DEMOLITION MAN (1993) | ตำรวจ..มหาประลัย 2032
IMDb Ratings: 6.6/10 from 118,888 users
- http://www.imdb.com/title/tt0106697/?ref_=nv_sr_2
Genres/Runtime:
- Action | Crime | Sci-Fi | Thriller
- 115 min.
Aspect Ratio: 2.35 : 1
Filming Locations:
- Park Place Office Campus - 3345 Michelson Drive, Irvine, California, USA
Release Date:
- 8 October 1993 (USA)
Directors:
- Marco Brambilla
Cast:
Sylvester Stallone ... John Spartan
Wesley Snipes ... Simon Phoenix
Sandra Bullock ... Lenina Huxley
Nigel Hawthorne ... Dr. Raymond Cocteau
Benjamin Bratt ... Alfredo Garcia
Bob Gunton ... Chief George Earle
Glenn Shadix ... Associate Bob
Denis Leary ... Edgar Friendly
Grand L. Bush ... Zachary Lamb - Young
Pat Skipper ... Helicopter Pilot
Steve Kahan ... Captain Healy
Paul Bollen ... T.F.R. Officer
Mark Colson ... Warden William Smithers - Young
Andre Gregory ... Warden William Smithers - Aged
John Enos III ... Prisoner (as John Enos)
เรื่องย่อ
- หนัง Action ล้ำอนาคตเรื่องของ จอห์น สปาร์ตัน (Sylvester Stallone) นายตำรวจจอมระห่ำที่โดนลงโทษโดยการเข้าคุกไครโอเจนิก (คุกแช่แข็งน่ะครับ) เนื่องจากทำงานผิดพลาด อันส่งผลให้ตัวประกันที่โดนไซม่อน ฟีนิกซ์ (Wesley Snipes) จอมวายร้ายจับไปตายทั้งหมด
ทีนี้ทั้งจอห์นและไซม่อนต่างโดนแช่แข็งครับ ต่อมาปี2032 ได้มีคนบางคนวางแผนให้ปล่อยไซม่อนออกมาจากคุก ทีนี้มันก็ไล่ฆ่าคนสิครับ ทำให้จอห์นโดนตามตัวออกมาเช่นกัน เพื่อปราบศัตรูคู่อาฆาตรายนี้ โดยต้องร่วมมือกับ เลนิน่า ฮักซ์เลย์ (Sandra Bullock) นายตำรวจสาวสวย และขณะเดียวกันเขาก็ต้องหาคำตอบด้วยว่า ใครปลุกไซม่อนขึ้นมา และมันทำเพื่ออะไร
หนังเรื่องนี้สนุกดีนะครับ มีมุขตลกและฉากบู๊อยู่ในระดับพอประมาณ นางเอกของเรื่อง ซึ่งก็คือ Sandra Bullock ก็ฉายเสน่ห์ต๊องๆ ได้ดีพอสมควร หนังดูได้เพลินๆ เอามันส์ครับ (รู้สึกว่าหนังพี่สไลนี่แกจะเน้นเอามันส์กันอย่างเดี ยวเลยนะครับ)
ส่วนพี่สไลแกก็ไม่เลวกับบทโทนกึ่งน่ารักกึ่งแอ๊คชั่น แบบนี้นะครับ พี่แกไม่ได้จริงจังกับชีวิตแล้วก็ใช้ได้เหมือนกัน ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่ทำได้สนุกผิดคาดครับ ก็ต้องชม Marco Brambilla ด้วยล่ะฮะ หนังออกมาเป็นแอ๊คชั่นสนุกๆ มันส์แบบอนาคต และอนาคตที่ว่านี่ก็ไม่ไกลด้วยครับ ปี 2032 ซึ่งหนังก็วาดภาพอนาคตได้ดูเป็นอนาคตจริงๆ ข้าวขงอตึกรวมบ้านช่องดูน่าเชื่อว่าเป็นอนาคต แต่สภาพสังคมอาจจะเว่อร์ไปหน่อยนะ ประมาณว่าคนทั้งเมืองพูดจาสุภาพกันหมด ไม่มีคดีฆ่ากันเลย คือดูๆ ก็สงบดีน่ะครับ เพียงแต่มันเว่อร์ไปหน่อยน่ะ
แต่ก็นั่นแหละครับ ถ้าไม่คิดมากกับตรงนี้ ก็ไม่มีปัญหา เพราะไอ้สภาพบ้านเมืองแบบนี้นี่แหละที่ทำให้หนังฮาใน หลายช่วง เอาแค่พี่สไลแกโดนรุมด่านี่ก็ฮาแล้วล่ะครับ เพราะบ้านเมืองมันมีกฎหมายประมาณว่าห้ามพูดหยาบ ห้ามใช้กำลัง แต่พี่จอห์น สปาตันแกเป็นตำรวจจอมระห่ำไงครับ เลยทำอะไรรุนแรงตลอด พวกเซ็นเซอร์ตรวจจับความประพฤติไม่เหมาะสมเลยดังทุกท ี่ที่แกเหยียบเข้าไปเลย ก็ทำให้หนังมันฮาดีน่ะครับ แล้วหน้าพี่สไลเรื่องนี้ตอนเอ๋อๆ ก็ฮาดีด้วย เออ พี่แกชักเริ่มเล่นหนังลื่นแล้วล่ะครับ
Snipes ก็บ้าเต็มที่ดีครับ เป็นตัวร้ายที่โหดและบ้าคลั่งดี (หนังพี่สไลนี่มีแต่วายร้ายบ้าๆ ทั้งนั้นเลยนะครับ ... แต่ก็จริง คนปกติที่ไหนจะอยากมาเป็นศัตรูกับแกล่ะ) ซึ่งบทไซม่อน ฟีนิกซ์นี้ ตอนแรกพี่สไลแกต้องการให้ เฉินหลงของเราไปเล่นเป็นนะครับ แต่เฮียเฉินก็ปฏิเสธไปเพราะหากเขาไปเล่นเป็นตัวร้ายแ ล้วชาวเอเซียอาจไม่ยอม รับน่ะครับ ก็เล่นเป็นฮีโร่มาตลอดแล้วพลิกไปเป็นตัวร้ายเฉยเงี้ย
นอกจากนี้บทไซม่อนนี่ นอกจากพี่เฉินจะมาเป็นตัวเลือกแล้วก็ยังมี Steven Seagal กับ Jean-Claude Van Damme ที่ผู้สร้างอยากให้เป็นตัวร้าย แต่ทั้งสองก็เซย์โนครับ สุดท้ายเลยมาลงที่ Snipes ซึ่งผมว่าก็เหมาะแล้วนะ พี่แกเล่นได้ดีออก พี่ซีเก้าหรือแวนแดมม์ก็ไม่น่าจะคลั่งได้ขนาดนี้หรอก
Nigel Hawthorne ดารารุ่นเก๋ามารับบทเป็น ดร.เรย์มอนด์ ค๊อคโต้ ผู้วางระบบเมืองจนทุกคนมีระเบียบขนาดนี้ ปู่แกก็ไม่ต้องทำอะไรมากครับ แค่นิ่งๆ ทำตาเลือดเย็นก็ใช้ได้แล้ว, Benjamin Bratt ที่ตอนนั้นยังไม่ดังก็มาเล่นเป็น อัลเฟรโด้ การ์เซีย เพื่อนตำรวจของเลนิน่า, Bob Gunton รับบทจอร์จ เอิร์ล หัวหน้าตำรวจลอสแองเจลิสที่โผล่มาด่าพี่สไลของผมทั้ง เรื่อง และ Denis Leary รับบทเป็นเอ็ดการ์ เฟรนด์ลี่ ผู้นำกบฎที่อยากปลดปล่อยชาวเมืองให้มีอิสระจากการอยู ่ในกรอบที่เรย์มอนด์วาง ไว้ ดาราแต่ละรายก็ช่วยสร้างสีสันให้หนังได้ดีครับ
แม้หนังเรื่องนี้จะไม่ได้มีฉากแอ๊คชั่นตลอดทั้งเรื่อ งก็ตาม แต่หนังก็มีความฮาแทรกเข้ามานะครับ มีสภาพบ้านเมืองในอนาคตที่น่าสนใจในระดับหนึ่ง หนังเลยไม่น่าเบื่อ อีกทั้งฉากบู๊แต่ละตอนก็ทำออกมาได้ดีครับ อย่างตอนตีกันในพิพิธภัณฑ์นั่นก็ออกมามันส์ใช้ได้ เรียกว่าแม้จะตีกันน้อย แต่ก็สนุกครับ
แล้วหนังเรื่องนี้ยังมีการอำชาวบ้าน + มุขตลกวงในเต็มไปหมด ตั้งแต่ที่ Bullock เธอแสดงท่ากังฟูให้พี่สไลดูนอกกองถ่ายครั้งนึงนะครับ แล้วพี่สไลก็ถามว่าเธอไปหัดมาจากไหน เธอก็บอกว่าหัดมาจากหนังเฉินหลง ซึ่งพี่สไลแกก็เลยตัดสินใจใส่ฉากและบทพูดที่ว่านี่ลง ไปในหนังซะเลย (และพี่สไลแกก็สนิทกับเฉินหลงด้วยล่ะครับ)
หรือตอนตีกันในพิพิธภัณฑ์ ท่านก็จะได้เห็นข้าวของมากมายซึ่งหลายอย่างมาจากหนัง Rambo ที่พี่สไลแกแสดงนั่นแหละหรือในโรงพัก จะมีโปสเตอร์ Lethal Weapon 3 แปะอยู่ ซึ่งทั้งหนังเรื่องนี้และ LW 3 ก็อำนวยการสร้างโดย Joel Silver ทั้งคู่ และมีช่างออกแบบฉากที่ชื่อ Mark Poll ทั้งคู่เช่นกัน และชื่ออัลเฟรโด้ การ์เซีย ตัวละครที่ Bratt แสดงก็เอามาจากชื่อหนังของผู้กำกับจอมซาดิสม์ Sam Peckinpah ที่ชื่อว่า Bring Me the Head of Alfredo Garcia ก็ถ้าคุณๆ เก็ทน่ะนะครับ มันก็เพลินดีเหมือนกัน
นอกจากนี้หนังยังมีความแปลกอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือหนังเรื่องนี้ไปๆ มาๆ ดันไปบังเอิญใกล้เคียงกับอนาคตจริงๆ เข้าหลายเรื่อง เริ่มจากในหนังมีครั้งหนึ่งที่ Bullock พูดกับพี่สไลว่า "While you were sleeping... " ซึ่งเป็นการพูดเล่าเกี่ยวกับว่าตอนที่เขาโดนแช่แข็งน ั่น เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ปรากฏว่า อีกปีต่อมาเจ๊แกก็ได้เล่นหนังที่ชื่อ While you were sleeping จริงๆ
หรือในเรื่องที่เจ๊ Bullock เป็นคู่หูตำรวจกับ Bratt ปรากฏว่าต่อมาทั้งคู่ก็ได้มาเล่นคู่กันเป็นคู่หูจริง ๆ อีกใน Miss congeniality
แต่ที่เหนือความคาดหมายคือ หนังแซว Arnold Schwarzenegger โดยการบอกว่าพี่แกมีห้องสมุดเป็นของตนเองในอนาคตและย ังได้รับความนิยมอย่าง มากจนแกได้เป็นประธานาธิบดีด้วย แล้ว 10 ปีต่อมา พี่แกก็ได้รับความนิยมจนได้เป็นผู้ว่าแคลิฟอร์เนียจร ิงๆ ซะนี่
บังเอิญดีเน้อะ
(แล้ว..สรุปไอ้เปลือกหอยสามอันมันไว้ใช้ทำอะไรกันแน่ เนี่ย?)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก..คุณ BB IP: 124.121.136.7 วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:15:03:19 น. "Bloggang.com"
TraiLer
MeNu
ScreenShots
http://www.filecondo.com/dl.php?f=w5e89b1ApO4L