หนังบังคับอีกเรื่องต้องเคยดู ต้องมีเก็บ มีใครยังโคตรพลาดอีก

เรื่องแรกของ อนุชกา ชาร์มา นางแบบสาววัย 19
อนุชกา น่ารักสุดตลอดกาลจากเรื่องนี้

ไม่น่าไปทำปากเลย ดูได้จากใน PK
ตอนไปทำสมัยก่อน เป็น talk of the town ไป แฟนๆมากมายเศร้าไปเลย เดิมๆน่ารักดีอยู่แล้ว

เรื่องนี้ต้องเก็บไว้ให้ดี เพราะอนุชกาไม่กลับมาน่ารักเท่านี้อีกแล้ว












Rab Ne Bana Di Jodi (2008)
แร็พนี้เพื่อเธอ

Director: Aditya Chopra

https://www.imdb.com/title/tt1182937/
Rating 7.2/10 43,047 users

https://www.rottentomatoes.com/m/100...e_bana_di_jodi

Stars:
Shah Rukh Khan, Vinay Pathak, Anushka Sharma...


....ความรักไม่มีอะไรแตกต่างระหว่าง ธรรมดาและพิเศษ ไม่น่าสนใจและน่าสนใจ ไม่สวยหรูหรือสวยหรู
เพราะความรักไม่รู้จักความแตกต่าง มันสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แล้วเมื่อเกิดขึ้นมันจะครอบคลุมเราไปอย่างสิ้นเชิง
และมอบประสบการณ์ที่มหัศจรรย์ซึ่งมีเพียงความรักที่ส ามารถให้ได้ ทั้งอาจทำให้คนธรรมดาเป็นคนไม่ธรรมดาก็ได้....

นี่คือเรื่องราวน่าติดตามของคนคู่หนึ่ง ที่มีชีวิตตรงกันข้ามหรือแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ระหว่าง สุรินทร์ดาร์ ซานี่ (ชาห์รุค ข่าน) ชายผู้เรียบง่ายจิตใจสะอาดและซื่อสัตย์ ทำงานให้กับบริษัท ปันจาบเพาเวอร์
เขาใช้ชีวิตอย่างง่ายๆจืดชืดมาจนถึงวัยกลางคน กับ ตานี (อนุชก้า ชาร์มา) ผู้ที่โลกทั้งโลกคือผืนผ้าของเธอ ซึ่งเธอวาดชีวิตของเธอด้วยสีสันของรุ้ง
จนกระทั่งสถานการณ์ที่ไม่ได้คาดฝันเปลี่ยนแปลงทุกอย่ างและนำพาพวกเขามาอยู่ด้วยกัน

สุรินทร์ดาร์ไปงานแต่งงานของลูกสาวอาจารย์ และในวันแต่งงานเมื่อรู้ข่าวเจ้าบ่าวประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิต
ตานีเจ้าสาวเสียใจมาก ส่วนพ่อเธอถึงกับช็อคและล้มป่วย ก่อนเสียชีวิตเขาจึงฝากฝังตานีไว้กับสุรินทร์ดาร์ศิษ ย์ที่เขาเชื่อใจ
ตานีกับสุรินทร์ดาร์แต่งงานกันตามคำสั่งเสียของพ่อก็ จริง แต่ตานีก็ทำได้เพียงหน้าที่ศรีภรรยาที่ดี แต่มิอาจมอบความรักให้เขาได้
สุรินทร์ดาเองถึงจะหลงรักตานี แต่ก็ไม่อาจแสดงความในใจออกไปเพราะด้วยวัยที่ห่างกัน มาก ทั้งไม่รู้ว่าจะบอกเธออย่างไร
เมื่อเขาไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนจึงช่วยแนะนำให้เขาปลอมตัวเป็นหนุ่มมาดกวนนามว ่า “ราช” เข้าเรียนคลาสเต้นเดียวกับเธอ
เพื่อจะได้สนิทคุ้นเคยกับเธอ และนั่นทำให้เธอหลงรัก “ราช” โดยไม่รู้ตัว
แต่สุรินทร์ดาร์กลับไม่รู้ว่า เขาทำให้ตานีต้องรู้สึกขมขื่นมากเพียงไรที่เธอได้ตกห ลุมรักชายอื่นที่ไม่ใช่สามีเธอ…

เรื่องราวหลังจากนั้นคือการเดินทางที่เต็มไปด้วยเสีย งหัวเราะ น้ำตา ความสุข ความเจ็บปวด ดนตรี เต้นรำ และความรักมากล้น
การเดินทางที่ทำให้เราเชื่อว่ามีเรื่องราวความรักที่ ไม่ธรรมดาในคู่ธรรมดาทุกคู่

Rab Ne Bana Di Jodi ออกฉายที่อินเดียเมื่อปลายปี 2008 จนถึงต้นปี 2009 เมืองไทยเพิ่งนำเข้ามาครับ
หนังอินเดียในไทยตลาดเล็ก นานหน่อยถึงจะได้ดู บริษัทที่นำเข้าเขาต้องรอให้ราคาหนังถูกลงก่อนถึงจะซ ื้อเข้ามา
นี่คือภาพยนตร์น่าดูอีกเรื่องหนึ่งที่หลายปีๆจะมีสัก ครั้ง
ดูแล้วคุณอาจจะเสียน้ำตาให้กับความรักที่จริงใจ ซึ้งไปกับรักโรแมนติก อินไปกับบทเพลงอันไพเราะ
พร้อมๆทั้งอาจจะหัวเราะไปกับเขาและเธอ สุรินทร์ดาร์และตานี.....

ที่มา: load-thai.blogspot



ViDEO BiTRATE.........: AVC @ 24.9 Mbps
AUDiO 1..................: Thai AC3 448 kbps
AUDiO 2..................: Hindi DTS 5.1ch 1509 kbps
FRAME RATE............: 24fps
ASPECT RATiO..........: 16:9 (2.35:1 1920x816)
RESOLUTiON............: 1920 x 1080 pixels 1080p (Progressive)
RUNTiME .................: 164 minutes 16 sec
SUBTITLES ..............: Eng PGS , Tamil PGS, Telugu PGS , Thai PGS แปลเฉพาะเพลง






* ss เก่า 1080p CHD สมัยก่อนโน้น ไม่ได้ทำใหม่ เลยมีซับเพลง 480p dvd ติดมา

-----------------------------------------------------------------------------------------

แร็พนี้ เพื่อเธอ
story by: อมรเทพ สุขมานนท์

ช่วงที่ผ่านมากำลังพุ่งความสนใจไปยัง หนังจากแถบสแกนดิเนเวีย ที่เพิ่งจะปักธง
ลงบนแผนที่ของโลกภาพยนตร์ได้ไม่นาน ตัวผมเองก็กำลังสนุกอยู่กับการค้นพบดินแดนใหม่ที่อีก ฟากหนึ่ง
ที่ไม่ได้มีอะไร เหมือนกับสแกนดิเนเวียเลย ไม่ว่าจะเป็นในด้านของอากาศ
ที่สแกนดิเนียเวียหนาวเหน็บเพราะใกล้ขั้วโลกเหนือ
แต่ที่นี่ร้อนตับแตกเพราะใกล้เส้นศูนย์สูตร
หรือหนัง สแกนดิเนเวียมักจะพูดถึงอาชญากรรม ความตาย หรือความมืดหม่น
แต่หนังที่นี่มี แต่รอยยิ้ม เสียงเพลง และการเต้นรำ
ใช่แล้วครับ ผมกำลังพูดถึง หนัง อินเดีย

อันที่จริง ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มาสนใจ หนังอินเดียเลยนะครับ
ถึงแม้ว่า คุณอลงกรณ์ ที่เป็นแฟนหนังอินเดียมานานแล้ว จะเคยมาบิ๊วด์ให้ผมดูเรื่องโน้นเรื่องนี้อยู่บ้าง

เนื่องจากผมยังคงติดกับภาพในมโนคติที่ว่า หนังอินเดียเอะอะเดี๋ยวก็ร้องเพลงจีบกันข้ามเขา
แถม พระเอกก็หน้าตาเหมือนคนขายโรตีปากซอย จนกระทั่งที่ได้ลองดูหนังอินเดียจริงๆ
ในช่วงไม่กี่เดือนนี่แหละครับ ที่ ทำให้ผมต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ และพบว่า

1) หนังอินเดียยังคงร้องเพลงจีบกันข้ามเขา เพียงแต่ซาวด์ของเพลงอินเดียในปัจจุบันทันสมัยมาก
แถมหนังยังทำโปรดักชั่นได้ดีไม่แพ้พวกหนังตระกูล Step Up

2) พระเอก-นางเอกหนังอินเดียรุ่นใหม่ ๆ หน้าตาและรูปร่างดี
ผู้ชายจะกระเดียดไปทางอิตาลีหรือสเปน ส่วนผู้หญิงก็ดูคมเข้มแบบสาวละติน

3) คุณสามารถหาหนังที่ดาราหุ่นเหมือน ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน หรือ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์
แต่เล่นหนังรักและแดนซ์กระจาย ได้ที่อินเดียที่เดียว

4) หนังอินเดียหลายเรื่อง ที่เป็นหนังฟอร์มยักษ์ ระดับบล็อกบัสเตอร์ของที่โน่น
แต่มีดีวีดีขายในบ้านเราใน สนนราคาแค่แผ่นละ 79 บาท เท่านั้น นั่นทำให้ในช่วงที่ผ่านมา
ผมสนุกกับการหาข้อมูล แล้วไปคุ้ยกระบะดีวีดี ที่มักจะมีหนังอินเดียที่ดัง ๆ
แอบ ซุกตัวอยู่กับหนังอะไรไม่รู้ของฮ่องกงหรือหนังเกรดบี ฮอลลี วูดอย่างแนบเนียน
และเท่าที่ดูมาถ้าเป็นเรื่องที่มีดีกรีการ เป็นหนังฮิตการันตีมาจากอินเดีย
ก็มักจะเป็นหนังที่ดูได้ สนุกเพลิดเพลินแทบทุกเรื่อง

ซึ่งเรื่องที่ผมชอบมากที่สุดที่ อยากจะเอามาแนะนำกัน
มีชื่อว่า Rab Ne Bana Di Jodi หรือที่มีชื่อไทยว่า แร็พนี้เพื่อเธอ ครับ

Rab Ne Bana Di Jodi (แปลเป็นไทยได้ประมาณ คู่แท้สวรรค์สร้าง )
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ สุรินดัร รับบท โดย ชาห์รุก ข่าน พระเอกอันดับ 1 ของอินเดีย
(แต่เดี๋ยวนี้ เริ่มมีคนอื่นดังกว่าแล้ว)
หนุ่มพนักงานบริษัทเฉิ่ม ๆ ที่เดิน ทางไปร่วมงานแต่งงานของลูกสาวอาจารย์ที่ต่างเมือง
ซึ่งสุรินดัรเป็นลูกศิษย์คนโปรดของอาจารย์คนนี้ ที่ยังคงถูก ชื่นชมอยู่ไม่ขาดปาก
โดยลูกสาวของเขามีชื่อว่า ตานี รับ บทโดย อนุชกา ชาร์มา นางแบบสาววัย 19
ที่มาเล่นหนัง เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก แล้วก็แจ้งเกิดได้ทันที
เป็นหญิงสาวผู้ ร่าเริงที่สุรินดัรเพิ่งเคยพบครั้งแรก
เธอกำลังรอว่าที่เจ้าบ่าวของเธออยู่ที่บ้านอย่างมีคว ามสุข
แต่แล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อมีคนเข้ามาแจ้งข่าวร้ายว่า
ว่าที่เจ้าบ่าวของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมก ับครอบครัว
ส่งผลให้ ตานีต้องกลายเป็นหม้ายขันหมาก
แต่นั่นก็ยังไม่เลวร้ายเท่ากับการที่พ่อของเธอเกิดช็ อคจนเกิดอาการหัวใจวาย
จากวันที่ดีกลับกลายเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตข องตานี
เพราะเพียงชั่วพริบตาเธอกำลังจะไม่เหลือใครในชีวิต
แต่ก่อนที่จะเป็นเช่นนั้น พ่อของตานีได้ขอร้องสุรินดัร
ศิษย์รักที่เขาเชื่อใจเป็นครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาล

เขาขอให้สุรินดัรแต่งงานกับตานีซะ เพื่อที่เขาจะได้จากไปอย่างหมดห่วง
ซึ่งสุรินดัรไม่อยู่ในสถานะที่จะปฏิเสธได้
เช่นเดียวกับ ตานีก็ไม่อาจขัดคำขอสุดท้ายของพ่อของเธอ

ซึ่งหลังเสร็จจากงานศพอาจารย์ สุรินดัรก็เข้าพิธีแต่งงานกับตานีแบบเรียบง่าย
แค่ให้ถูกต้องตามประเพณี จากนั้นก็พาตานีย้าย มาอยู่ที่บ้านของเขาที่อัมริตสา

โดยสุรินดัรยกห้องของเขาให้ตานี ส่วนตัวเขาย้ายขึ้นไปอยู่บนห้องเก็บของ
ซึ่งหลังจากนั้นตานีก็กลายเป็นคนซึมเศร้า เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง

โดยสุรินดัรก็ไม่รู้ว่าเขาควรทำอย่างไรดี จนกระทั่งเมื่อ เพื่อน ๆ ที่ทำงาน
ได้รู้ว่าสุรินดัรแต่งงาน ทั้งหมดก็ถือ วิสาสะบุกมาจัดปาร์ตี้แสดงความยินดีที่บ้านของสุรินด ัร
โดยไม่สนใจคำทักท้วง ซึ่งนั่นทำให้ตานียอมออกจากห้อง
มาพบปะทักทายเพื่อนร่วมงานของสุรินดัร เพื่อไม่ให้เขาต้อง ถูกครหาจากเพื่อนฝูง
ซึ่งหลังจากนั้นตานีก็ยอมออกจากห้องมาใช้ชีวิต เหมือนปกติ
โดยบอกว่าเธอรู้ตัวว่ามันไม่ยุติธรรม ที่เธอเอาความโกรธที่มีต่อพระเจ้ามาลงที่สุรินดัร
แต่เธอก็คงจะเป็นภรรยาโดยสมบูรณ์ของสุรินดัรไม่ได้
เพราะเธอไม่อาจมีความรักให้ใครได้อีกแล้ว
ซึ่งสุรินดัรก็เข้าใจและไม่ขัดข้องแต่ประการใด
แม้ว่าในใจนั้นได้ตกหลุมรักตานีเข้าให้แล้ว

กระทั่งวันหนึ่ง เมื่อตานีผ่านไปเห็นโฆษณาว่า โรงเรียนสอนเต้นชื่อดังของมุมไบ
กำลังจะมาเปิดสาขาที่ อัมริตสานี้ เธอจึงมาขอสุรินดัรไปเรียน

ด้วยเหตุผลที่ว่า การเต้นคือสิ่งที่เธอเคยรักมากก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ ายๆขึ้น
ซึ่งสุรินดัรก็ยอมอนุญาตแต่โดยดี แต่ระหว่างนี้ สุรินดัรได้ ไปปรึกษาเพื่อนซี้ของเขา
ที่ชื่อ บ็อบบี้ กอห์ศลา (ชอบนาม สกุลหมอนี่จริง ๆ)

ที่เป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถและร้านตัดผม เขาขอให้บ็อบบี้ช่วยเปลี่ยนลุคของเขาเสียใหม่
เอาแบบให้ถูกใจหญิง เสร็จแล้วเขาจะไปแอบซุ่มดูตานีเรียนเต้นที่หลังห้อง
โดยหวังว่าเธอจะจำไม่ได้ แล้วค่อยไปรอเซอร์ไพรส์เธอที่บ้านอีกที
แต่เมื่อสุรินดัรในลุคใหม่ไปอยู่ที่โรงเรียนสอนเต้นแ ล้ว

เขากลับจับพลัดจับผลูถูกจับมาเรียนเต้นในชั้นด้วย ซึ่งสถานการณ์ก็ยิ่งผิดจากที่คิดเข้าไปใหญ่
เมื่อท้ายชั่วโมง มีประกาศว่า ทางโรงเรียนจะมีการจัดการแข่งขันประกวดเต้นประเภทคู่ ขึ้น
เพื่อเฟ้นหาผู้ชนะไปแข่งต่อที่มุมไบ โดยนักเรียนทุกคนจะถูกจับคู่
แล้วค่อยไปซ้อมเต้นด้วยกัน ซึ่งก็แน่นอนว่าคนที่สุรินดัรจับคู่ได้ ก็คือตานีนั่นเอง

โดยเมื่อเขาต้องประจันหน้ากับตานี ด้วยความที่กลัวว่าตานีจะจำเขาได้
สุรินดัรจึงทำเป็นวางมาดเป็นจอมเจ้าชู้เพื่อช่วยกลบเ กลื่อน
พร้อมกับบอกตานีว่าเขามีชื่อว่า ราจ (ตามชื่อ ของ ราจ คาปูร์ พระเอกหนังรุ่นเก่าของอินเดีย)
ซึ่งตานีก็ เชื่อซะอยู่หมัด

หนังอินเดียยังคงร้องเพลงจีบกันข้ามเขา
เพียงแต่ซาวด์ของเพลงอินเดียในปัจจุบันทันสมัยมาก
เมื่อเกิดผิดแผน สุรินดัรจึงกลับไปหาบ็อบบี้อีกครั้ง พร้อมกับแผนใหม่
โดยให้บ็อบบี้ช่วยทำให้เขากลับไปเหมือนเดิม เพื่อกลับไปเจอตานีที่บ้าน
โดยเก็บเรื่องของราจ ไว้เป็นความลับ เพราะกลัวว่าถ้าหากตานีรู้ความจริง

รอย ยิ้มที่เขาได้เห็นที่โรงเรียนสอนเต้นก็จะมลายหายไปอี กครั้ง
ซึ่งนั่นทำให้หลังจากนั้นสุรินดัรต้องกลายเป็นคนที่ม ีชีวิต สองด้าน
คือกลางวันเป็นพนักงานบริษัทเฉิ่ม ๆ คนเดิม
แต่พอตกเย็นหลังเลิกงานแล้ว ก็จะเปลี่ยนองค์ทรงเครื่อง กลายเป็น ราจ
หนุ่มเจ้าสำราญ คู่หูของตานีที่โรงเรียน

ผมคงต้องขอชมคนเขียนบทของเรื่องนี้ครับ ซึ่งก็คือ ตัวผู้กำกับ อดิษยา โชปรา เอง
เขาเป็นลูกชายของ ยาช โชปรา ผู้กำกับรุ่นเก๋าของอินเดีย
ที่เป็นผู้ก่อตั้ง Yash Raj Films ค่ายหนังยักษ์ใหญ่

ที่หยิบเอาความเป็นหนังรัก กับ หนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ตัวเอกจะต้องปกปิดตัวตน
และหนังเต้นแบบ Step Up มาผสมกันได้อย่างลงตัวกลมกล่อม
โดย ไม่จำเป็นต้องมีตัวร้ายใด ๆ มาเป็นอุปสรรคของเรื่องราว
เพราะอุปสรรคจริง ๆ ของเรื่อง ก็คือตัวราจ ที่สุรินดัรสร้าง ขึ้นมานั่นเอง

เมื่อราจที่ชอบยียวนกวนตานี แต่กลับเริ่ม ทำให้ตานีหวั่นไหว
เริ่มคิดถึงเขาในวันที่ไม่ได้เจอ ซึ่งมันขัด กับสิ่งที่เธอเคยบอกสุรินดัรว่าจะไม่มีความรักให้ใคร อีก

ขณะที่ตัวเธอเองก็รู้สึกผิดด้วยเช่นกัน เพราะสุรินดัรก็ดูแล เธอมาอย่างดีโดยตลอด
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นภรรยาของเขา แค่เพียงตามกฎหมายก็ตาม
ซึ่งปมขัดแย้งที่น่าสนใจของเรื่องอยู่ตรงนี้แหละครับ

เพราะเมื่อถึงจุดนึง สุรินดัรที่ได้รู้ว่าตานีตกหลุมรักราจ ซึ่งที่จริงก็คือตัวเขาน่ะแหละ
แต่แทนที่จะดีใจ มันกลับทำให้ สุรินดัรอิจฉาราจคนนั้น จนไปถึงขั้นย้อนกลับมาตำหนิตัวเอง
ว่ายังเป็นสามีที่ไม่ดีพอที่จะทำให้ตานีตกหลุมรัก

Rab Ne Bana Di Jodi เป็นหนังฮิตของปี 2008 ครับ
ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนังที่ทำรายได้มากที่สุดของพระเอก ชาห์รุก ข่าน ในตอนนั้น
(แต่ตอนนี้เป็นเรื่อง Ra.One แล้ว) และยังเข้าป้ายเป็นแชมป์หนังทำเงินอันดับที่ 2 ของปี
ที่เป็นรองเพียง Ghajini หรือ Memento ฉบับเมืองโรตี
ที่ขึ้นทำเนียบเป็นหนังที่ทำรายได้สูงที่สุดตลอดกาลข อง อินเดียในตอนนั้น
(แต่ปัจจุบันถูก Three Idiots กับ Dabangg แซงไปแล้ว)

ซึ่งตลอดความยาวกว่า 2 ชั่วโมง 45 นาที ของ RNBDJ (ที่ต่างประเทศเขาใช้ชื่อนี้จริง ๆ)
ต้องบอกว่าผ่านไปด้วยความเพลิดเพลินที่มีครบทั้งสนุก สุข ซึ้ง จริง ๆ ครับ

ซึ่งผมคิดว่าความสนุกนี่แหละ คือ เสน่ห์เฉพาะตัวของหนังอินเดีย
ที่ผมได้พบจากการไล่ตะบี้ ตะบันดู ตลอดช่วงเวลาเพียงแค่เดือนกว่า ๆ ที่ผ่านมา
แล้วก็เลยคิดว่าอยากจะขอเลือกเรื่องที่ผมชอบที่สุดมา
เขียนถึงเป็นการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สำหรับผู้อ่าน FILMAX ทุกท่าน
และขอให้มีความสุข สนุกกันมาก ๆ (แบบในหนังอินเดีย) ตลอดปี 2555 นี้ครับ




-----------------------------------------------------------------------------------------

dvd พี่ไทย มีแต่พากย์ไทย only
เสียง hindi ต้นฉบับก็ไม่มี ซับไทยมีแต่แปลเพลงตอนร้อง



http://cornfile.com/q9pqmx4v2ofp