Release date: February 1, 1980 (USA)
Directed by: John Carpenter
Produced by: Debra Hill
Written by: John Carpenter, Debra Hill
Starring: Adrienne Barbeau, Jamie Lee Curtis, John Houseman, Janet Leigh, Hal Holbrook
Music by: John Carpenter
Cinematography by: Dean Cundey
Editing by: Charles Bornstein, Tommy Lee Wallace
Genre: Horror
Running time: 01:29:34
IMDb rating: 6.8/10 (30,111 votes)
"....ลองว่าเป็นเมื่อก่อนตอนต้นยุค 80 ผู้กำกับที่ได้ชื่อว่านำความสยองมาสู่ผู้ชมเยอะไม่แพ ้ใครก็หนีไม่พ้น John Carpenter
ลุง John แกเป็นคนสร้างฆาตกรโหดโรคจิตอมตะ ไมเคิล ไมเยอร์สแห่ง Halloween แล้วก็เอาปีศาจจากฟากฟ้าแห่ง The Thing From Another World มารีเมกใหม่ในชื่อ The Thing ซึ่งฉบับที่แกทำก็สยองพองขนซะจนคนขวัญอ่อนนอนไม่หลับ เพราะภาคต้นฉบับเขาแค่เป็นตัวประหลาดจากนอกโลก แต่มาฉบับนี้ลุง John จัดการเพิ่มดีกรีความแหวะอีกหลายขีดขั้น
แล้วผมยังยกให้แก่เป็นจอมสร้างสรรค์ครับ สร้างอะไรแปลกๆ มาดึงดูดคนดูได้ตลอด โดยเฉพาะความสยองและชั่วร้ายในรูปลักษณ์ใหม่ๆ อย่างใน They Live หรือ Prince of Darkness
และเรื่องนี้ด้วยครับ แกเอาหมอกมาเป็นตัวร้าย
เหตุเกิดที่เมืองชายทะเลชื่อแอนโทนิโอ้ เบย์ ในวันครบรอบ 100 ปี เมื่อมีหมอกลึกลับค่อยๆ คืบคลานเข้ามายังในเมือง แล้วมาไม่เปล่า ยังพกเอาความสยองแบบเต็มที่ เจ้าหมอกที่ว่านี่หากเฉียดกรายเข้าไปที่ใดก็ต้องเกิด เหตุนองเลือด คนที่สัมผัสโดนหมอกก็จะถูกเชือดจนไม่เหลือดี
ชาวเมืองที่ไหวตัวทันก็ต้องหาทางเอาตัวรอดจากเหตุการ ณ์หมอกมรณะไล่ฆ่าคนตาม ระเบียบครับ พร้อมทั้งหาความจริงว่าไอ้หมอกบ้านี่มาจากไหนต้องการ อะไร และสิ่งไหนที่หยุดมันได้
ลุง John เป็นคนทำหนังเก่งคนหนึ่งนะครับ แม้จะไม่ได้โกยเงินมากมายทุกเรื่อง แต่ก็มีอะไรให้ดู ให้ตื่นเต้นไปกับสิ่งแปลกๆ ที่แกนำเสนอ แม้ระยะหลังๆ ที่แกทำน่าดูตอนแรกจะลงเอยด้วยการจบที่ง่ายไปหน่อยก็ เถอะ (จนคุณอาตีตั๋วเคยจำกัดความไว้ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ แต่เหลาลงไปดันเป็นบ้องกัญชา")
แรงบันดาลใจสำคัญในการทำหนังเรื่องนี้ของลุง John มีสองประการครับ อย่างแรกคือแกติดใจชอบหนังสยองอังกฤษเรื่อง The Trollenberg Terror หรืออีกชื่อคือ The Crawling Eye หนังปี 1958 ที่มีเนื้อหาว่าด้วยเอเลี่ยนพันธุ์ดุที่แฝงตัวอยู่ใน ก้อนเมฆคอยไล่เข่นฆ่า ประชาชี พอลุง John ได้ดูก็เริ่มมีความคิดอยากสร้างหนังสยองที่มีปีศาจอย ู่ในเงาเมฆหมอกบ้าง แต่ก็อยู่แค่ในระดับความคิด
จนมันมาตกผลึกตอนที่แกกับ Debra Hill คู่หูผู้อำนวยการสร้างหนัง เดินทางไปโปรโมตหนัง Assault on Precinct 13 ที่อังกฤษ แล้วบ่ายแก่ๆ ของวันหนึ่งเขากับ Hill ก็ไปเที่ยวชมสโตนเฮนจ์ ประจวบเหมาะครับตอนที่เขาไป มีหมอกลงทำให้ทัศนียภาพดูแปลกตาไปอีกแบบ กับหลายคนอาจจะเซ็งที่เห็นสโตนเฮนจ์ไม่ชัด แต่สำหรับลุง John แล้ว ความคิดเรื่องการอยากสร้างปีศาจในเมฆหมอกได้กลับมาใน หัวอีกครั้ง
ตอนนั้นไอเดียแกกระฉูดจริงๆ ครับ เห็นหมอกก็สร้างเรื่องได้ แน่จริงๆ เชียว
จากนั้นเขาก็ถ่ายทำโดยใช้เวลาแค่เดือนเดียวเอง ทุนสร้างอยู่ที่หนึ่งล้านเหรียญ ก็หมายมั่นทำทุนให้ไม่บานนั่นแหละครับ เลยถ้าง่ายๆ แต่พิถีพิถัน จนดูระดับภาพออกมาเกรดเอเลยนะครับ ไม่ใคร่จะรู้สึกว่าทุนต่ำเท่าไหร่ แบบนี้เขาเรียกทำออกมาดีน่ะเน้อะ
จริง โดยเนื้อเรื่องนี่ไม่มีอะไรเยอะเลยนะครับ แค่หมอกมาไล่ฆ่าคน แต่ที่ทำให้น่าติดตามคือลุง John สร้างหมอกให้เป็นตัวร้ายได้จริงๆ แค่มันโผล่มานี่ก็หายใจไม่ทั่วท้องแล้วครับ เพราะถ้าไปใกล้มันล่ะรับรองว่าไม่รอดแน่ๆ
การเดินเรื่องก็ไวดีครับ ตอนท้ายก็มีลุ้นกันไป จบลงก็สาใจคนดูที่ชอบหนังสยองแบบนี้
ดาราในเรื่องก็มีชื่อพอตัว ตั้งแต่ Adrienne Barbeau ในบท สตีวี่ เวย์น ดีเจรายการวิทยุของเมืองที่ต้องเจอกับหมอกบ้านี่ตามล ำพัง, Tom Atkins เป็นนิค แคสเซิล ชายหนุ่มที่ไปรับสาวนักโบกชื่ออลิซาเบธ ซอลลี่ย์ (Jamie Lee Curtis) ขึ้นรถระหว่างทางกลับบ้าน ไปๆ มาๆ เขากับเธอก็เลยต้องมาเผชิญกับหมอกนรกร่วมกัน ซึ่ง Curtis ก็คือนางเอกในเรื่อง Halloween งานชิ้นก่อนของลุงแกนั่นเอง มาเรื่องนี้ความเด่นไม่เยอะครับ แต่สวยใช้ได้ (เกี่ยวกันไหมเนี่ย) ขณะเดียวกันบทนิคนั่น ตอนแรกลุง John ลองติดต่อ Kurt Russell ให้มาเล่น แต่พี่ Kurt แกก็ไม่ว่างครับ แต่ต่อมาเขาก็ได้มาร่วมงานกันใน Escape From New York แล้วก็ The Thing ตามด้วย Big Trouble in Little China เรียกว่าคู่บุญกันไประยะหนึ่งเลยล่ะ
Janet Leigh แม่ในชีวิตจริงของ Jamie Lee Curtis ก็มาแสดงด้วย แต่ไม่ได้เล่นเกี่ยวดองกับ Curtis นะครับ เธอแสดงเป็นเคธี่ วิลเลี่ยมส์ พวกคนชั้นสูงของเมืองที่ไม่ยอมเลื่อนงานประจำปี ทั้งๆ ที่มีเหตุสยองเกิดขึ้น (พวกนี้รู้สึกจะมีในหนังสยองแทบทุกเรื่องในตอนนั้นเล ยนะ อย่าง Jaws หรือ Piranha ก็มี)
ส่วนบทคุณพ่อโรเบิร์ต มาโลน ก็ได้นักแสดงมากฝีมือ Hal Holbrook มารับบท แต่แรกเริ่มแล้วลุง John ต้องการดาราหนังสยองระดับตำนาน Christopher Lee เจ้าของบทสุดดังอย่าง Dracula มาสวมวิญญาณบาทหลวงคนนี้เพื่อเพิ่มดีกรีความขลัง แต่ Lee ก็ไม่ว่างครับ งานเยอะ เลยต้องเชิญ Halbrook มาแทน
ในขณะที่ลุง John ก็ลงมาเล่นรับเชิญด้วยหนึ่งฉาก ตอนเริ่มต้นน่ะครับท่านจะเห็นผู้ช่วยของคุณพ่อมาโลนข อตัวกลับบ้าน นั่นแหละ ลุง John Carpenter
และที่ออกจะน่าสนใจคือผู้มารับบทเบลค ปีศาจหัวหน้าใหญ่ เขาคือ Rob Bottin มือเมคอัพเอฟเฟคท์ของเรื่อง คืออย่างนี้ครับตอนแรก Bottin มาขอสมัครเป็นมือเอฟเฟคท์อย่างเดียว ระหว่างการสัมภาษณืลุง John แกก็สั่งว่า "คุณลกขึ้นสิ" ตอนแรก Bottin นึกว่าจะโดนบอกว่า "ลุกขึ้น แล้วออกไปได้แล้ว" แต่ทีไหนได้ ลุง John แกเห็นว่า Bottin ร่ายกายกำยำสูงใหญ่เหมาะสม เลยมอบงานให้รวมถึงมอบบทเบลคลงไปอีกหนึ่งอย่าง
ทีนี้พอหนังถ่ายทำเสร็จ ปรากฎว่าความยาวมันแค่ 80 นาทีซึ่งถือว่าน้อยสำหรับมาตรฐานความยาวหนังในตอนนั้ น อีกทั้งลุง John เองก็ออกมาประกาศว่าฉบับแรกยังไม่ดีเท่าที่เขาต้องกา ร (จริงๆ แกบอกเลยครับว่างานเวอร์ชั่นแรกของแกออกมาเลวร้ายมาก ) ก็เลยทำการตัดต่อฉากเพิ่ม ไม่ว่าจะฉากเปิดที่มีคนชรา (John Houseman) มาเล่าตำนานสยองเป็นการอุ่นเครื่อง รวมไปถึงฉากแอ็กชันตอนท้ายก็มากขึ้น มันส์ขึ้นกว่าเก่า ว่ากันว่าหนังกว่าหนึ่งในสามเป็นฉากที่ลุง John แกถ่ายทำเพิ่มตอนหลังทั้งสิ้น
แล้วก็ถือว่าเพิ่มได้ดีครับ เพราะฉากที่ว่าช่วยเพิ่มความน่ากลัวตื่นเต้นให้กับหน ังอีกเยอะ โดยเฉพาะที่สตีวี่ต้องเผชิญกับผีร้ายความลำพังที่ประ ภาคารนั่น
แต่ถ้าถามว่าน่ากลัวสุดขีดหรือไม่ก็คงต้องตอบว่าไม่ไ ด้มากขนาดนั้น คือถ้าคนสมัยนี้ดูอาจจะเฉยๆ ก็ได้น่ะครับ เพราะเทคนิคไม่ได้ล้ำหน้านัก แต่ผมชอบเจ้าหมอกในเรื่องที่ดูมีชีวิตและเปี่ยมความช ั่วร้ายได้อย่างไม่น่า เชื่อ ตอนแรกผมก็คิดครับ ดูๆ ไปจะเฉยๆ ไหม เพราะหมอกมันก็แค่หมอก ไม่ได้มีเอฟเฟคท์เสริมอะไร แต่ไปๆ มาๆ มันดูน่ากลัวในตัวของมันเองครับ อันนี้ชมตากล้อง Dean Cundey ด้วยที่ถ่ายหมอกให้ออกมาในมุมที่ดูเหมือนว่ามันมาเพื ่อคุกคามเราแน่นอน
เกร็ดเล็กน้อยสำหรับหนังคือ เป็นธรรรมเนียมของลุง John ครับที่ชอบแทรกชื่อเพื่อนร่วมงานลงในหนังเป็นชื่อตัว ละครไม่ว่าจะนิค แคสเซิล (Atkins), แดน โอแบนนอน (รับบทโดย Charles Cyphers) แล้วก็ทอมมี่ วอลเลซ (George Buck Flower) สองรายแรกเอามาจากชื่อเพื่อนร่วมงานของลุง John ส่วนชื่อหลังก็มาจากช่างตัดต่อและโปรดักชั่น ดีไซเนอร์ของเรื่องน่ะครับ
ผมได้ดูครบทั้งเวอร์ชั่นเก่าและใหม่ที่เพิ่งรีเมคไปเ มื่อปี 2006 และก็บอกได้เต็มปากว่าเวอร์ชั่นเก่าดีกว่ากันแบบไม่เ ห็นฝุ่น ไอ้ภาคใหม่นั่นพยายามเพิ่มผูกเรื่องผูกปม แต่มันกลายเป็นรุงรังโดยใช่เหตุ
และไม่น่าเชื่อครับ หมอกในของเก่าดูน่ากลัวกว่าหมอกในของใหม่แบบไม่เห็นฝ ุ่น เพราะหมอกของใหม่ดูยังไงก็เป็นแค่หมอก
แต่สำหรับของเก่า มันคือ ปีศาจ!....."
(คัดลอกบทรีวิวมาจากบล็อก "หมื่นทิพ s Movie Review" --- - > http://www.bloggang.com/viewdiary.ph...p=16&gblog=162 ขออนุญาตและขอบคุณท่านหมื่นทิพ เจ้าของบทความมา ณ ที่นี้ด้วย)
Quality: BDRip
File Format: mkv
Video Codec: x.264
Audio Codec: DTS
Video Resoluton: 1280x544 (2.35:1) / 23.976 fps / 5,100 kbps / 0.305 bit/pixel
Audio: English 6 ch (Front: L C R, Side: L R, LFE) / 48.0 kHz / 1,510 kbps
Subtitles: English/Thai (on external files)
Special thanks to the original uploader and especially "tre2004" for Thai subtitle.
Media Info:
General
Unique ID : 207553324946941117597472149926027998835 (0x9C2550FCC9D45A9880356FCC65F43673)
Complete name : E:MoviesThe Fog (1980) (BDRip 720p)The.Fog.1980.BDRip.720p.Eng.DTS.mkv
Format : Matroska
Format version : Version 4 / Version 2
File size : 4.13 GiB
Duration : 1h 29mn
Overall bit rate : 6 608 Kbps
Encoded date : UTC 2013-04-23 00:49:56
Writing application : mkvmerge v6.0.0 ( Coming Up For Air ) built on Jan 20 2013 09:52:00
Writing library : libebml v1.3.0 + libmatroska v1.4.0
Video
ID : 1
Format : AVC
Format/Info : Advanced Video Codec
Format profile : [email protected]
Format settings, CABAC : Yes
Format settings, ReFrames : 11 frames
Codec ID : V_MPEG4/ISO/AVC
Duration : 1h 29mn
Bit rate : 5 100 Kbps
Width : 1 280 pixels
Height : 544 pixels
Display aspect ratio : 2.35:1
Frame rate : 23.976 fps
Color space : YUV
Chroma subsampling : 4:2:0
Bit depth : 8 bits
Scan type : Progressive
Bits/(Pixel*Frame) : 0.305
Stream size : 3.11 GiB (75%)
Writing library : x264 core 125 r2208 d9d2288
Encoding settings : cabac=1 / ref=11 / deblock=1:-3:-3 / analyse=0x3:0x113 / me=umh / subme=11 / psy=1 / psy_rd=0.75:0.25 / mixed_ref=1 / me_range=48 / chroma_me=1 / trellis=2 / 8x8dct=1 / cqm=0 / deadzone=21,11 / fast_pskip=0 / chroma_qp_offset=0 / threads=6 / lookahead_threads=1 / sliced_threads=0 / nr=0 / decimate=1 / interlaced=0 / bluray_compat=0 / constrained_intra=0 / bframes=10 / b_pyramid=2 / b_adapt=2 / b_bias=0 / direct=3 / weightb=1 / open_gop=0 / weightp=2 / keyint=240 / keyint_min=23 / scenecut=40 / intra_refresh=0 / rc=2pass / mbtree=0 / bitrate=5100 / ratetol=1.0 / qcomp=0.70 / qpmin=10 / qpmax=51 / qpstep=4 / cplxblur=20.0 / qblur=0.5 / ip_ratio=1.40 / pb_ratio=1.30 / aq=1:0.50
Language : English
Audio
ID : 2
Format : DTS
Format/Info : Digital Theater Systems
Codec ID : A_DTS
Duration : 1h 29mn
Bit rate mode : Constant
Bit rate : 1 510 Kbps
Channel(s) : 6 channels
Channel positions : Front: L C R, Side: L R, LFE
Sampling rate : 48.0 KHz
Bit depth : 16 bits
Compression mode : Lossy
Stream size : 967 MiB (23%)
Language : English
Text
ID : 3
Format : UTF-8
Codec ID : S_TEXT/UTF8
Codec ID/Info : UTF-8 Plain Text
Language : English
Credit File:ขอขอบคุณ คุณ humyaimakmak
http://www.filecondo.com/dl.php?f=oac9311uvYN4