ประวัติอย่างเป็นที่ยอมรับกันนั้นบอกว่า จางซานฟง หรือนักพรตกะเรียนไฟ มีชื่อเดิมว่า จางเฉวียนอี หรือ จางจวินเป่า เขาเป็นนักพรตเต๋าแห่งเขาบู้ตึ๊ง ตั้งแต่ปลายสมัยซ่งเหนือ ส่วน ซานฟง เป็นฉายาที่ใช้เมื่อออกบวช เขาเกิดในปี ค.ศ.1247 ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ที่มณฑลเหลียวหนิง เริ่มเป็นที่รู้จักในสังคม จากฝีมือการช่วยเหลือคนเจ็บไข้ ด้วยหลักการรักษาโดยใช้กำลังภายในและการสอนให้รู้จัก หลักสมดุลของร่างกาย ส่วนในเรื่องวิทยายุทธนั้น จางซานฟงได้มาจากการสังเกตุการเคลื่อนไหวของการต่อสู ้ระหว่างนกกะเรียนและงูที่งูสามารถป้องกันการโจมตีได ้ด้วยการเคลื่อนที่เป็นวงกลม ที่สำคัญก็คือ การที่สามารถคิดค้นท่ามวยต่างๆ เพื่อให้ร่างกายสามารถเดินพลังภายในอันเป็นเคล็ดลับข องการมีอายุยืนยาว
แม้ว่าจางซานฟงจะทำให้บู๊ตึ๊งโด่งดัง แต่เอาเข้าจริงบนภูเขาบู๊ตึ๊งนั้นตั้งแต่อดีตมาแล้วก ็เป็นสถานที่ฝึกวิทยายุทธของนักพรตสายเต๋าอยู่แล้วนะ ครับ เขาบู๊ตึ๊ง หรือ (อู่ตังซาน ในภาษาจีนกลาง) เป็นเทือกเขาที่มีความสำคัญของลัทธิเต๋า ที่เล่าสืบมาว่า ปรมาจารย์เจินอู่ หรือเทพเจ้าเสวียนอู่ ที่ศาสนาเต๋าเคารพนับถือ ได้บำเพ็ญตบะบนยอดเขาแห่งนี้ที่เสมือนเป็นแดนสุขาวดี นักพรตเสวียนอู่ในสมัยที่ยังอยู่บนโลกนั้น ได้ใช้วิชาทั้งบุ๋นและบู๊การประลองยุทธกับภิกษุหลายร ูปของฝ่ายพุทธ จนได้รับชัยชนะ สามารถยึดเขาแห่งนี้เป็นที่บำเพ็ญเพียรมาเรื่อยๆ
จุดนี้เองที่ทำให้พรตสายอื่นมองว่า จริงๆ จางซานฟงอาจจะไม่ใช่คนแรกที่คิดค้นมวยไทเก๊กขึ้นมาก็ ได้ เพราะ จริงๆ มวยหรือวิทยายุทธของพรตเต๋านั้นมีมาตั้งแต่สมัยราชวง ศ์ถังซึ่งก็มีมาก่อนหน้าจางซานฟงเกิดตั้ง 200 ปีนะครับ เหตุผลที่ต้องมีมวยหรือวิทยายุทธสายนี้ก็เพราะว่าส่ว นหนึ่งต้องสู้รบกับผู้รุกรานซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ สงครามแย่งชิงที่ฝึกหรือชิงวัดกัน อีกส่วนหนึ่งก็คือเพื่อฝึกปรือให้สุขภาพร่างกายแข็งแ รง อีกส่วนก็คือ การตามหาพลังภายในโดยที่แก่งของการฝึกวิทยายุทธของสา ยนี้คือ ฝึกการควบคุมกำลังภายใน ใช้ความนุ่มนวลสยบความแข็งแกร่ง ใช้การกลมกลืนกับธรรมชาติและสภาพแวดล้อมพิชิตชัยที่ส ำคัญสิ่งที่เขาเน้นไปพร้อมๆ กับการฝึกพลังก็คือการแสวงหาและรับทานยาเพิ่มพลังเพื ่อทำให้เกิดความเป็นอมตะขึ้นมา
http://www.filecondo.com/dl.php?f=477cd01CTsWc