)
ปฏิบัติการมาร์เก็ต การเด้น ที่ฮอลแลนด์ พลร่มของฝ่ายพันธมิตรทั้งอเมริกา อังกฤษ ฯลฯ(ซึ่งในหนังไม่ได้กล่าวถึง) ด้วยความหวังที่จะบุกเยอรมันจากด้านฮอลแลนด์ ในการนี้กล่าวถึงพลสำรองที่เข้ามาเสริมกำลังด้วย
ตอนที่ 5 Crossroads (ทางแยก)
ด้วยการปฏิบัติหน้าที่อันกล้าหาญของหมวดวินเทอร์ส ทำให้เขาได้เลื่อนยศและขึ้นไปคุมกองร้อย เป็นจุดเปลี่ยนของเขาที่ไม่ต้องนำลูกน้อง ออกรบอีกต่อไป Crossroads ชื่อตอนนี้มีความหมายแฝง กำกับโดยทอม แฮงค์เอง
ตอนที่ 6 Bastogne (แบสโตนจ์)
แบสโตนจ์ เบลเยี่ยม สมรภูมิอันแสนหฤโหด เป็นส่วนหนึ่งของการรบที่ยิ่งใหญ่ The Battle of the Bulge กองร้อยอีซี่มาประจำที่แบสโตนจ์โดยมีกระสุน/อาหาร/อุปกรณ์ต่างๆ เพียงน้อยนิด ทั้งหิมะอันหนาวเหน็บและยังถูกล้อมด้วยทหารเยอรมันมา กมาย สำหรับตอนนี้ถูกนำเสนอผ่านมุมมองของแพทย์สนามยูจีน
ตอนที่ 7 The Breaking Point (บุกทะลวง)
ยังอยู่ในฉากสงครามที่มีแต่หิมะ ผ่านการบรรยายความรู้สึกของจ่ากองร้อยคาร์วู้ด ลิปตัน
ตอนที่ 8 The Last Patrol (การลาดตระเวนครั้งสุดท้าย)
หลังจากการรบที่แบสโตนจ์ เหล่าทหารอยู่ในสภาพย่ำแย่ อ่อนล้า .......ตอนนี้นำเสนอผ่านพลฯเว็บสเตอร์ที่บาดเจ็บในฮอ ลแลนด์ทำให้ไม่ได้ไปรบ ที่แบสโตนจ์ จึงทำให้เขาถูกมองเหมือนเป็นทหารใหม่ ประกอบกับการมาของหมวดโจนส์นายทหารที่เพิ่งจบมาใหม่ๆ ทั้งสองคนจึงต้อง พิสูจน์ตัวเอง ภารกิจในตอนนี้คือบุกเข้าไปจับเชลยเยอรมัน
ตอนที่ 9 Why We Fight (จะรบไปทำไม)
กองกำลังพันธมิตรบุกเข้าสู่เยอรมันได้ ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตายไปแล้ว ทหารเยอรมันเริ่มจะยอมแพ้ ฝ่ายพันธมิตรพบค่ายกักกันชาวยิวมากมาย ตอนนี้นำเสนอได้เศร้ามาก
ตอนที่ 10 Points (คะแนน)
ในช่วงเวลาสงครามใกล้จะสงบ การที่ทหารจะกลับบ้านได้ต้องสะสมคะแนนให้ถึง 85 แต้ม น่าเศร้าที่แม้จะไม่มีสงครามแล้วทหารบางคนก็ยังต้องบ าดเจ็บ/ตาย อะไรก็ตามที่โหดๆใน9 ตอนที่ผ่านมา จะไม่มีให้เห็นในตอนสุดท้ายนี้ ตอนนี้จะมีแต่ฉากสวยๆงามๆของเทือกเขาแอลป์ รังของฮิตเลอร์ ออสเตรีย บทพูดของนายพลเยอรมันในช่วงท้ายน่าสนใจมาก และไม่มีหนังเรื่องไหนที่ฉากจบแบบบอกว่าปัจจุบันคนๆน ั้นทำอะไรอยู่ ที่ทำให้อินได้เท่าเรื่องนี้
1
http://www.filecondo.com/dl.php?f=k8c7caaVkfvo
2
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Ih2fd3aVkfhC
3
http://www.filecondo.com/dl.php?f=gS68bcaVkecF
4
http://www.filecondo.com/dl.php?f=sV1ff2aVkcru
5
http://www.filecondo.com/dl.php?f=K5df83aVkeXi
6
http://www.filecondo.com/dl.php?f=2j3aeeaVkdqz
7
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Yk04c0aVkhNE
8
http://www.filecondo.com/dl.php?f=b214c3aVkg9H
9
http://www.filecondo.com/dl.php?f=BZc141aVkewc
10
http://www.filecondo.com/dl.php?f=Bfa648aVkcyg