Have a Good Trip Adventures in Psychedelics หรือชื่อไทย ผจญภัยหลุดโลกกับยาหลอนประสาท สารคดีที่จะพาคุณไปพบกับ ช่วงเวลาที่คนดังมีชื่อเสียงเสพยาเข้าไปแล้วเห็นภาพห ลอนแบบไหนกันบ้าง

ตัวอย่างหน้าหนังสารคดีเรื่องนี้มีความน่าสนใจที่ว่า บอกเล่าอาการเมายาได้เหมือนจริงกว่าที่เราเห็นจากหนั ง สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นยาหรือใช้ยาประเภทใดก็ตามให้ตั วเองเมายา ก็คงจะมีประสบการณ์ตรงนี้แค่ได้เห็นจากในหนังหรือคนอ ื่นบอกเล่ามา แต่ความจริงมันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ สารคดีเรื่องนี้จึงพยายามถ่ายทอดเรื่องราวกับภาพที่ป รากฎในตอนเมายาออกมาให้คนดูได้รับชมกัน โดยเพิ่มจุดสนใจด้วยการเอาดาราหรือคนในวงการบันเทิงท ี่พอมีชื่อเสียงบ้าง กับพวกที่มีชื่อเสียงมากมาเล่าให้ฟัง

ต้องบอกว่าส่วนตัวผู้เขียนเคยได้ยามอร์ฟีนจากตอนผ่าต ัดมาก่อน ก็เลยได้ประสบการณ์ตรงนี้ติดมาด้วย ซึ่งมันแปลกประหลาดมาก ทุกอย่างเป็นสีขาวโพลนไปหมด เสียงหมอพยาบาลคุยกันเบาๆ ก็ได้ยินก้องดังในหัว เหมือนประสาทรับรู้ของเราถูกเร่งขึ้นมาเกินขีดปกติ ตัวเบาเหมือนลอยได้ทั้งๆ ที่ถูกตรึงอยู่บนเตียงผ่าตัด เมื่อดูเรื่องนี้ก็มีความคาดหวังว่าน่าจะได้เห็นอะไร ที่น่าจะได้แบบนั้นบ้าง แต่กลายเป็นว่าตัวหนังดูเหมือนไม่ค่อยมีแก่นสารสำคัญ สักเท่าไหร่ จนดูจบแล้วก็แทบไม่ได้อะไรกลับไปแบบที่ตอนเริ่มต้นบอ กว่า ดูเรื่องนี้จบแล้วจะได้รู้ว่ามันเป็นยังไงโดยไม่ต้อง เสพยาเข้าไปเองเลยแม้แต่นิดเดียว

ตัวเรื่องเคลมว่าหนังฮอลลีวู๊ดที่ผ่านมาไม่เคยนำเสนอ เรื่องตรงนี้ได้ตามจริงเลย แม้แต่ใกล้เคียงก็หาได้ยาก เนื่องจากมักใช้เลนส์ฟิชอายกับเลนส์ไวด์ถ่ายทำเพื่อใ ห้ภาพออกมาบิดเบี้ยวผิดสัดส่วน รวมถึงอาการบ้าที่เกินพอดีอย่างกระโดดหน้าต่างอะไรแบ บนี้ แต่พอสารคดีเรื่องนี้นำเสนอแบบของตัวเองขึ้นมาก็กลับ ไปใช้ภาพแบบเดียวกันผสมกับแอนิเมชั่นประหลาดๆ เป็นตัวการ์ตูนฝรั่งแทนตัวคนที่เล่าเรื่องช่วงนั้น แล้วก็มีการถ่ายทำแบบตั้งใจให้ย้อนยุคไปเหมือนหนังเก ่ามากๆ เพื่อให้เหมือนประสบการณ์ของคนที่มาพูดเล่าเรื่องในอ ดีตสมัยวัยรุ่นหรือหนุ่มสาว แต่กลายเป็นดูแล้วกลับไม่เข้ากันเลย กลายเป็นเหมือนหนังเก่าๆ ไม่น่าดู แทนที่จะเล่าเรื่องด้วยแอนิเมชั่นทุกตอนไปยังจะน่าสน ใจมากกว่าอีก

คนดังมีชื่อเสียงที่ออกมาเล่าในซีรีส์ส่วนตัวคิดว่าค นไทยแทบไม่รู้จักทั้งนั้น มีแค่ 2 คนที่ดังจริงคือ Carrie Fisher ที่แสดงเป็นเจ้าหญิงเลอาในสตาร์วอร์และเสียชีวิตไปแล ้ว กับ Ben Stiller นักแสดงสายตลกที่ตอนหลังก็แทบไม่มีผลงานดีๆ ให้คนจดจำได้เลย ซึ่งประสบการณ์ของทั้งคู่ก็ไปขุดเอาสมัยหนุ่มสาวไกลม าก ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ค่อยเชื่อว่าพวกที่มาเล่านี่จะทดลองเสพยาแค่ครั ้งนั้นครับ แต่คงเหมือนการเซฟไปในตัวว่าฉันไม่ได้จะเล่นยา แต่แค่สมัยหนุ่มสาวห้าวทดลองไปตามปกติเท่านั้น ซึ่งมันก็พื้นๆ มากกับเรื่องที่เล่ามา แถมยังใช้นักแสดงมาเล่นแทนตัวดาราพวกนี้ตอนวัยรุ่นไป อีก แล้วก็ผสมกับแอนิเมชั่นเข้าไปบ้าง ก็เลยกลายเป็นประสบการณ์ที่ดูแล้วปลอมๆ ไม่ได้เหมือนจริงหรือมีอะไรน่าสนใจแปลกใหม่เลย สู้เอาขี้ยาตัวจริงมาเล่าอาจจะได้อะไรมากกว่าอีกด้วย ซ้ำครับ

ตัวเรื่องพยายามสอดแทรกว่าสารคดีเรื่องนี้นำเสนอประส บการณ์จริงให้คนดูแทนการไปเสพยาจริงๆ แต่มันกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย ดูไปมีแต่ความงงงวยกับเรื่องที่เล่าออกมา เผลอๆ คนดูเองจะไปลองเสพยาจริงๆ แทนซะมากกว่า เพราะตัวเรื่องพยายามนำเสนอแง่บวกของพวกยา LSD เห็ดเมา ที่มีวางขายในบางที่แบบถูกกฎหมาย ว่าตอนนี้นักวิจัยในอเมริกากำลังศึกษาการนำมาใช้กับผ ู้ป่วยโรคซึมเศร้า มะเร็ง และอาการอื่นๆ ที่ยาน่าจะช่วยให้อาการเหล่านี้ดีขึ้นได้ แต่จุดนี้ก็ไม่ได้ใส่เรื่องราวเชิงลึกอะไรมาเลย มีแค่ตอนจบว่าพึ่งเริ่มอนุมัติให้นักวิจัยนำไปใช้จำน วนหนึ่งเท่านั้น เป็นการศึกษาเพื่อนำมาใช้แบบถูกกฎหมาย

แม้หลายอย่างจะดูเฟคๆ แต่ที่สำคัญคือถ้าเรื่องเล่าแบบตัดสลับให้สนุกก็จะไม ่รู้สึกอะไร แต่เรื่องนี้ตัดต่อก็ไม่ดี มีแต่การผสมภาพฟุตเตจหนังเก่าที่ถ่ายทำเอง สลับกับแอนิชั่น รวมถึงฟุตเตจหนังฮอลลีวู้ดเก่าบางส่วนมายำๆ กัน จนทำให้เรื่องที่ทุกคนออกมาเล่าดูน่าเบื่อไปเลย กลายเป็นจุดเด่นการนำเสนอกลับเป็นจุดที่ดูเฟลแทน แต่ถ้าอยากลองดูสารคดีแปลกๆ ก็ทดลองดูก่อนได้ครับ

http://www.filecondo.com/dl.php?f=u82fd21K3Aek