+ ตอบกลับกระทู้
สรุปผลการค้นหา 1 ถึง 3 จากทั้งหมด 3
  1. #1
    Administrators รูปส่วนตัว Duckload.us
    สมัครเมื่อ
    Dec 2010
    โพสต์
    159,868
    Thanks
    7
    Thanked 166,556 Times in 73,541 Posts

    Lightbulb [ฝรั่ง]-[HD2DVD] Apollo 18 (2011) | หลุมลับสยองสองล้าน [เสียง :ไทย-อังกฤษ] ดูข้างในก่อนโหลดครับ-[DVD5]



    Pilot

    ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โครงการนาซ่า ได้ยกเลิกภารกิจสำรวจดวงจันทร์ด้วยยาน Apollo 18-20 โดย ยานApollo 17 ถือเป็นยานลำสุดท้ายที่ถูกส่งขึ้นไปสำรวจในปี 1972 มีหลายฝ่าย หลายองค์กรต่างตั้งคำถามกับนาซ่าว่า เพราะเหตุใดนาซ่าจึงได้หยุดสำรวจดวงจันทร์ของ Apollo 18-20ลง ทั้งๆที่การสำรวจของยานก่อนหน้านี้กำลังรุดหน้าไปด้ว ยดี หรือนาซ่าพบอะไรบางอย่างบนดวงจันทร์จนต้องปกปิดเป็นค วามลับ

    คำถามเหล่านั้นไม่ได้ถูกเฉลยจนกระทั่งภาพยนตร์เรื่อง APPOLLO 18 เกิดขึ้น
    ภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามใช้ข้อได้เปรียบของความสงสัย ของมนุษยชาติ สร้างเรื่องขึ้นมาโดยใช้วิธีการถ่ายทำแบบสารคดี เพื่อสร้างความสมจริง ซึ่งวิธีการแบบนี้เคยถูกนำเสนอมาแล้วจาก ภาพยนตร์เรื่อง The Blair Witch Project (1999) , Paranormal Activity(2007) และ Cloverfield (2008)

    การสร้างเรื่องขึ้นมาและบอกว่ายาน apollo 18 ได้ถูกส่งขึ้นไปสำรวจอย่างลับๆจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ฯนั้น และบอกว่าวิดีโอเหล่านี้คือที่สิ่งถูกค้นพบจากการสำร วจ วิธีนี้นั้นเป็นกาวดักหนูชั้นดีให้มนุษยชาติทั่วโลกส นใจและพร้อมเสียเงินใน การซื้อตั๋วเข้ามาชมภาพยนตร์ แต่หากชมจบลงแล้ว คงจะบอกได้คำเดียว ว่าไม่น่าโดนหลอกมาดูเลย

    เพราะสิ่งที่หนังนำเสนอมันคือสิ่งที่เคยถูกนำเสนอมาจ นหมดแล้ว เรียกได้ว่า หนังเรื่องนี้ ผสมผสานในหลายแนวทาง หลายพล็อต เอามารวมมิตรยำกัน ซึงพอจะยกตัวอย่างคร่าวๆได้ดังนี้

    1. การส่งนักบินอวกาศขึ้นไปแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แต่ทางโลกรู้ทุกอย่าง หนังไซไฟขึ้นชื่อ อย่าง Alien(1979) ก็ได้ทำมาแล้ว

    2. การพยายามค้นหาความจริง หรือการตระหนักรู้ในคุณค่าความเป็นมนุษย์ หนังอย่าง Moon(2009) ก็ได้สร้างแล้ว **สำหรับเรื่อง Moon เป็นหนังดีที่แนะนำให้ดูจริงๆ **

    3.การใช้พล็อตเรื่องครอบครัวเข้ามาช่วยในตอนแรก เพื่อให้นักบินตระหนักเห็นคุณค่าของตัวเอง ในขณะที่รู้ตัวว่าจะไม่ได้กลับโลก ซึ่งพล็อตพวกนี้ ถือว่าเกร่อ และถูกนำมาใช้ในหนังมากมาย (แต่เป็นวิธีการที่ใช้ได้ผล เพราะว่าตามหลักทฤษฎีจิตวิเคราะห์แล้ว ครอบครัวคือสิ่งที่มีคุณค่าที่สุด ที่คนจะมีชีวิตอยู่ต่อไป)

    4.หรือจะเป็นเรื่องกล้องในแนวสารคดี ก็ถูกนำมาใช้แล้วอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น

    อาจกล่าวได้ว่า สิ่งที่ถูกนำเสนอในภาพยนตร์เรื่องนี้คือสิ่งเก่าที่น ักดูหนังเคยพบเจอมาหมด แล้ว เว้นอยู่แค่เรื่องแต่งที่ apollo 18 ได้ขึ้นไปดวงจันทร์เท่านั้น

    ดังนั้นเชื่อเหลือเกินว่าบทภาพยนตร์แบบนี้เกิดขึ้นมา ได้จากตามกระแสความ สงสัย ว่าสิ่งใดคือสิ่งที่อยู่บนดวงจันทร์ และนั้นทำให้ยอดรายได้ทางการตลาดพุ่งปรี๊ดอย่างแน่นอ น(รายได้รวมทั้งโลกนะ เพราะเมืองไทยอาจไม่ชอบหนังสไตล์นี้)

    ซึ่งวิธีการนำเสนอในรูปแบบสมจริง เป็นผลตามมาของการปวดหัว และตัดต่อภาพแบบ Jump cut ซึ่งหนังต้องการให้ผู้ชมรู้สึกร่วมไปกับการใช้ชีวิตข องนักบินอวกาศในการดำรง ชีพอยู่บนดวงจันทร์ที่เงียบ อึดอัด และน่ากลัว พูดอย่างง่ายๆ ก็คือ ทำให้ผู้ชมอึดอัดไปกับตัวละครนั่นเอง และสิ่งนี้ดูจะเป็นจุดเด่นที่สุด นอกเสียจากผู้ชมจะไม่ชอบกับวิธีการนำเสนอในแนวทางนี้

    แม้หนังจะมีจุดบกพร่องในความสมเหตุสมผลหลายจุด ไม่ว่าการละเลยการบ่งบอกว่า กล้องวิดีโอของนักบินอวกาศที่หลุดมาถึงโลกได้อย่างไร ในเมื่อผู้คนเหล่านั้นไม่ได้กลับมาถึงโลก หรือกระทั่งรอยเท้าบนดวงจันทร์ ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ เหมือนรอยเท้าคนปกติบนโลกมนุษย์ ทั่้งที่ความจริงแล้ว มันควรจะมีระยะห่าง แตกต่างกันไป เพราะแรงโน้มถ่วงบนดวงจันทร์แตกต่างกับบนโลกมนุษย์

    หรือจะมีการแสดงที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผล โดยเฉพาะตอนที่ นักบินอวกาศ 1 ใน 2 คนนั้นต้องติดเชื้อ แต่มักทำอะไรบ้าบิ่น จนคนดูสับสนว่า มันตายหรือยัง มันเป็นคนหรือเปล่า แล้วทำไมมันชอบทำตัวบ้าบิ่นเกินไป หรือกระทั่งทำตัวดูโง่ๆ

    ซึ่งถ้าหากสังเกตให้ดี จะรู้สึกได้ว่า หนังไม่ค่อยเคารพผู้ชมเท่าไหร่ในการให้รายละเอียดต่า งๆ จนบางครั้งต้องถามตัวเองว่า ถ้าเราคล้อยตามไปกับหนัง แสดงว่าเราเป็นเชื่อคนง่ายใช่ไหม อย่างเช่นตอนที่นักบินเก็บหินบนดวงจันทร์แล้วห่อพลาส ติกไว้อย่างดี แต่กลับพบว่ามันหล่นอยู่บนพื้น แทนที่นักบินจะเอาหินที่ห่อไว้มาเทียบเคียง แต่กลับโวยวายและบอกว่า มันมาอยู่ตรงพื้นนี้ได้อย่างไร

    ทั้งหมดทั้งมวล จึงอาจกล่าวได้ว่า Apollo 18 คือหนังที่ชวนให้คนดูอึดอัด กับสไตล์การถ่ายภาพ มิหนำซ้ำยังผลักไสคนดูออกไปจนคนดูเหมือนไม่มีส่วนร่ว มต่อเหตุการณ์ จึงไม่แปลกหากใครไปชมแล้ว จะออกมาอย่างผิดหวังต่อตัวภาพยนตร์ เพราะข้อมูลที่หนังได้ให้ตลอดระยะเวลา 80 นาที มันช่างเบาหวิวซะเหลือเกิน

    แต่ใช่ว่าภาพยนตร์จะมีแต่ข้อเสียทั้งหมด การดำเนินเรื่องของภาพยนตร์ใช้วิธีสงสัยใคร่รู้ของผู ้ชม ในความลับที่ให้ผู้ชมค้นหา เพื่อไปค้นพบกับคำตอบ ซึ่งนี่แหละคือจุดแข็งของภาพยนตร์ ไม่มีทางล่วงรู้ในความลับได้เลยถ้าเราไม่เข้าไปสัมผั สด้วยตัวเอง

    SS:






    Rip จากไฟล์ของ คุณ จั่นเจา ขอบคุณมากๆครับ

    ทำความเข้าใจเกี่ยวกับไฟล์

    1.ไฟล์ของผมทำแบบง่ายๆไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก
    2.ไม่ได้เน้นที่เมนูบางท่านอาจจะชอบเมนูสวยๆต้องขออภ ัยด้วยความสามารถไม่ถึงบางท่านอาจจะชอบแบบไม่มีเมนู (โหลดไฟล์ HD เลยดีไหม)
    3.วีธีผมก็สอบถามวิธีทำจากพี่ๆน้องๆในเว็บนี่แหละครั บและก็หาโปรแกรมเอง ใช้โปรแกรมง่ายๆ
    4.วิจารณ์กันได้แต่อย่าให้เกินไปครับ เห็นแก่เจ้าของไฟล์บ้างน่ะครับ
    5.ไฟล์มีปัญหาต้องขออภัยด้วยน่ะครับ
    6.ใครไม่ถูกใจผ่านได้เลยน่ะครับ
    7.เพื่อสังคมแห่งการแบ่งปันครับ

    http://www.filecondo.com/dl.php?f=x6ae5c1rTU33

  2. #2
    Senior Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2012
    โพสต์
    301
    Thanks
    2
    Thanked 0 Times in 0 Posts
    ขอบคุณมากครับ

  3. #3
    Senior Member
    สมัครเมื่อ
    Dec 2011
    โพสต์
    694
    Thanks
    2
    Thanked 0 Times in 0 Posts
    ขอบคุณนะครับ

+ ตอบกลับกระทู้

ข้อมูลกระทู้

Users Browsing this Thread

ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)

     

กฎการโพสต์ข้อความ

  • ท่าน ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขข้อความโพสต์ได้
  • BB code สถานะ เปิด
  • Smilies สถานะ เปิด
  • [IMG] สถานะ เปิด
  • HTML สถานะ ปิด