[จีน]-(Kings.War)-(E01-E80.END)--HDTV.H.264.720p. [From TV]-[พากย์ไทย]

**Duckload.us** · 01-20-2017 05:56 PM

ละครฟอร์มใหญ่อลังการยิ่งใหญ่ King’s War(หลิวปังกับเซียงอวี่) ด้วยทุนสร้างมหาศาล 2 ร้อยล้านหยวน(พันล้านบาท)เป็นละครที่ใช้ทุนสร้างแพงท ี่สุดของการสร้างละครประวัติศาสตร์ของจีน มี 80 ตอน นำแสดงโดย Peter Ho เหอยุ่นตง
เริ่องราวเริ่มขึ้นสมัย ราชวงศ์ฉู่ และราชวงศ์ฮั่น อยู่ในช่วง 206-202 ปีก่อนคริสตกาล เกิดขึ้นหลังราชวงศ์ฉิน ของ จิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งเมื่อราชวงศ์ฉินล่มสลาย เซี่ยงอวี่ได้ขึ้นเป็นผู้นำของฉู่ตะวันตก ส่วนเล่าปังเป็นผู้นำของฮั่น ทั้งเซียงอวี่และเล่าปังต้องผ่านการสู้รบกัน ร่วมกันและรบรากันเองหลายต่อหลายครั้ง และเรื่องจบลงตรงที่ เล่าปังเป็นฝ่ายชนะและปราบดาภิเษกตนเองเป็น สมเด็จพระจักรพรรดิฮั่นเกาจู ปฐมจักรพรรดิผู้สถาปนาราชวงศ์ฮั่น ได้สำเร็จ เรื่องราวจะอย่างไรต่อไปติดตามกันเต็มๆ ใน ฉู่ฮั่น ศึกชิงบัลลังก์สะท้านปฐพี

ชื่อไทย ฉู่ฮั่น ศึกชิงบัลลังก์สะท้านปฐพี 2012
ชื่ออังกฤษ Legend Of Chu&Han หรือ King s War
จำนวน 80 ตอน ตอนละ 45 นาที
แนว อิงประวัติศาสตร์ , ดราม่า
ผูกำกับ เกาซีซี

นำแสดงโดย
เฉินเต้าหมิง
เหอรุ่นตง (ปีเตอร์ โห)
ต้วนยี่กง
ฉินหลานดก
หลี่อี้เสี่ยว

ร่วมด้วยนักแสดงอีกมากมาย

ติดตาม หนังจีนชุด ฉู่ฮั่น ศึกชิงบัลลังก์สะท้านปฐพี ได้ทุกวันจันทร์ - อังคาร - พุธ เวลา 21.15 - 22.55 น. เริ่ม 10 สิงหาคม 2015 นำเสนอเป็นตอนแรก ทางช่อง True4U
ช่องทางการติดตาม ทรูวิชั่นช่อง2 , PSI ช่อง4 , ทีวีดิจิตอล ช่อง24 ดาวเทียม/เคเบิ้ลทีวี ช่อง34

เฉินเต้าหมิง
รับบท หลิวปัง
(นักแสดง / โปรดิวเซอร์ ชาวจีน)

เล่าปัง (Liu Bang) หรือ สมเด็จพระจักรพรรดิฮั่นเกาจู (Han Gao Zu) ปฐม จักรพรรดิผู้สถาปนาราชวงศ์ฮั่น มีกำเนิดเป็นลูกชาวนายากจน เกิดในอำเภอเพ่ยเสี้ยน (ปัจจุบันอยู่ทางเหนือของ มณฑลเจียงซู) เข้าร่วมกับทางการปราบโจรผู้ร้ายในยุควุ่นวายของบ้าน เมืองในปลายราชวงศ์ฉิน เริ่มต้นความยิ่งใหญ่ในตำแหน่งนายหมวดปราบโจรผู้ร้าย

หลิวปาง เกิดเมื่อ 256 ก่อน ค.ศ. ครอบครัวเป็นชาวนา อยู่ตำบลซื่อสุ่ย อำเภอเพ่ย ปัจจุบันอยู่มณฑลเจียงซู แม้จะอยู่บ้านนอกคอกนา แต่หลิวปังก็มีความเป็นผู้นำ เป็นหัวโจกมาตั้งแต่เด็ก มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนที่อ่อนแอกว่า ใจคอกว้างขวาง อายุ 30 ปี ได้เป็นกำนันตำบลเพ่ย

แผ่นดินจีนปกครองด้วยราชวงศ์ฉิน ราชวงศ์แรกที่สามารถรวบรวมคนหลายกลุ่มหลายแคว้น ให้มาอยู่ใต้ผู้ปกครองคนเดียว แต่ราชวงศ์ฉินก็ปกครองแผ่นดินจีนได้ไม่นาน ก็เกิดความปั่นป่วน เกิดจลาจลไปทั่วทุกพื้นที่ แม้จะเป็นราชวงศ์แรกที่ปกครองแผ่นดินจีน แต่คนจีนก็ไม่ยอมเรียกตัวเองว่าฉิน ตามชื่อราชวงศ์เพราะเห็นว่าเป็นทรราช แต่กลับเรียกตัวเองว่า ชาวฮั่นอย่างภาคภูมิใจ ตามชื่อราชวงศ์ต่อมาที่หลิวปัง ก่อตั้งขึ้น เมื่อบ้านเมืองทุกข์เข็ญปานนี้ จึงมีชาวนาสองคน เฉินเซิ่ง และอู๋-กวาง ประกาศตัวเป็นอิสระ ไม่ขึ้นต่อรัฐบาลฉินต่อไป หลังจากนั้นก็มีอีกหลายกลุ่มประกาศตัวเป็นอิสระตามมา ยิ่งกว่าการท้าไอบัคเก็ตเสียอีก

หลิวปังเป็นกำนันอยู่ถึง 18 ปี ได้รับมอบหมายให้เกณฑ์ชาวบ้านไปซ่อมแซมกำแพงเมืองจีน และเดินทางล่าช้ากว่ากำหนด ตามกฎหมายโหดของฉินแล้ว ถึงขั้นต้องโทษประหาร บ้านเมืองวิกฤตขนาดนี้จะมัวยึดถือหลักเกณฑ์ให้โง่เง่ าเศร้ากลุ้มทำไม หลิวปังจึงตัดสินใจปล่อยชาวบ้านที่เกณฑ์มา และตัวเองก็ชูแว๊บหนีเข้าป่า รวบรวมกำลังกลับมายึดบ้านเกิดอำเภอเพ่ย พร้อมกับตำแหน่งใหม่นายอำเภอ แบบไม่ต้องสอบแข่งขัน ภาค ก ภาค ข ให้ยุ่งยาก

206 ก่อน ค.ศ. หลิวปังยกกองกำลังบุกยึดเมืองหลวงเสียนหยาง ของราชวงศ์ฉินได้เป็นกลุ่มแรก การทำศึกของหลิวปังไม่ได้เป็นแบบฆ่าล้างผลาญ แต่เป็นไปแบบผูกมิตร หลิวปังสั่งทหารในบังคับบัญชาของตน ห้ามปล้นชิง ห้ามฆ่าประชาชนโดยพลการ ไม่นั้นมีโทษถึงประหาร ทั้งยังยกเลิกกฎหมายโหดของราชวงศ์ฉินทั้งหมด แถบยังออกเยี่ยมเยียนประชาชนหาคะแนนนิยมไว้ก่อน

หลิวปังยังไม่ได้ตั้งตนเป็นฮ่องเต้ เพราะสายข่าวรายงานว่า เซี่ยงอวี่ มีกองกำลังมากกว่าถึง 4 เท่า กำลังเข้ามาประชิดเมือง จางเหลียง และเซียวเหอ ที่ปรึกษาใหญ่ของหลิวปัง แนะนำให้อ่อนน้อมต่อเซี่ยงอวี่ก่อน หลิวปังทำตามข้อเสนอนั้น และเชิญให้เซี่ยงอวี่รีบมาเป็นฮ่องเต้เถอะพ่อคุณ เซี่ยงอวี่มาถึงเสียนหยางแล้ว ก็ไม่ได้ปราบดาภิเษกเป็นฮ่องเต้เหมือนกัน มัวยิ้มเอียงอายมักน้อยเอาแค่ตำแหน่งอ๋องแล้วกัน เป็น “ฌ้อปาอ๋อง” และก็ได้มอบบำเหน็จรางวัลให้กับหัวหน้ากลุ่มต่างๆ เป็นอ๋องกันอย่างถ้วนหน้า รวมแล้ว 18 อ๋อง หลิวปังได้เป็นอ๋องถิ่นกันดาร “ฮั่นจงอ๋อง” ซึ่งเสมือนโดนแช่แข็ง ให้ออกไปไกลศูนย์กลางอำนาจ เหมือนสมัยนี้ที่มักจะโดนไปเป็นผู้ตรวจราชการ

หลิวปังไปได้ไปอยู่เมืองฮั่นถิ่นกันดาร กลับเป็นผลดี หลิวปัง รีบทำนุบำรุงให้ประชาชนอยู่ดีกินดี สะสมฝึกฝนกองกำลังให้แข็งแกร่ง คนเราหนอคนเรา อำนาจวาสนามีแล้วมัวหลงระเริงความฉิบหายก็มาเยือน ฌ้อปาอ๋องก็เป็นเช่นนั้น ผู้คนต่างเอื้อมระอากับพฤติกรรมของฌ้อปาอ๋อง ขณะที่หลิวปังมีพรรคพวกมากขึ้น เจริญวันเจริญคืน เมื่อโอกาสเหมาะสม หลิวปัง จึงยกทัพมาปราบฌ้อปาอ๋อง แบบไร้กลุ่มต่อต้านมีแต่คนจะมาสมทบร่วมศึก สงครามกินเวลา 4 ปี เรียกว่าสงครามฉู่-ฮั่น จนฌ้อปาอ๋องเห็นทีสู้ไม่ได้แล้ว จึงขอปลิดชีพตัวเอง

ปี 202 ก่อน ค.ศ. หลิวปัง ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นฮ่องเต้ฮั่นเกาจู่ สถาปนาราชวงศ์ฮั่น ซึ่งชื่อราชวงศ์ “ฮั่น” นั้น ก็เอาจากชื่อเมืองฮั่น ที่ได้ไปเป็นอ๋องอยู่ก่อนหน้านั่นแหละครับมาตั้ง ไม่ต้องไปเสาะไปหาจากหมอดูหรือหลวงปู่ชื่อดังจากที่ไ หน หลิวปัง ได้ดำเนินโยบายแบบนุ่มนวล ลดการเก็บภาษีและการเกณฑ์แรงงาน ปลดปล่อยกำลังทหารและประชาชนสู่บ้านเกิดของตน พัฒนาเศรษฐกิจเรื่องปากท้องของประชาชน หลังจากประสบพบภัยสงครามมาหลายปี มีการแต่งตั้งคนสกุลหลิวเป็นอ๋องออกไปปกครองเมืองต่า งๆ คนเราเมื่อได้เป็นใหญ่แล้ว ตำแหน่งฮ่องเต้มีเพียงตำแหน่งเดียว คนอยากเป็นมีหลายคน หลิวปังก็เป็นฮ่องเต้อีกหนึ่งคน ที่ยุ่งอยู่กับการหาวิธีควบคุมหรือปราบขุนศึกผู้ช่วย ถากถางเส้นทางบัลลังก์มังกรให้อยู่หมัด

หลิวปัง...ฮั่นเกาจู่ ครองราชย์ได้ 7 ปี และสวรรคตเมื่อปี 195 ก่อน ค.ศ. ราชวงศ์ฮั่นต้องเข้าสู่ยุควิกฤตสักพักหนึ่ง เพราะหญิงจอมแสบลิเฮา อดีตเมียกำนัน ครองอำนาจในราชสำนัก ผ่านยุคนี้ไปได้ราชวงศ์ฮั่นก็เข้าสู่ยุคทองต่อเนื่อง ไปอีกหลายรัชกาล

ฉินหลัน
รับบท ลวี่จื้อ (ภรรยาหลิวปัง)
(นักแสดง ชาวจีน)

ลิเฮา สตรีผู้สร้างวิกฤตให้กับราชวงศ์ฮั่น

....ราชวงศ์ฮั่นก่อตั้งขึ้นโดยหลิวปาง อดีตกำนันบ้านนอกที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นบุคคลหมายเล ขหนึ่งที่ทุกคนต้องก้มหัวให้ หลิวปางเป็นฮ่องเต้จอมโหดอยู่ไม่น้อย ซึ่งก็คงไม่ต่างกับฮ่องเต้ชาวนาจูหยวนจางในยุคหลัง แต่ที่พิเศษกว่ายุคจูหยวนจางคือโหดคูณสอง เนื่องจากหลิวปังมีภรรยาเป็นสตรีจอมโหด นั่นคือลิเฮา แม้นางจะไม่ได้ประกาศตนว่าเป็นฮ่อง ในทางนิตินัย แต่ในพฤตินัยแล้วนับว่านางเป็นผู้ปกคองราชวงศ์ตัวจริ งหลังจากที่หลิวปางไปทัวร์สวรรค์หรือนรกก็ไม่รู้สินะ และนางมีอำนาจก่อกรรมทำเข็ญกับราชวงศ์ฮั่นนานถึง 8 ปี ลิเฮาตอนเป็นฮองเฮาอยู่นั้นก็ไม่ได้เชื่อฟังหลิวปางส ักเท่าไหร่ และนางขึ้นชื่อว่าเป็นสตรีจอมโหดผิดมนุษย์มนา หลังจากหลิวปางลาโลกไปแล้วนางก็เข้ามาควบคุมอำนาจอย่ างเต็มตัว และได้เช็คบิลกับสนมของหลิวปาง เป็นที่มาของมนุษย์หมู แม้จะมีฮ่องเต้ฮั่นฮุ่ยตี้สืบบัลลังก์ต่อมา แต่ความโหดของผู้เป็นแม่เป็นที่ประจักษ์ด้วยสายตาตัว เอง คนเป็นลูกจึงต้องยอมยกให้พระมารไม่มีดาว่าราชการตามใ จชอบ สตรีอย่างลิเฮาที่อดีตเคยเป็นเพียงเมียกำนันบ้านนอก เมื่อได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินก็ใช้อำนาจแบบเมียกำนัน เป็นเจ้าแม่อิทธิพล ถนัดแต่กฎหมู่ กฏหมายเจ้ไม่สน หาได้มีความคิดมีวิสัยทัศน์ที่จะปกคองบ้านเมืองให้เป ็นระบบระเบียบไม่ นางแต่ตั้งคนตระกูลลิ หรือหลี่ของนาง ให้มีตำแหน่งสำคัญ และกำจัดคนตระกูลหลิวออกไปแบบโหดเหี้ยมแถมด้วยเสียงห ัวเราะที่สะใจเช่นเคย นอกจากจะกำจัดคนตระกูลหลิวแล้ว นางยังกำจัดบุคคลสำคัญที่ร่วมฝ่าฟันและก่อตั้งราชวงศ ์ฮั่นกับหลิวปางด้วย ก่อนที่นางจะไปทัวร์นรก นางยังได้แต่งตั้งฮ่องเต้หุ่นทิ้งถวน และนางยังได้ฝากรอยร้าวระหว่างตระกูลหลิวกับตระกูลหล ี่ไว้อีกด้วย.....
-......ทันทีหลังจากที่ลมหายใจของนางหลุดออกจากร่างกา ยแล้ว โจวโป๋หนึ่งในขุนพลคนสำคัญผู้ร่วมสร้างราชวงศ์ฮั่นได ้ทำรัฐประหาร ในนามคณะอะไรก็แล้วแต่ พยาธิตระกูลหลี่ที่เคยครองอำนาจบาตรใหญ่ คอรัปชั่นกันอย่างสวาปาม ในสมัยเมียกำนันเป็นใหญ่ถูกกำจัดยกใหญ่ พร้อมปลดฮ่องเต้หุ่นที่ดูท่าแล้วไม่ได้เรื่อง เชิญฮ่องเต้องค์ใหม่นามว่าฮั่นเหวินตี้ ซึ่งเป็นฮ่องเต้ผู้เปิดศักราชความรุ่งเรืองให้กับราช วงศ์ฮั่น หลังจากที่ราชวงศ์ฮั่นต้องประสบวิกฤตเพราะหญิงบ้าอำน าจอย่างลิเฮามาหลายปี.....

ฮั่นเหวินตี้ (หลิวเหิง) โอรสของหลิวปัง

เมื่อเอ่ยถึงราชวงศ์ฮั่นตะวันตก หลายคนมักนึกถึงฮั่นเกาจู่ (หลิวปัง) หรือไม่ก็ฮั่นอู่ตี้ (หลิวเช่อ)
ซึ่งประกอบวีรกรรมเอาไว้มากมาย บุคคลแรกคือผู้ฟันฝ่าอุปสรรคจนก่อตั้งราชวงศ์
ส่วนบุคคลหลังคือผู้เสริมสร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้ ราชวงศ์มากที่สุด
แต่หลายคนมักละเลยฮ่องเต้ผู้หนึ่งซึ่งได้วางรากฐานแล ะระงับวิกฤติการณ์สิ้นราชวงศ์เอาไว้
เขาผู้นั้นคือฮั่นเหวินตี้

ย้อนไปถึงช่วงหลังฮั่นเกาจู่สวรรคต ในปี 195 ก่อนค.ศ. พระนางลิ (หลี่)ฮองเฮา ก็ได้เลื่อนยศเป็นหลี่ไทเฮา
และกุมอำนาจสูงสุดจากฮั่นฮุ่ยตี้โอรสเพียงหนึ่งเดียว ของพระนาง
ซึ่งค่อนข้างเป็นคนรักความสงบและมีสุขภาพอ่อนแอ
จากนั้นหลี่ไทเฮาก็ได้ไล่เช็คบิลกับบรรดาสนมขององค์เ กาจู่รวมไปถึงโอรสของสนมเหล่านั้น
แม้ว่าฮ่องเต้จะพยายามปกป้องอนุชาต่างมารดาของพระองค ์ก็ตาม หนึ่งในเหตุอื้อฉาวที่สุดก็คือ “มนุษย์หมู”
ซึ่งทำให้ฮั่นฮุ่ยตี้หมดอาลัยตายอยาก ยกอำนาจให้ไทเฮาและหันตัวเองไปหาสุรา
จนไม่นานฮั่นฮุ่ยตี้ก็เสด็จตามฮั่นเกาจู่ไปอีก หลี่ไทเฮาจึงตั้งฮ่องเต้หุ่นเชิดถึง 2
องค์ก่อนที่จะสิ้นพระชนม์ ซึ่งยุคสมัยการครองอำนาจของหลี่ไทเฮานั้น คนแซ่หลิวนับว่าถูกล้างบางไปมาก
ส่วนคนแซ่หลี่กลับได้ขึ้นมานั่งตำแหน่งสำคัญต่างๆ รวมไปถึงตำแหน่งอ๋องด้วย

หลิวเหิงโอรสของหลิวปัง รอดพ้นคมดาบของหลี่ไทเฮาไปได้ เพราะสนมโป๋
ซึ่งเป็นพระมารดาไม่เป็นสนมที่องค์เกาจู่ทรงโปรดมากน ัก และในปี 196 ก่อนค.ศ.
องค์เกาจู่ได้โปรดให้หลิวเหิง ไปเป็นอ๋องครองเมืองไตย์ (ซึ่งชายแดนสุดๆ
และเล็กที่สุดในบรรดาองค์ชายต่างๆ) แต่นั่นก็กลับเป็นผลดีต่อชีวิตของหลิวเหิงเอง
มีครั้งหนึ่งที่หลี่ไทเฮาลองใจให้หลิวเหิงไปครองเมือ งจ้าวซึ่งใหญ่กว่าเดิม
แต่หลิวเหิงรีบปฏิเสธว่าสุขภาพไม่ค่อยดี อยากสูดอากาศชนบทมากกว่า เลยรอดไป ต่อมาในปี 180 ก่อนค.ศ.
พระนางหลี่ไทเฮาสิ้นพระชนม์
โจวป๋อซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดและเป็นหนึ่งในผ ู้ร่วมก่อตั้งราชวงศ์ที่ยังมีชีวิตอยู่
จึงทำการยึดอำนาจจากตระกูลหลี่ที่กำลังยุ่งกับพิธีศพ ไทเฮา และได้ถอนรากคนตระกูลหลี่ไปหลายร้อยชีวิต
ก่อนที่จะไปอัญเชิญโอรสขององค์เกาจู่ที่ยังเหลือรอดม านั่งบัลลังก์ ดังนั้นหวยจึงไปออกที่หลิวเหิง
แรกเริ่มนั้นหลิวเหิงก็ไม่ค่อยไว้ใจคณะของโจวป๋อเท่า ไหร่
แต่โจวป๋อก็พยายามแสดงความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง ภายหลังขึ้นครองราชย์แล้วหลิวเหิง
ได้มีพระราชสมัญญาว่าพระเจ้าฮั่นเซี่ยวเหวินตี้ เรียกสั้นๆว่า ฮั่นเหวินตี้
และบ้านเมืองก็เข้าสู่ความสงบสุชอีกครั้ง

ฮั่นเหวินตี้ ได้เปิดศักราชใหม่ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของยุคทองราชวง ศ์ฮั่น
หลังจากที่ฮั่นหวิดสิ้นราชวงศ์โดยน้ำมือของหลี่ไทเฮา
ฮ่องเต้องค์ใหม่นี้เป็นผู้มีสายพระเนตรยาวไกลและพระท ัยหนักแน่น
ทรงรู้จักการบริหารและเลือกใช้บุคลากรเป็นอย่างดี
ด้วยความที่เคยมีชีวิตยากลำบากมาก่อนและได้เห็นชีวิต ของราษฎรตามชายแดนที่ลำบากแร้นแค้น
เสาหลักค้ำแผ่นดินในช่วงเริ่มต้นรัชกาลนี้ก็คือบรรดา แม่ทัพนายกองสมัยร่วมก่อตั้งราชวงศ์ อันได้แก่
โจวป๋อ เฉินผิง กวนยิง จางชาง ซินถูเจีย ซึ่งเป็นพวกถนัดบู๊มากกว่าบุ๋น
ฮั่นเหวินตี้จึงพยายามถ่ายโอนอำนาจใหม่มาให้คนหนุ่มไ ฟแรงที่มีความรู้ความสามารถด้านการบริหารอย่างแท้จริ
ง ซึ่งก็ได้มนตรีใหม่ๆอย่างเช่น หวูกง เจียอี้ เฉาชั่ว เป็นต้น

แผ่นดินจีนไม่เคยสงบเลยนับจากสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ที่ปก ครองเผด็จการสุดๆ
ต่อมาก็ฉินเอ้อซื่อที่ขูดรีดยิ่งกว่าองค์พระบิดา ช่วงฌ้อปาอ๋องก็ปกครองด้วยเผด็จการแบบจิ๋นซี
ถัดมาฮั่นเกาจู่ก็ต้องยุ่งกับการขจัดหอกข้างแคร่ต่าง ๆ ตลอด 12ปีของรัชกาล
ยิ่งสมัยการใช้ความโหด...มของหลี่ไทเฮา ฮั่นเหวินตี้ต้องมาแบกรับภาระต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความอดอยาก ความยากจนของราษฎร
ปัญหาความสงบภายในซึ่งไม่อาจรู้เลยว่าคณะรัฐประหารจะ ก่อการซ้ำอีกไหม
ทั้งปัญหาการรุกรานจากอนารยชนโดยเฉพาะพวกซ่งหนู บทเรียนจากการใช้พระเดชมาปกครองจนราษฎรเดือดร้อนตามๆ กัน
ทำให้ฮั่นเหวินตี้หันมาใช้พระคุณปกครองมากขึ้น
โดยทำการอภัยโทษแก่ผู้คนทั้งหลายเพื่อสร้างความสงบสุ ขและความสามัคคีแก่คนในชาติ รวมไปถึงตระกูลหลี่ด้วย
ทำให้แซ่หลี่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน พระองค์แก้ไขปัญหาการเข่นฆ่าโดยคนแซ่เดียวกัน
โดยการตั้งรัชทายาทตั้งแต่เสวยราชย์ได้เพียงสองเดือน ทรงตั้งหลิวฉี
โอรสองค์ที่สองที่เกิดกับโต้วฮูหยินสมัยเป็นไตย์อ๋อง และตั้งให้เป็นโต้วฮองเฮา
ปัญหาเรื่องพระญาติที่ทำตัวเป็นพยาธิ ก็แก้โดยไม่ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ ยกเว้นว่ามีความสามารถจริงๆ
และแก้ปัญหาการสร้างอิทธิพลของอ๋องต่างๆ โดยการให้ย้ายถิ่นที่อยู่บ่อยๆ ไม่ให้ปักหลักที่ใดที่หนึ่งนานๆ
อีกทั้งแบ่งเมืองใหญ่ให้กลายเป็นเมืองเล็กๆ เช่น เมืองฉีก็ถูแบ่งเป็นเมืองเล็กๆหกเมือง เป็นต้น

ด้านการปกครอง ฮั่นเหวินตี้ยังทรงยกเลิกการลงโทษโดยการทารุณกรรมร่า งกาย
และการลงโทษเครือญาติของผู้ต้องโทษ รวมทั้งราชทัณฑ์หลายอย่างอาทิเช่น การสักหน้าผาก เฉือนจมูก
ตัดข้อเท้า แต่หันไปใช้การลงโทษทีเบาลงมาโดยการให้ไปทำงานหนัก และโบยตีให้หลาบจำแทน
ประวัติศาสตร์บันทึกเอาไว้ว่ารัชสมัยของฮั่นเหวินตี้ ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ตามคุกต่างๆมีนักโทษน้อยมาก
เพราะมีการให้ใช้การจ่ายค่าปรับแทนการขังคุก ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาพระคลังว่างเปล่าด้วย
อีกทั้งยังยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (ผู้ใดตำหนิหรือสร้างข่าวลือ ต้องโทษตายสถานเดียว)
เพราะทรงเห็นว่า “ตราบใดที่ยังมีกฎหมายนี้ ผู้ใดเล่าจะอาจหาญพูดออกมา หากแม้นองค์จักรพรรดิเองกระทำผิด
เมื่อไม่มีคำวิพากษ์วิจารณ์ จะรู้ว่าผิดได้อย่างไร”

ด้านเศรษฐกิจ ในปี 178 ก่อนค.ศ. เจียอี้
ได้ถวายฎีกาทูลเสนอให้พัฒนาผลผลิตทางการเกษตรและดำเน ินนโยบายเศรษฐกิจแบบเข้มงวด
องค์เหวินตี้จึงทรงโปรดให้ปฏิบัติตามแผนรัดเข็มขัด และเร่งพัฒนาประเทศ
โดยการลดภาษีจากหนึ่งต่อสิบห้าส่วน(ร้อยละ6.6) จากสมัยฮั่นเกาจู่ มาเป็นหนึ่งต่อสามสิบส่วน(ร้อยละ3)
และละเว้นภาษีสำหรับการเกษตรเป็นเวลาสิบสองปี มาตรการเหล่านี้ได้ช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจพัฒนามากข ึ้น
นอกจากนี้พระองค์ยังทรงโปรดเสด็จไปทำนาร่วมกับประชาช นอย่างใกล้ชิด
ส่วนโต้วฮองเฮาก็เสด็จไปร่วมปลูกหม่อนเลี้ยงไหมสอนแม ่บ้านให้รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

ในด้านการป้องกันประเทศ
กำหนดให้ครอบครัวใดที่เลี้ยงม้าไว้สามตัวจะได้รับการ ยกเว้นภาษีและไม่ถูกเกณฑ์ไปใช้แรงงาน
โดยมีข้อแม้ว่าถ้าเกิดสงคราม ครอบครัวนั้นก็ต้องสละม้าไปใช้ในสงคราม
จำนวนม้าสมัยนั้นจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนด้านชายแดน
ก็แก้ปัญหาโดยการย้ายบรรดานักโทษประหารไปประจำที่นั่ น และได้ให้เครื่องมือทำกิน
อดีตนักโทษหลายคนจึงได้กลายเป็นนักพัฒนาชายแดน พร้อมตั้งตนในดินแดนที่ไม่มีใครรังเกียจ
ส่วนพวกที่หันไปเป็นทหารรักษาชายแดนก็มีโอกาสแก้ตัวใ นการสร้างความชอบกลับมาสู่สังคมเยี่ยงวีรบุรุษ
ลูกหลานก็พลอยได้เกียรติในฐานะวีรบุรุษ ไม่ใช่ในฐานะนักโทษ
อีกประการที่สำคัญก็คือบรรดาญาติๆก็มักเห็นใจส่งเครื ่องอุปโภคบริโภคมาให้พวกที่อยู่ชายแดน
เป็นการช่วยผ่อนภาระของทางการได้

ด้านความประพฤติส่วนพระองค์ ทรงเป็นผู้สมถะอย่างแท้จริง ฉลองพระองค์เป็นผ้าไหมสีดำสนิท
ไม่มีการปักเย็บลวดลายใดๆ ผ้าม่านของพระสนมคนโปรดก็เป็นเพียงผ้าสีพื้นๆไม่มีลา ย
มีตำนานเล่าว่ามีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งรวมเงินกันซื้อม้า ชั้นเยี่ยมวิ่งได้พันลี้ต่อวันไปถวาย พระองค์ตรัสว่า
“อาชาวิ่งได้พันลี้จะมีประโยชน์อย่างไร ในเมื่อฮ่องเต้เวลาเสด็จไปที่ไหนก็ต้องมีขบวนพยุหยาต ราจำนวนมาก
ทำให้เราเดินทางได้อย่างมากเพียงสามสิบลี้ในหนึ่งวัน ” จากนั้นก็รับสั่งให้พวกเขานำม้ากลับไป
พร้อมมอบเงินให้เป็นค่าเดินทาง และสั่งห้ามไม่ให้ขุนนาง หรือประชาชนนำของขวัญมาถวาย
สำหรับศาลเจ้าประจำพระองค์ก็สร้างไว้ทางตอนใต้ของฉาง อัน ชื่อว่า “กู้เฉิน”
แปลว่าแค่เหลียวมองก็เสร็จแล้ว
หมายความว่าเรียบง่ายไม่มีการก่อสร้างอย่างใหญ่โตเหม ือนศาลเจ้ารัชกาลอื่นๆ

ต่อมาในปี 157 ก่อนค.ศ. องค์เหวินตี้ทรงประชวรหนัก จึงมีพระบรมราชโองการว่า ในงานพิธีศพพระองค์
ห้ามมิให้ใช้รถม้าและกองเกียรติยศเลย และสายคาดสีขาวสำหรับไว้อาลัยก็มิให้กว้างเกินสามนิ้ ว
การจัดงานทำเพียงสามวันก็พอแล้วให้ทุกคนปลดทุกข์ทันท ี และไม่ห้ามประชาชนจัดงานมงคลเหมือนในสมัยอื่นๆ
หลุมพระศพก็ให้อิงเนินเขาธรรมชาติ เพื่อมิให้ต้องมาเกณฑ์คนขุดเนินให้เปลืองแรงงาน
นางสนมกำนัลขั้นฮูหยินลงไป ใครสมัครใจกลับไปอยู่บ้านบิดามารดาก็ได้ ไม่ต้องครองตัวเป็นม่ายเพื่อพระองค์

ยามที่พระองค์ประชวรหนักอยู่บนแท่นบรรทม รัชทายาทหลิวฉี ตรัสถามว่า “ถ้าเสด็จพ่อจากเราไป
ต่อไปเราจะทำอย่างไร” องค์เหวินตี้ทรงตอบว่า “หากเกิดกบฏขึ้น เจ้าจงแต่งตั้งโจวหย่าฟุ(ลูกชายโจวป๋อ)
เป็นแม่ทัพ แล้วเจ้าจักวางใจได้” หลังจากนั้นไม่กี่วัน พระองค์ก็เสด็จสวรรคต
ในขณะมีพระชนมายุเพียงสี่สิบห้าชันษา ครองราชย์ได้ยี่สิบสามปี ในรัชสมัยของพระองค์
ประชาชนทั่วประเทศเริ่มมีความมั่นใจ ศรัทธา
และยอมรับว่าชีวิตของพวกเขาเริ่มมีความหวังมากขึ้นภา ยใต้การปกครองของราชวงศ์ฮั่น ทำให้การเรียกตนเองว่า
ชาวฮั่น ก็เกิดจากในรัชกาลนี้นั่นเอง

หยางลี่ซิน
รับบท เซี่ยวเหอ (ที่ปรึกษาหลิวปัง ภายหลังได้เป็นอัครเสนาบดีของราชวงศ์ฮั่น)
(นักแสดง ชาวจีน)

เซี่ยวเหอ (Xiao He) เป็นอัครมหาเสนาบดีในรัชสมัยจักรพรรดิฮั่นเกาจู่ - จักรพรรดิฮั่นฮุ่ยตี้ เป็นผู้ช่วยของเล่าปังคู่กับเตียวเหลียง ตั้งแต่ปลายราชวงศ์ฉิน เมื่อเล่าปังขึ้นครองราชย์แล้ว ทรงแต่งตั้งเซียวเหอเป็นอัครมหาเสนาบดี มีผลงานอันโดดเด่นในด้านการบริหารและพัฒนาบ้านเมือง

ฮั่วชิง
รับบท จางเหลียง หรือ เตียวเหลียง (กุนซือคนสำคัญของหลิวปัง)
(นักแสดง ชาวจีน)

เตียวเหลียง หรือ จางเหลียง (Zhang Liang) เป็นกุนซือคนสำคัญของ เล่าปัง หรือ จักรพรรดิฮั่นเกาจู่ ปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก เขาเคยวางแผนลอบสังหารจิ๋นซีฮ่องเต้ เพื่อแก้แค้นให้บ้านเกิดแต่ไม่สำเร็จ ต่อมาได้ช่วยให้เล่าปังเอาชนะเซียงอวี่ (ฌ้อป้าอ๋อง) ได้สำเร็จ

หันซิ่น หรือ ฮั่นสิน (Han Xin) เป็นแม่ทัพคู่พระทัยของจักรพรรดิ ฮั่นเกาจู่ (เล่าปัง) เดิมเป็นทหารชั้นผู้น้อย ในกองทัพฮั่น ในระหว่างสงครามฉี-ฮั่น ต่อมาได้ช่วยให้เล่าปัง เอาชนะเซียงอวี่ในสงครามเมืองไก่เซี่ย และรวมแผ่นดินได้สำเร็จ แต่สุดท้ายเล่าปังเกิดความหวาดระแวงในความสามารถของห ันซิ่น จึงได้สังหารขุนพลที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงใหล่กันเอง

“เกิดก็เพราะเซียวเหอ ตายก็เพราะเซียวเหอ” สำนวนจีนที่สื่อถึงความสัมพันธ์ของแม่ทัพหานซิ่น กับอัครมหาเสนาบดีเซียวเหอ เซียวเหอไปพบตัวหานซิ่น ตอนกำลังจะถูกตัดคอ ตอนหานซิ่นหนีจากหลิวปังไป เซียวเหอก็ลงทุนไปตามกลับมาด้วยตัวเอง และสุดท้ายก็เซียวเหอนี่แหละ ที่เชิญหานซิ่น ให้ไปหาลิเฮาหญิงจอมแสบ จนถูกตัดคอ ไม่รู้จะบอกว่าเป็นคู่บุญหรือคู่กรรมดี

หานซิ่น ชีวิตขุนพลใหญ่ ผู้ที่ถูกยกย่องเป็น “จอมยุทธ์-ผู้ดำเนินการศึกดังหนึ่งเทพยดา” คนนี้ ช่างน่าหดหู่นะครับ ต้นร้ายปลายเลวต้องพูดกันอย่างนี้เลย หานซิ่นเกิดในครอบครัวอยากจน จนถึงขั้นต้องใช้ชีวิตเยี่ยงขอทาน ครั้งหนึ่งเคยพึ่งข้าวจากหญิงชรา แล้วบอกว่าได้ดิบได้ดีจะมาทดแทนบุญคุณนะยาย หญิงชราถึงขั้นตอกหน้าหงายเงิบ น้ำหน้าอย่างลื้อเหรอจะมาตอบแทนอั้ว หานซิ่นได้ไปสมัครเป็นทหารเลว กับกองทัพเซี่ยงเหลียง เมื่อปี 209 ก่อน ค.ศ.

เมื่อหลิวปัง ยึดเมืองหลวงราชวงศ์ฉินได้ แล้วเชิญเซี่ยงอวี่มาครองบัลลังก์ เซี่ยงอวี่แต่งตั้งให้หลิวปังไปเป็นอ๋องเมืองฮั่น หานซิ่นก็เลยเป็นของแถมที่เซี่ยงอวี่มอบให้กับหลิวปั ง เอาไปไว้ใช้ช่วยบุกเบิกพื้นที่ทำมาหากินนะจ๊ะ หลิวปังเองก็ตาไม่ถึง ไม่เห็นคุณค่าของหานซิ่นแต่อย่างใด หานซิ่นจึงต้องมาเป็นทหารจ่ายเสบียง และตอนกำลังจะถูกประหาร เนื่องจากส่งเสบียงล่าช้านั้น เซียวเหอก็มาเจอใส่พอดี เซียวเหอเป็นคนตาถึง จึงได้นำตัวไปพบหลิวปังตอนปั่นงานหัวยุ่ง จึงได้แต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหมู่คุมกองเสบียง หานซิ่นน้อยใจในวาสนา เลยตัดสินใจหนี เซียวเหอใส่เกียร์หมารีบตามตัวกลับมา จนหลิวปังต้องถามว่าหานซิ่นสำคัญขนาดไหน เซียวเหอถึงต้องไปตามกลับมาด้วยตนเอง

เซียวเหอบอกหลิวปังว่า ถ้าอยากเป็นฮ่องเต้ ให้แต่งตั้งหานซิ่นเป็นแม่ทัพโดยด่วน หลังจากหานซิ่นได้เป็นแม่ทัพใหญ่แล้ว ได้ปฎิรูปกองทัพฮั่นใหม่ สับเปลี่ยนโยกย้ายนายทหารไปทำหน้าที่ตามถนัด ปี 206 หานซิ่นได้เสนอแผนศึก “ส่งเสียงตีกลองทางตะวันออก พุ่งหัวหอกใส่ทางตะวันตก” แก่หลิวปัง อันเป็นกลศึกที่โด่งดังในประวัติศาสตร์ ด้วยการหลอกล่อให้ฝ่ายตรงข้ามไปอีกทาง แล้วเข้าตีอีกทาง

หานซิ่นเป็นขุนศึกที่เก่งกาจมากครับ สามารถปราบเมืองต่างๆ ได้อย่างเฉียบแหลม ใช้กลยุทธ์ทำศึกต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่ง ที่หลิวปังได้ครองแผ่นดิน บอกได้คำเดียวถ้าไม่มีหานซิ่น คงเป็นฝันกลางวัน มโนไปเอง เพราะหานซิ่นคนนี้แหละครับ ที่ยกทัพมาช่วยขณะที่หลิวปัง ขณะกำลังฟัดกำลังเหวี่ยงอยู่กับเซี่ยงอวี่ ไม่รู้ผลจะเป็นลูกผีลูกคน และสุดท้ายคนที่ต้องปลิดชีพอย่างอนาถก็เป็นเซี่ยงอวี ่ หลิวปังจึงมีโอกาสได้เป็นฮ่องเต้ หลิวปังเองก่อนตาย ก็ยอมรับเหมือนกันว่า ถ้าไม่มีหานซิ่น คงไม่มีโอกาสได้เป็นฮ่องเต้

เมื่อหลิวปังได้เป็นฮ่องเต้แล้ว โรคอย่างหนึ่งที่ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งราชวงศ์เป็นกันก็ค ือ ขี้ระแวง จนทำให้ขุนศึกผู้ภักดีต่างตายไม่สวยม้วยไม่งาม และหานซิ่นก็เป็นหนึ่งในนั้น ปี 196 ก่อน ค.ศ. หลิวปัง ออกปราบกบฏด้วยตนเอง ให้ลิเฮาเมียจอมแสบ รักษาราชการแทน ลิเฮาจึงจัดการเชือดหานซิ่นเสียเลย

เหอยุ่นตง (ปีเตอร์ โฮ)
รับบท เซี่ยงอวี่
(นักแสดง / นักร้อง / นายแบบ / โปรดิวเซอร์ เกิดที่อเมริกา เติบโตที่ไต้หวัน และแคนาดา)

เซียงอวี่ (Xiang Yu) หรือ ฌ้อปาอ๋อง หรือ ซีฉู่ป้าหวัง (Xฤซ chว” Bร wรก ng) เป็น ขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่ในยุคปลายราชวงศ์ฉินที่มีชื่อเสียง ในประวัติศาสตร์จีน เป็นคู่ปรับคนสำคัญของเล่าปัง หรือจักรพรรดิฮั่นเกาจู ปฐมจักรพรรดิจีนราชวงศ์ฮั่น มีฝีมือด้านการรบ แต่ขาดความสามารถในด้านการปกครอง สุดท้ายจึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

เซี่ยงหยี่ Xiang Yu ถือกำเนิดขึ้นใน ปีที่ 232 ก่อน ค.ศ. ตระกูลของเขาเกี่ยวเนื่องกับเชื้อพระวงศ์ของแคว้นฉู่
บรรพชนหลายรุ่นเคยรับราชการในตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ จนกระทั่งเมื่อแคว้นฉู่ล่มสลาย แม่ทัพใหญ่เซี่ยงเยี่ยน
ปู่ของเขาฆ่าตัวตายหลังจากรบแพ้กองทัพฉิน คนอื่นๆ ในตระกูลบ้างตาย บ้างก็หายสาปสูญ สำหรับเซี่ยงหยี่
เองนั้น กำพร้าบิดามารดาโดยได้เซี่ยงเหลียงผู้เป็นอาเลี้ยงดู มาจนเติบใหญ่

หลี่อีเสี่ยว
รับบท หยูจี (ภรรยาเซี่ยงอวี่)
(นักแสดง ชาวจีน)

หยูจี (Yu Ji) เป็น นางสนมของฌ้อปาอ๋อง เป็นผู้หญิงที่มีรูปโฉมงดงามมาก นางเป็นผู้ที่อยู่เคียงข้างเซียงอวี่จนวาระสุดท้าย กลายเป็นตำนานแห่งความรักระหว่างสงคราม เป็นที่เล่าขานกันว่าก่อนที่ฌ้อปาอ๋องจะตายนั้น เขาได้เข้าไปร่ำลานางหยูจี พร้อมกับร้องเพลงเพื่อร่ำลา ชื่อว่า "เพลงแห่งไก่เซี่ย" (Song of Gaixia)

แม้นว่าหวังเจาจวินจะเปนหนึ่งในสี่ยอดหญิงงาม แต่ชาวจีนฮกเกี้ยนกลับกลับยกย่องยอดหญิงงามอีกคนนึงแ ทนที่หวังเจาจวินในทำเนียบสี่หญิงงาม โดยเธอมีนามว่า "หยูเมี่ยวหยี" หรือ "หยูจี" ที่เรียกกันในสำเนียงแต้จิ๋วว่า "หงอกี่" ครับ

หยูจี นั้นเปนคนที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์อีกผู้หนึ่ง โดยเธอมีศักดิ์เปนภรรยาเอกของจอมคนอหังการแห่งยุค "ฉู่ป้าหวาง" (ฌ้อปาอ๋อง - ราชันย์ผู้พิชิตแห่งฉู่) - เซี่ยงอวี่ - ผู้โค่นล้มราชวงศ์ฉินผู้นั้นนั่นเองครับ

สำหรับเรื่องราวความเปนมาของนางนั้นไม่ปรากฏแน่ชัดว่ าเปนใครมาจากไหน เรารู้แต่เพียงว่านางเปนหญิงที่งดงามมาก พร้อมด้วยรูปทรัพย์ ปัญญาทรัพย์ และฐานะทรัพย์ เพราะว่านางเปนลูกหลานของตระกูลใหญ่ในหัวเมืองเวลานั ้น จึงทำให้นางได้มาแต่งงานกับเซี่ยงอวี่ และกลายมาเปนคู่รักที่ใครๆก็ล้วนต้องอิจฉาตาร้อนวาบๆ

4 ยอดสาวงามแดนมังกร ไซซี หวังเจาจวิน เตียวเสี้ยน หยางกุ้ยเฟย

ซุนไห่อิง
รับบท ฟ่านเจิง (ที่ปรึกษาของเซี่ยงอวี่)
(นักแสดง ชาวจีน)

ฟานเจิ้ง (Fan Zeng ) ที่ปรึกษาคนสำคัญของเซี่ยงอวี่ ที่เซี่ยงอวี่เคารพนับถือเสมือนเป็น บิดาบุญธรรม ฟานเจิงเคยรับใช้เซียงเหลียง บิดาของเซียงอวี่มาก่อน เขาเป็นผู้แนะนำให้เซียงอวี่ลอบสังหารเล่าปัง ในงานเลี้ยงหงเหมิน

กระทู้: [จีน]-(Kings.War)-(E01-E80.END)--HDTV.H.264.720p. [From TV]-[พากย์ไทย]

เครื่องมือกระทู้

ค้นหาในกระทู้นี้

ตัวเลือกการแสดงผล

[จีน]-(Kings.War)-(E01-E80.END)--HDTV.H.264.720p. [From TV]-[พากย์ไทย]

ข้อมูลกระทู้

Users Browsing this Thread

กฎการโพสต์ข้อความ