คริส ไคล์ เติบโตในเท็กซัสและได้รับการสอนจากพ่อของเขาให้ยิงปื นไรเฟิลและล่ากวาง หลายปีต่อมา คริสกลายเป็นคนงานไร่และ คาวบอย โรดิโอและกลับบ้านก่อนเวลาเพื่อพบว่าแฟนสาวของเขานอน อยู่กับผู้ชายคนอื่น หลังจากบอกให้เธอออกไป เขาได้เห็นข่าวคราวเกี่ยวกับเหตุระเบิดสถานทูตสหรัฐใ นปี 1998และตัดสินใจเข้าร่วมกองทัพเรือ เขาผ่านการฝึกอบรมพิเศษและกลายเป็นมือปืนใน หน่วยซีล ของ กองทัพเรือสหรัฐ

คริสพบกับทาย่า สตูดเบเกอร์ที่ผับไอริชในซานดิเอโก และในไม่ช้าทั้งสองก็แต่งงานกัน เขาถูกส่งไปอิรักหลังจากเหตุการณ์ 9/11เหยื่อรายแรกของเขาคือผู้หญิงและเด็กชายที่โจมตีหน ่วยนาวิกโยธินสหรัฐขณะลาดตระเวนด้วยระเบิดต่อต้านรถถ ัง RKG-3 ที่ผลิตในรัสเซีย คริสรู้สึกเสียใจอย่างเห็นได้ชัดกับประสบการณ์นี้ แต่ต่อมาก็ได้รับฉายาว่า ตำนาน จากการสังหารเหยื่อจำนวนมากของเขา

คริส ได้รับมอบหมายให้ตามล่าผู้นำอัลกออิดะห์อาบู มูซาบ อัล-ซาร์กาวีคริสจึงซักถามครอบครัวหนึ่งซึ่งพ่อของพวกเขา เสนอที่จะพาหน่วยซีลไปหา เดอะ บุตเชอร์ รองหัวหน้าของอัล-ซาร์กาวี แผนล้มเหลวเมื่อเดอะ บุตเชอร์จับพ่อและลูกชายของเขาและฆ่าพวกเขาในขณะที่ม ือปืนกดคริสไว้ มือปืนคนนี้มีชื่อว่ามุสตาฟาและเป็น ผู้ได้รับเหรียญ รางวัลโอลิมปิกจากซีเรียในขณะเดียวกัน กลุ่มกบฏก็ประกาศค่าหัวคริส

คริสกลับบ้านไปหาภรรยาและลูกที่เพิ่งคลอด เขาเสียสมาธิไปกับความทรงจำเกี่ยวกับประสบการณ์สงครา มและความห่วงใยที่เทย่ามีต่อพวกเขาในฐานะคู่รัก เธอหวังว่าเขาจะมุ่งความสนใจไปที่บ้านและครอบครัวของ เขา

คริสออกเดินทางไปปฏิบัติภารกิจครั้งที่สองและได้รับก ารเลื่อนตำแหน่งเป็นนายทหารยศจ่าโท เขาเข้าไปพัวพันกับการยิงต่อสู้ของเดอะบุตเชอร์และช่ วยฆ่าเขา คริสเริ่มห่างเหินจากครอบครัวมากขึ้นเมื่อกลับมาบ้าน และพบลูกสาวที่เพิ่งเกิดใหม่ ในการปฏิบัติภารกิจครั้งที่สามของคริส มุสตาฟาทำร้ายสมาชิกหน่วยคนหนึ่งชื่อไรอัน บิ๊กเกิลส์ จ็อบอย่างรุนแรง และหน่วยก็ถูกอพยพกลับฐาน เมื่อพวกเขาตัดสินใจกลับไปที่สนามและดำเนินภารกิจต่อ มาร์ก ลี ซึ่งเป็นหน่วยซีลอีกคนก็ถูกยิงเสียชีวิต

ความรู้สึกผิดบีบบังคับให้คริสต้องออกปฏิบัติการเป็น ครั้งที่สี่ และทาย่าบอกเขาว่าเธออาจจะไม่อยู่ที่นั่นเมื่อเขากลั บมา เมื่อกลับมาถึงอิรัก คริสก็ตกใจเมื่อรู้ว่าบิ๊กเกิลส์เสียชีวิตระหว่างการ ผ่าตัดเพื่อรักษาบาดแผลที่เขาได้รับ ทีมซุ่มยิงของคริสได้รับมอบหมายให้ฆ่ามุสตาฟาซึ่งซุ่ มยิง วิศวกรรบ ของกองทัพสหรัฐฯที่กำลังสร้างสิ่งกีดขวาง โดยถูกส่งไปประจำการบนหลังคาในเขตแดนของศัตรู

คริสมองเห็นมุสตาฟาและยิงเขาออกไปด้วยการยิงระยะไกลท ี่เสี่ยงอันตรายที่ระยะ 2,100 หลา (1,920 เมตร) แต่การกระทำดังกล่าวทำให้ตำแหน่งของทีมของเขาถูกเปิด เผยต่อกลุ่มกบฏติดอาวุธจำนวนมาก ท่ามกลางการยิงต่อสู้และกระสุนปืนใกล้จะหมด คริสโทรหาทาย่าด้วยน้ำตาคลอเบ้าและบอกว่าเขาพร้อมที่ จะกลับบ้านแล้ว พายุทรายทำให้เกิดการปกปิดเพื่อหลบหนีอย่างโกลาหล ซึ่งเขาได้รับบาดเจ็บและเกือบจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

หลังจากคริสกลับมาที่สหรัฐอเมริกาในสภาพที่ตึงเครียด และไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตพลเรือนได้อย่างเ ต็มที่ จิตแพทย์ของกรมกิจการ ทหารผ่านศึกถามว่าเขายังคงหลอกหลอนกับสิ่งต่างๆ ที่เขาเคยทำในสงครามหรือไม่ เมื่อเขาตอบว่า ผู้คนที่เขาช่วยไม่ได้ทั้งหมด คอยหลอกหลอนเขา จิตแพทย์จึงแนะนำให้เขาช่วยเหลือทหารผ่านศึกที่บาดเจ ็บสาหัสในโรงพยาบาล VA หลังจากนั้น คริสก็เริ่มค่อยๆ ปรับตัวให้เข้ากับชีวิตที่บ้าน

หลายปีต่อมา ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2013 คริสกล่าวอำลาภรรยาและครอบครัวของเขาในขณะที่เขาจากไ ปอย่างมีความสุขเพื่อใช้เวลาอยู่กับเอ็ดดี้ เรย์ รูธ ทหารผ่านศึกที่ป่วยเป็นโรค PTSD ที่สนามยิงปืน คำบรรยายใต้ภาพบนหน้าจอเผยให้เห็นว่าคริสถูก รูธ สังหารในวันนั้น ตามมาด้วยภาพเก็บถาวรของฝูงชนที่ยืนอยู่ริมทางหลวงเพ ื่อร่วมขบวนศพของเขา นอกจากนี้ยังมีภาพอื่นๆ ที่เข้าร่วมพิธีรำลึกถึงเขาอีกด้วย




American_Sniper_(2014)_สไนเปอร์มือพระกาฬ_แห่งประวั ติศาสตร์อเมริกา.mkv
http://www.filecondo.com/dl.php?f=602f7c1UyoHO

5.29 GB